“เศรษฐา” ฮึดสู้คดี กำลังใจล้น ยันส่งข้อมูลครบ การันตีเพื่อไทย-ภูมิใจไทยแนบชิด

“นายกฯ” ย้ำกำลังใจเต็มเปี่ยม มั่นใจทำดีที่สุดแล้ว ส่งข้อมูลครบถ้วนแถลงปิดคดีแต่งตั้ง “พิชิต” เป็นรัฐมนตรี ย้ำเชื่อมั่นเสถียรภาพรัฐบาลแข็งโป๊ก ยกสัมพันธภาพ พท.-ภท.แน่นยิ่งกว่าปฏิญญา ไม่คิดอะไร โซเชียลแชร์คลิปว่อนคนคิดถึง “ลุงตู่” “อนุทิน” เผย ครม.ให้กำลังใจนายกฯรอดพ้นคดี ชี้ปัญหากัญชามั่นใจไม่ถูกหักหลัง ยึดแนวทางผู้นำให้ออก พ.ร.บ.ควบคุม ไม่กลับคืนไปเป็นยาเสพติด “อุ๊งอิ๊งค์” ขอจบดราม่า แจงลบ “อาเหลิม” พ้นกลุ่มไลน์ สส.พรรค ไม่อยากให้บั่นทอนทำให้ สส.อึดอัดใจ ลั่นไม่มีนโยบายขับใครออก ถ้าจะคุยให้มาที่พรรค ลั่นทุกคนโตๆกันแล้วตัดสินใจเองได้ กมธ.ศึกษานิรโทษฯ สรุป 3 แนวทางเข้าสภาฯ “ชูศักดิ์” แนะรัฐบาลเป็นเจ้าภาพดับไฟขัดแย้ง เร่งใช้มาตรการบริหารเคลียร์คดีเล็กๆที่คั่งค้าง “ชัยธวัช” ยัน ก.ก.ขอพ่วงรวมคดีมาตรา 112 ด้วย

สังคมจับตามองสถานการณ์การเมืองไทยช่วงเดือน ส.ค.จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะสิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่ กรณี แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีในวันที่ 14 ส.ค.และยังมีปัญหาเชิงนโยบายนำกัญชากลับคืนเป็นยาเสพติด ที่สวนทางกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล

นายกฯมั่นใจกำลังใจเต็มเปี่ยม

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 ก.ค. ที่สโมสรทหารบก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมหลังศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว กรณีที่ 40 สว.ยื่นคำร้องการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีในวันที่ 14 ส.ค.ว่า ยังไม่ได้เตรียมอะไร เพราะเพิ่งทราบเมื่อวันที่ 24 ก.ค. ต้องคอยฟัง ขณะนี้เป็นขั้นตอนแถลงปิดคดี แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นเมื่อไหร่ เข้าใจภายใน 7 วัน ส่วนที่หลายคนส่งกำลังใจให้นั้นขอบคุณมาก ที่ผ่านมาเชื่อว่าทำดีที่สุดแล้ว และเข้าใจว่าตอนนี้ส่งข้อมูลไปครบถ้วนทั้งหมดแล้ว เข้าใจว่าอยู่ในกระบวนการยุติธรรมทั้งหมดแล้ว จึงไม่อยากจะพูด เมื่อถามว่ายังมั่นใจเหมือนเดิมใช่หรือไม่ หลังเคยระบุไว้ว่าจะไม่ทำให้การทำงานสะดุดลง นายกฯตอบว่า ยังมั่นใจว่ายังทำงานเต็มที่ มีกำลังใจเต็มเปี่ยม

