สว.ใหม่ไฟแรง ชงแก้ไขข้อบังคับการประชุม ปรับลด จำนวน กมธ.จาก 26 คณะ เหลือ 23 คณะ ยุบรวม 3 กมธ.ภารกิจ ซ้ำซ้อนขอผ่าน 3 วาระรวด กลุ่มพันธุ์ใหม่เสนอปรับ แก้เพื่อประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ประชาชน “อังคณา” ชูแยกตั้ง กมธ.เด็ก-สตรี ออกจากผู้สูงอายุ-คนพิการ-กลุ่มชาติพันธุ์ ดักคอแก๊งกินรวบเก้าอี้ ปธ.กมธ. ขอคนมีความรู้-ประสบการณ์-ความสามารถ ด้านฝ่ายค้านยังข้องใจใช้งบเหลื่อมปี 67-68 ไปใช้กับดิจิทัลวอลเล็ต ตั้งข้อสังเกตห่วงกระทบค้าปลีก จี้คุมเข้มข้อมูลประชาชนห้ามรั่วไหล วิป รบ.โวผ่านล้านเปอร์เซ็นต์ “ก้าวไกล” เรียกน้ำย่อยจับตาคดียุบพรรค 7 ส.ค.

สว.ชุดใหม่เตรียมเสนอญัตติแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา ขอให้มีการปรับลดจำนวนคณะกรรมาธิการสามัญ วุฒิสภา (กมธ.) จากเดิมที่มีอยู่ 26 คณะ เหลือ 23 คณะ เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวน สว. ที่ลดลงจากเดิม 250 คน เหลือ 200 คน

สว.ชงแก้ข้อบังคับยุบรวม 3 กมธ.

เมื่อวันที่ 28 ก.ค. นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สว. กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมเสนอญัตติแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา ต่อประธานวุฒิสภา เพื่อให้มีจำนวนคณะกรรมาธิการสามัญ วุฒิสภา (กมธ.) สอดคล้องกับจำนวน สว.ที่เปลี่ยนแปลงไปว่า จากการหารือกับ สว. เบื้องต้นได้ข้อสรุปจะลดจำนวน กมธ.สามัญจากเดิมมี 26 คณะ ให้เหลือ 23 คณะ เนื่องจากจำนวน สว.ลดลงจาก 250 คน เหลือ 200 คน มี กมธ. 3 คณะที่ต้องยุบรวม คือ 1.กมธ.ท่องเที่ยว และ กมธ.กีฬา จากเดิมแยกกันอยู่คนละคณะ มารวมเป็นคณะเดียวกันคือ กมธ.ท่องเที่ยวและกีฬา เพราะมีภารกิจหน้าที่คล้ายคลึงกัน สามารถยุบรวมกันได้ 2.กมธ.ติดตามการบริหารงบประมาณ กับ กมธ.กิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ รวมเป็น กมธ.กิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญและติดตามการบริหารงบประมาณ 3.ยุบ กมธ.แก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ เปลี่ยนเป็น กมธ.วิสามัญแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ ส่วน กมธ.การเงิน การคลัง ธนาคารและสถาบันการเงิน ให้เติมรัฐวิสาหกิจเข้าไปด้วย เป็น กมธ.การเงิน การคลัง ธนาคาร สถาบันการเงิน และรัฐวิสาหกิจ ให้มีภารกิจครอบคลุมมากขึ้น

...

เร่งเครื่องตั้ง กมธ.ผ่าน 3 วาระรวด

นายสรชาติกล่าวว่า สําหรับ กมธ.วิสามัญที่จะเสนอให้มี 2 คณะ คือ 1.กมธ.วิสามัญแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ มีหน้าที่พิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม 2.กมธ.วิสามัญแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อพิจารณาศึกษาหาแนวทางที่เหมาะสม เพื่อรองรับข้อเสนอให้แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่อาจมีขึ้นในอนาคต อยากเสนอเข้าที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณาโดยเร็วที่สุด แบบ 3 วาระรวด ตั้ง กมธ.เต็มสภาขึ้นมาพิจารณาวันเดียวจบ จะได้มี กมธ.คณะต่างๆ มาทำงานแก้ปัญหาให้บ้านเมืองและประชาชนเร็วที่สุด