ยังเชื่อมั่นเสถียรภาพรัฐบาล

เมื่อถามว่าหลายฝ่ายเป็นห่วงว่าเดือน ส.ค.จะมีเหตุการณ์ทางการเมืองเกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ ยังเชื่อมั่นในพรรคร่วมรัฐบาลและเสถียรภาพทางการเมืองหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า “ท่านคงเห็นภาพที่ผมทำกิจกรรมกับพรรคร่วมรัฐบาลทุกๆคน วิธีการที่เราพูดจากันมีการพูดคุยกันตลอด การได้เจอกันเยอะในช่วงเดือนมหามงคลและมีการพูดคุยกัน งานยังเดินหน้าไปได้ด้วยดี อะไรที่ไม่เข้าใจกัน มีเป็นธรรมดาของการอยู่ร่วมกัน มีการจัดการแก้ไขปัญหากันไป” เมื่อถามว่าความเห็นต่างเรื่องกัญชาจะไม่ทำให้เกิดความบาดหมางใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าไม่ เพราะเราเองได้เสนอให้ออกเป็น พ.ร.บ.และมีการพูดคุยกัน ขอให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขที่จะต้องทำงานต่อไป

ชี้ พท.-ภท.ยิ่งกว่าปฏิญญา

เมื่อถามว่า มีการพูดคุยถึงปฏิญญาเขาใหญ่ นายกฯประเมินอย่างไรบ้าง นายกฯกล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่าหมายความว่าอะไร แต่ก็เข้าใจว่ามีภาพของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และภาพนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย (พท.) ซึ่งพรรค พท.กับพรรค ภท.เรามีมากกว่าปฏิญญา แต่เป็นสัญญาร่วมกันอยู่แล้ว เพราะเราอยู่ร่วมรัฐบาลเดียวกัน เป็นส่วนหนึ่งของสองพรรคที่ทำมา 314 เสียง ซึ่งเราพูดมาโดยตลอด ตรงนี้เชื่อมั่นว่าเป็นเรื่องของการไปตีกอล์ฟไปออกกำลังกายร่วมกันก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว และสังคมไทยเป็นสังคมที่เราคบหาสมาคมกันอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจ นักการเมือง หรืออดีตนักการเมือง

ไม่คิดอะไรธรรมดาคนคิดถึง “ลุงตู่”

เมื่อถามว่า ได้กำชับกระทรวงพาณิชย์อย่างไรบ้าง ถึงข้าวยากหมากแพงในเวลานี้ นายกฯกล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์มีหน้าที่กำกับดูแล กรมการค้าภายในก็มีหน้าที่กำกับดูแลราคาสินค้าให้อยู่ในราคาที่เหมาะสมถูกต้อง ส่วนเรื่องค่าไฟฟ้าและค่าน้ำมัน เป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนในที่ประชุม ครม. เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาได้มีมาตรการต่ออายุช่วยเหลือประชาชนออกมาแล้ว เมื่อถามว่าในโซเชียลมีเดียไปไกลถึงขนาดเรียกร้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรีและอดีตนายกฯ นายเศรษฐากล่าวว่า เป็นธรรมดา เพราะนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์อยู่มา 8 ปี ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติหลายอย่าง คงมีคนคิดถึงเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ได้คิดอะไร ส่วน โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของกระทรวงการคลังที่จะให้ข้อมูลที่แม่นยำและตรงได้

คดีการเมืองไม่กระทบดิจิทัลวอลเล็ต

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและ รมว.คลัง กล่าวว่า กรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาคดีคุณสมบัตินายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ กรณีการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในวันที่ 14 ส.ค. จะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตและการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล ต้องแยกปัญหาออกจากกัน ปัญหาการเมืองตั้งแต่เป็นเด็กจนโตยังไม่มีอะไรนิ่งสักที เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่เป็นไร ปล่อยให้ปัญหาการเมืองเดินไป ปัญหาพื้นฐานเศรษฐกิจรัฐบาลต้องแก้ไข

“อนุทิน” เผย ครม.ให้กำลังใจผู้นำพ้นคดี

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ครม.ทุกคนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายกฯ พวกเรามีความปรารถนาดีและส่งกำลังใจให้ท่านได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ และให้ผ่านเหตุการณ์ต่างๆไปได้ด้วยดี เพราะตอนนี้กำลังเข้ารูปเข้ารอย งบประมาณน่าจะเร่งออกมาได้ งบฯปี 67 ผ่านแล้ว ตอนนี้รองบฯ ปี 68 น่าจะใช้เวลาอีกไม่นาน วุฒิสภามีแล้ว การรองรับกฎหมายต่างๆเป็นไปด้วยความสมบูรณ์ เมื่อถามว่าประเมินสถานการณ์อย่างไรหากผลออกมาทางลบ นายอนุทินถึงกับร้องโอ๊ย ...อย่าเพิ่งไปคิดอะไร ถึงบอกว่าอะไรที่ไม่เกิดอย่าไปคิด เราทำทุกวัน รัฐบาลนี้ ณ วินาทีนี้ วันนี้ยังเป็นรัฐบาลที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ ยังไม่มีอุปสรรคหรือท่าทางใดๆที่จะทำให้เกิดความไม่สะดวกหรือความไม่ราบรื่น

ไม่คิดเรื่องโหงวเฮ้งดีวันดีคืน

เมื่อถามว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าโหงวเฮ้งนายอนุทินอาจมาแทนนายกฯได้ วิเคราะห์เรื่องนั้นบ้างหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ยังไม่เคยคิด ทำวันนี้ให้ดีที่สุด วันนี้ทำงานร่วมกับนายกฯ ทำงานร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ประสานงานกับทุกพรรคได้เป็นอย่างดี กระทรวงนี้ต้องการการประสานงานจากกระทรวงอื่น ช่วยเหลือเกื้อกูล สนับสนุนกันอย่างดี ตอนนี้ทำงานเข้าขากับนายกฯและทุกท่านเป็นอย่างดี ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้จักเพลง “คิดถึงลุงตู่” ที่กำลังเป็นไวรัลในโซเชียลมิเดียหรือไม่ นายอนุทินยิ้มพร้อมตอบเพียงว่า ยังเลย

ยึดแนวนายกฯ ออก พ.ร.บ.คุมกัญชา

นายอนุทินกล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าการผลักดันร่าง พ.ร.บ.กัญชงกัญชา หลังนายกฯให้ออกเป็นกฎหมาย จะเสนอจากร่างฯของ สส.หรือ ครม. ขอพิจารณาในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขก่อน เพราะเหมือนมีร่างกฎหมายกัญชงกัญชาสมัย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีต รมว.สาธารณสุข เตรียมยื่นอยู่ ส่วนร่างของพรรค ภท.ยื่นเข้าสภาฯเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ ก.ย.66 จากที่ได้ฟังนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ แนะนำว่าอยากให้เป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลหรือพรรคใดก็ได้ยื่นเข้าไป จากนั้นนำไปประกบรวมกันเพื่อพิจารณา เราเอาบัญชานายกฯเป็นสำคัญ นายกฯมีข้อสั่งการออก พ.ร.บ.ต้องหาแนวทางออกกฎหมายจะลบล้างเรื่องการนำกัญชงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด เพราะการออก พ.ร.บ.คือการไม่ใช้ช่องทางของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (บอร์ด ป.ป.ส.) แล้ว เมื่อถามว่ายึดตามคำบัญชานายกฯ บอร์ด ป.ป.ส.ไม่ต้องประชุมเพื่อนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ถ้าเป็นแนวทางนายกฯ ควรเป็นเช่นนั้น

มั่นใจ “เศรษฐา” เชื่อไม่ถูกหักหลัง

เมื่อถามว่ามีการมองเป็นชัยชนะของพรรค ภท. นายอนุทินส่ายหน้าก่อนกล่าวว่า “เป็นชัยชนะของประชาชน เรายึดถือประโยชน์ส่วนรวม ขอให้เลิกคิดเสียทีเพราะทำงานด้วยกันจะไปแข่งกันทำไม เมื่อถามย้ำว่าการออก พ.ร.บ.จะมั่นใจได้อย่างไรว่า จะไม่ถูกหักหลังเหมือนรัฐบาลก่อน นายอนุทินกล่าวว่า “ผมมั่นใจในนายกรัฐมนตรีของผม นายกฯลงมาสั่งการขนาดนี้แล้ว และเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่มีเสียงสนับสนุนกว่า 314 เสียง ไม่เหมือนรัฐบาลที่แล้วที่มีเสียงสนับสนุน 253 เสียง” เมื่อถามว่าหากกฎหมายผ่านสภาฯและวุฒิสภาไม่น่ามีปัญหาใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า หากเป็นกฎหมายที่ดีไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เรื่องนี้ต้องไปถามสมาชิกวุฒิสภา ได้ฝากความแสดงยินดีกับ สว.ทั้งหมด ผ่านสื่อไปแล้ว