นันทนา นันทวโรภาส
นันทนา นันทวโรภาส

กลุ่มพันธุ์ใหม่ขอปรับแก้ให้เหมาะสม

น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ กล่าวว่า กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ได้หารือเตรียมเสนอญัตติแก้ไขข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา ในส่วน กมธ.สามัญ จากเดิมมี 26 คณะ พิจารณาปรับแก้ไขลดหรือเพิ่มให้ครอบคลุมเรื่องต่างๆ ให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ประชาชนมากที่สุด ส่วนการกำหนดสเปกบุคคลที่จะเข้าไปเป็น กมธ. เป็นรายละเอียดที่ต้องพิจารณาหลังจากโครงสร้างใหญ่ คือคณะ กมธ.พิจารณาแล้วเสร็จ กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ประชุมทุกวันจนกว่าจะได้ข้อสรุปเป็นญัตติ และเตรียมไปเสนอพูดคุยกับกลุ่มอื่น เพราะการเสนอญัตติต้องมี สว.รับรองไม่น้อยกว่า 20 คน เชื่อว่าญัตตินี้จะได้รับการสนับสนุนครบจำนวน เมื่อถามว่ามีข้อเสนอต่อการปรับรูปแบบการโหวตประธาน และรองประธานวุฒิสภาให้โปร่งใสแทนการลงคะแนนลับหรือไม่ น.ส.นันทนาตอบว่า เป็นขั้นตอนที่ประชาชนรู้สึกว่ามืดๆ หากสามารถปรับเปลี่ยนได้จะผลักดัน เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้และรู้สึกว่าการทำหน้าที่ของ สว.โปร่งใส ประชาชนตรวจสอบ ในการแก้ไขข้อบังคับจะพิจารณาอีกครั้งว่าสามารถไปถึงจุดนั้นได้หรือไม่

อังคณา นีละไพจิตร
อังคณา นีละไพจิตร

“อังคณา” ชูแยกตั้ง กมธ.เด็ก–สตรี

นางอังคณา นีละไพจิตร สว. กล่าวว่า ขณะนี้ มีการส่งรายละเอียดแก้ไขข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา มายัง สว.บางคน เพื่อขอให้สนับสนุนการแก้ไขลดจำนวน กมธ.ลง จากเดิมมี 26 คณะ เหลือ 23 คณะ เหตุผลเพื่อประหยัดงบประมาณ ส่วนตัวมองว่าหากต้องการประหยัดงบประมาณควรทำส่วนอื่น เช่น ลดงบประมาณการศึกษาดูงานเป็นต้น เนื้อหาคณะ กมธ.ที่ปรับลดนี้ ยังไม่เห็นรายละเอียด แต่อยากเรียกร้อง ให้การทำงานร่วมกันของ สว.เป็นไปด้วยความโปร่งใส ใครเสนอร่างแก้ไขอะไร ควรให้เนื้อหามาพิจารณาด้วย เรื่องจำนวน กมธ.ไม่ติดใจว่าจะลดหรือเพิ่ม แต่ควรพิจารณาให้เหมาะสมเป็นไปตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ เช่น เดิมมี กมธ.พัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส แต่รัฐธรรมนูญ แยกที่มาของ สว. เป็นกลุ่มสตรีโดยเฉพาะ เมื่อพิจารณา ถึงการตั้งคณะ กมธ. ควรให้กลุ่มสตรีรวมกับกลุ่มเด็ก เยาวชน ผู้มีความหลากหลาย ส่วนคนพิการ ผู้สูงอายุ กลุ่มชาติพันธุ์ ควรเป็นอีกคณะ ขณะที่การตั้งคณะอนุ กมธ. หวังว่าคนที่เป็นประธาน กมธ.ในชุดนั้นจะใจกว้าง ให้มีผู้แทนคนพิการ คนชาติพันธุ์ ร่วมเป็นอนุ กมธ. เพราะกลุ่มนี้ไม่มีตัวแทนได้รับเลือกให้เป็น สว.