“อิ๊งค์” ลบ “อาเหลิม” ไม่อยากให้บั่นทอน

เมื่อเวลา 08.45 น. ที่พรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการลบ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.ออกจากกลุ่มไลน์ สส.พรรคว่า เป็นเรื่องจริง กลุ่ม สส.พรรคนัดหมายพูดคุยกันเรื่องหมายงานของวันที่ 25 ก.ค. เห็นข่าวรู้สึกว่าไม่อยากให้คนในพรรคหรือคนทำงานบั่นทอน ก่อนหน้านี้ ร.ต.อ.เฉลิมได้ส่งข้อความเข้ามาในกลุ่มไลน์ สส.ว่าจะมีการย้ายพรรค และข้อความต่อไปทำให้ทุกคนเริ่มรู้สึกอึดอัดใจ ไม่อยากให้มีประเด็น ไม่อยากให้ทุกคนรู้สึกกังวลว่าในกลุ่มนี้จะคุยกันอย่างไร คิดว่าหากไปปรึกษาใครว่าจะเอาออกดีหรือไม่ หรืออย่างไร จะมีความเกรงใจกันเกิดขึ้น ส่วนตัวรู้สึกว่ากลุ่มนี้ต้องเป็นกลุ่มที่ สส.ต้องคุยกัน จึงคิดว่าลบออกดีกว่าเท่านั้น ตัดสินใจจะลบก็ลบเลย ไม่ได้พูดคุยกันก่อนที่ ร.ต.อ.เฉลิมจะแถลงด้วย เราไม่ได้อยากให้มีดราม่าเพิ่มขึ้น ไม่คิดว่าการเอาออกจากกลุ่มไลน์จะเป็นข่าว คิดแค่ว่าไม่อยากให้คนในกลุ่มอึดอัดใจกัน นี่คือความตั้งใจ เมื่อเป็นข่าวพร้อมอธิบายว่าเราต้องทำงานต่อ ส่วนเรื่อง ร.ต.อ.เฉลิมแถลงเช่นนั้นเป็นเรื่องของท่าน

ไม่มีนโยบายขับใคร จะคุยมาที่พรรค

เมื่อถามว่า หลังจากนี้ต้องพูดคุยกับ ร.ต.อ.เฉลิมหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า พร้อมเสมออยู่ที่นี่พรรค พท. ฉะนั้นหากยังคุยได้พร้อมคุยอยู่แล้ว เมื่อถามว่าจะไม่เดินทางไปพูดคุยกับ ร.ต.อ.เฉลิมที่บ้านริมคลองเหมือนครั้งที่ผ่านมา แต่จะให้ ร.ต.อ.เฉลิมมาคุยที่พรรคใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เป็นสิ่งที่ถูกต้อง การมาคุยที่พรรคเป็นกิจจะลักษณะ ควรมีเลขาธิการ ผู้อำนวยการพรรคหรือใครอยู่ด้วยกัน เพราะควรคุยกันอย่างเป็นทางการ เมื่อถามว่าจะมีโอกาสขับ ร.ต.อ.เฉลิมออกจากพรรคเหมือนที่เขาต้องการหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เอาออกจากกลุ่มอย่างเดียว ไม่มีนโยบายขับออกจากพรรค

ทุกคนโตแล้วขอจบดราม่าตรงนี้

เมื่อถามว่าปัญหานอกจาก ร.ต.อ.เฉลิมและนายวัน อยู่บำรุง อดีต สส.กทม.พรรค พท.ไปร่วมเชียร์ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี มีอะไรอีกหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า จริงๆไม่ทราบว่า ร.ต.อ.เฉลิมไปด้วย ไม่เคยไล่หรือมีข้อความ ยืนยันไม่เคยพูดว่าจะให้ ร.ต.อ.เฉลิมหรือนายวันออกจากพรรค ไม่เคยแสดงเจตนาเช่นนั้น ขอให้ชัดเจนตรงนี้ แต่ทุกคนโตแล้ว ตัดสินใจเองได้หมดว่าจะทำอย่างไรกับแพลนชีวิตข้างหน้า ยังเคารพเสมอและขออวยพรให้โชคดีประสบความสำเร็จ ขออนุญาตไม่ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้แล้ว ทุกคนต้องทำงานต่อ ฝั่งนี้ไม่มีดราม่าอะไรทั้งนั้น ขอให้เรื่องนี้จบที่นี้ พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว ขออวยพรให้ประสบความสำเร็จ ก่อนเราเริ่มทำงานกันต่อ ขอให้จบที่ตรงนี้

พรรคต้องรับมือต่อไปตามเรื่อง

เมื่อถามว่านอกจากปัญหาดังกล่าว มีปัญหาเรื่องอื่นสะสมมาหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “ไม่มี ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย” เมื่อถามถึงกรณีร.ต.อ.เฉลิมท้านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ดีเบต น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “ต้องถามคุณพ่อ ดิฉันไม่ทราบ” เมื่อถามว่าหากพรรค พท.ไม่ขับออกจะเปลี่ยนบทบาทในสภาฯ มาอภิปรายพรรค น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เป็นเรื่องที่พรรคต้องจัดการและต้องรับมือไปตามเรื่อง

“ภูมิธรรม” ไม่ติดใจถูกผู้ใหญ่พาดพิง

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ได้ดูไลฟ์สดตอน ร.ต.อ.เฉลิมแถลง ที่ถูกพาดพิงมาถึง ไม่กล้าติดใจอะไร เพราะ ร.ต.อ.เฉลิมเป็นผู้ใหญ่ แนะนำอะไรมาต้องฟัง และเป็นผู้ใหญ่อีกคนที่ตนเคารพรัก ตักเตือนต้องมาพิจารณาดู ขออย่านำเรื่องนี้ไปขยายความให้เป็นเรื่อง เราอยากให้ผู้ใหญ่ทุกคนรักกันดี ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม ขอร้องให้พรรคขับออกจากพรรค อยู่ในโหมดห้ามแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ไม่ขอพูดเรื่องนี้

“ทักษิณ” จัดเบิร์ธเดย์แค่คนกันเอง

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท.เปิดเผยถึงกรณีวันที่ 26 ก.ค.วันคล้ายวันเกิดปีที่ 75 ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯว่า ช่วงเช้ามีพิธีทำบุญตักบาตรกันในครอบครัว ช่วงเที่ยงมีคนสนิทๆมาร่วมรับประทานอาหาร เพราะนายทักษิณ ไม่ได้ทำบุญเช่นนี้มานานแล้ว แต่ไม่ได้เปิดบ้านให้บุคคลทั่วไปเข้าร่วม และไม่เปิดให้สื่อเข้าไปบันทึกภาพภายในบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทักษิณจะนำคนในครอบครัวและญาติพี่น้องทำบุญเลี้ยงพระเพล 9 รูป จากนั้นให้บรรดานักการเมืองใกล้ชิด ที่เป็นรัฐมนตรี และกรรมการบริหารพรรค พท.เข้าไปร่วมทานอาหารเที่ยง ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า จำกัดเฉพาะผู้ได้รับเชิญ และให้รถทะเบียนที่กำหนดไว้เข้าไปในบ้านเท่านั้น

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาด ไทย ตอบข้อถามผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงกรณีวันเกิดนายทักษิณว่า “พรุ่งนี้ไหม เดี๋ยวจะส่งดอกไม้ไปอวยพร”