เลือก ปธ.กมธ.ยึดความสามารถ

นางอังคณากล่าวอีกว่า การเริ่มทำงานใน กมธ. ต้องรอแก้ไขข้อบังคับการประชุมก่อน คงใช้เวลา 30-60 วัน มองว่าเมื่อเสนอญัตติแล้วให้มีการอภิปราย เต็มสภา เพื่อเสนอความเห็นและหามติร่วมกัน ทั้งนี้ต้องพิจารณาว่าจะเป็นไปในรูปแบบใด เมื่อถามว่ามีกระแสบางกลุ่มจองโควตาประธาน กมธ.ไว้แล้ว นางอังคณาตอบว่า ยังไม่ทราบว่าใครนั่ง กมธ.ใดบ้าง เหมาะสมหรือตรงประสบการณ์หรือไม่ มองว่าคนที่ เป็นประธาน กมธ.ต้องมีจุดมุ่งหมายชัดเจนจะทำงาน ไปในทิศทางไหน ดังนั้น นอกจากการเลือก กมธ.ตามความสนใจแล้วควรพิจารณาเรื่องประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถในการทำงานด้วย

ฝ่ายค้านยังข้องใจใช้งบเหลื่อมปี

วันเดียวกัน นายธีระชัย แสนแก้ว โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2567 (กมธ.งบกลางปี) วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท กล่าวว่า กมธ.ฯใช้เวลาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว 3 ครั้ง 3 วัน แม้จะรวดเร็วแต่มีความรอบคอบ เชิญ 9 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล กมธ.ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านซักไซ้รายละเอียดอย่างหนัก ตัวแทนหน่วยงานที่มาชี้แจงตอบคำถามได้ ยืนยันการเตรียมความพร้อมโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ครอบคลุมทุกกลุ่ม ความพร้อมระบบแอปพลิเคชัน แต่สิ่งที่ กมธ.ฝ่ายค้านยังขอสงวนความเห็น คือข้อสงสัยเรื่องงบประมาณรายจ่ายปี 2567 ที่ต้องใช้ให้จบในปี 2567 จะนำไปใช้ข้ามปี 2568 ได้หรือไม่ รวมถึงการขอตั้งลดงบประมาณเพิ่มเติมปี 2567 ลงมา ทั้งนี้ สำนักงบประมาณยืนยันต่อที่ประชุมว่า สามารถใช้งบฯเหลื่อมปีได้ มั่นใจว่าการประชุมในวาระ 2-3 จะผ่านไปด้วยดี ไม่น่าเป็นห่วง ไม่มีการตีรวนเอาเป็นเอาตาย เพราะมีประชาชนรออยู่

พิชัย ชุณหวชิร
พิชัย ชุณหวชิร

ห่วงดิจิทัลวอลเล็ตกระทบค้าปลีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในรายงานของ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2567 ที่มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายก รัฐมนตรีและ รมว.คลัง เป็นประธาน มีการตั้งข้อสังเกต อาทิ เรื่องผลกระทบด้านการแข่งขันทางการค้า คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) มีหน้าที่ให้คำปรึกษาต่อ ครม. เกี่ยวกับนโยบายที่ส่งผลต่อการแข่งขันตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า จึงควรให้ กขค.เข้ามามีส่วนร่วม ให้คำปรึกษาและประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการฯ ที่จะใช้งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี 2567 โดยเฉพาะในด้านที่จะกระทบต่อการแข่งขันในตลาดค้าปลีกค้าส่ง ทั้งภาพรวมของตลาดระดับประเทศและระดับพื้นที่ เนื่องจากตลาดค้าปลีกค้าส่งในปัจจุบันมีการกระจุกตัวค่อนข้างสูง

คุมเข้มข้อมูลประชาชนห้ามรั่ว

ส่วนประเด็นมาตรการกำกับดูแลเพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขของโครงการฯ ควรมีการประชาสัมพันธ์การกระทำที่เข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตให้ชัดเจนตั้งแต่ก่อนเริ่มดำเนินโครงการฯ เพื่อเป็นการป้องกันการกระทำความผิด และควรมีหน่วยงานรับเรื่องร้องเรียน ตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม กรณีที่พบเห็นการกระทำความผิดในการใช้เงินตามโครงการดังกล่าว โดยมีช่องทางที่ประชาชนสามารถติดต่อได้โดยสะดวก ขณะที่เรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนั้น รัฐควรจัดให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเปิดเผยมาตรการดังกล่าวให้ประชาชนทราบ ควรให้คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) เข้ามามีส่วนร่วมติดตามและประเมินผลการกำหนดนโยบาย และมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

วิสุทธิ์ ไชยณรุณ
วิสุทธิ์ ไชยณรุณ

วิป รบ.คุยโวผ่านล้านเปอร์เซ็นต์

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 31 ก.ค.นี้ มีวาระสำคัญ คือ การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท วาระ 2-3 เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ตามที่ กมธ.พิจารณาเสร็จแล้ว คาดว่าใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงแล้วเสร็จ เนื่องจากมีผู้เสนอแปรญัตติไว้ประมาณ 20 คน ใครไม่ได้แปรญัตติไว้ไม่สามารถอภิปรายได้ มั่นใจว่าจะได้รับความเห็นชอบผ่านวาระ 2-3 ไปได้แน่ ไม่มีอะไรน่ากังวล เพราะประชาชนรอความหวังโครงการดิจิทัลวอลเล็ตอยู่ เชื่อมั่นล้านเปอร์เซ็นต์ไม่มีปัญหา

“ก้าวไกล” เรียกน้ำย่อยคดียุบพรรค

ขณะที่เพจเฟซบุ๊กพรรคก้าวไกล ปล่อยคลิปวิดีโอเชิงสารคดี ความยาว 7.52 นาที เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับคดียุบพรรคก้าวไกล ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยสัปดาห์หน้า พร้อมข้อความระบุว่า “คดียุบพรรคที่ #ก้าวไกล กำลังเผชิญอยู่ ย่อมไม่ต่างกับสิ่งที่พรรคอนาคตใหม่เผชิญเมื่อ 4 ปีที่แล้ว หรือพรรคการเมืองต่างๆ เจอมาในรอบเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา การยุบพรรคอาจยุบได้แค่องค์กรนิติบุคคล แต่ไม่สามารถหยุดชุดอุดมการณ์เช่นนี้ได้ และเราจะเดินหน้าต่อไป ไม่ว่าวันที่ 7 ส.ค.นี้จะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม จากอนาคตใหม่ สู่ก้าวไกล สู่อนาคต”

ยกระดับไทยศูนย์กลาง ศก.ดิจิทัล

อีกเรื่อง นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญสนับสนุนการลงทุน Data Center ในไทย เชื่อมั่นว่าการลงทุนในโครงการ Data Center และ Cloud Service จะช่วยต่อยอดพัฒนาการแข่งขันของไทยให้เป็นฐานการลงทุน เป็นโอกาสสนับสนุนไทยก้าวสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy Hub) เป็น 1 ใน 8 ของวิสัยทัศน์ IGNITE Thailand ของนายกฯ ทั้งนี้ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ขานรับต่อยอดการหารือของนายกฯกับเอกชนรายใหญ่ระดับโลกที่สนใจมาลงทุนในไทย พบว่า มีโครงการที่ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนรวม 37 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 98,539 ล้านบาท มีบริษัทชั้นนำระดับโลกหลายรายที่เข้ามาลงทุน เช่น Amazon Web Service จากสหรัฐอเมริกา ลงทุน 3 แห่ง ด้วยเงินลงทุนกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท Evolution Data Center จากสิงคโปร์ ลงทุน 4 พันล้านบาท และ Telehouse จากญี่ปุ่นลงทุน 2.7 พันล้านบาท รวมถึง Cloud Service อาทิ Alibaba Cloud ลงทุนกว่า 4 พันล้านบาท Huawei Technologies ลงทุนกว่า 3 พันล้านบาท ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ คาดการณ์ว่าในปี 2567 มูลค่าตลาด Data Center ของไทยมีแนวโน้มเติบโตประมาณร้อยละ 24 และมูลค่าบริการ Public Cloud จะขยายตัวที่ร้อยละ 29 ด้วยความเชื่อมั่นว่าไทยมีศักยภาพ และด้วยจุดแข็งสามารถยกระดับสู่ยุคดิจิทัล

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่