ซุ่มฉลองล่วงหน้าเป่าเค้กชื่นมื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรค พท.ว่า ช่วงค่ำวันที่ 24 ก.ค.ได้มีการจัดงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดปีที่ 75 ล่วงหน้าให้แก่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ (รางน้ำ) โดยมีเฉพาะคนใกล้ชิดเข้าร่วมงานอย่างหนาแน่น อาทิ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน รวมถึงนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการบริหารของบริษัทคิง เพาเวอร์ ที่เกิดวันที่ 26 ก.ค.เช่นเดียวกับนายทักษิณร่วมงานด้วย บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่นมีการร้องเพลงอวยพรวันเกิดและให้นายทักษิณเป่าเค้ก

กมธ.นิรโทษฯเคาะ 3 ประเด็นสำคัญ

เมื่อเวลา 15.30 น. ที่รัฐสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สภาฯ แถลงสรุปการประชุมนัดสุดท้ายว่า ที่ประชุมมีมติรับรองรายงานการประชุม มีข้อสรุปสำคัญคือ 1.ให้มีการนิรโทษกรรมคดีที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง นับตั้งแต่ปี 2548 ถึงปัจจุบัน ใช้รูปแบบคณะกรรมการพิจารณาตามบัญชีแนบท้ายว่ามีคดีที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมืองใดบ้างเข้าข่ายหรือเข้าเงื่อนไขจะได้รับการนิรโทษกรรม 2.คดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เช่น คดีที่มีความผิดต่อชีวิตหรือละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 288, 289 ไม่เข้าข่ายจะได้รับการนิรโทษกรรม 3.คดีที่มีความอ่อนไหวทางการเมือง เช่น คดีตามมาตรา 110 โดยเฉพาะคดีตามมาตรา 112 ที่สังคมจับตาว่าจะรวมหรือไม่ในการนิรโทษกรรม กมธ.มีข้อสรุปเป็น 3 ความเห็นคือ 1.ไม่เห็นด้วยให้นิรโทษกรรมคดีมาตรา 110 และมาตรา 112 2.เห็นควรให้นิรโทษกรรมคดีมาตรา 110 และมาตรา 112 โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ และ 3.เห็นควรให้นิรโทษกรรมคดีตามมาตรา 110 และมาตรา 112 แต่ต้องมีมาตรการ มีเงื่อนไข เช่น ให้มีคณะกรรมการพิจารณาว่ามีมูลเหตุจูงใจใด ให้มาแถลงข้อเท็จจริงให้ทราบ มีมาตรการป้องกันกระทำความผิดซ้ำ เป็นต้น จะบรรจุรายงานเสนอสภาฯด้วย

แนะ รบ.เป็นเจ้าภาพ-ใช้มาตรการบริหาร

นายชูศักดิ์กล่าวต่อว่า มีมติชัดเจนที่คืบหน้าอีกประการคือควรมีมาตรการในทางบริหารก่อนมีการนิรโทษกรรม เช่น คดีเล็กต่างๆที่ค้างอยู่ในโรงพัก เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง มาตรการทางบริหารใช้ได้ก่อนจะตรากฎหมายนิรโทษกรรม เช่น มาตรการสั่งไม่ฟ้อง มาตรการตามมาตรา 21 ของกฎหมายอัยการหรืออื่นๆที่จำเป็น ได้เพิ่มเข้าไป ยังมีข้อสังเกตว่าการนิรโทษกรรมจะเป็นไปได้ที่สุด รัฐบาลต้องรับไปพิจารณาหรือเป็นเจ้าภาพ ช่วยกันเร่งรัด พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้เกิดขึ้น จะได้ประนีประนอมสำเร็จ น่าอยู่ ไม่ต้องทะเลาะกันเหมือนในอดีต

ชง “วันนอร์” บรรจุวาระสภาฯเร่งด่วน

ด้านนายนิกร จำนง เลขานุการ กมธ.กล่าวว่า วันที่ 26 ก.ค. กมธ.จะยื่นรายงานการประชุมของ กมธ.ต่อประธานสภาฯเพื่อบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม จากนั้นจะจัดพิมพ์รูปเล่มแจกสมาชิก คาดว่าใช้เวลาจัดพิมพ์ 20 วัน นอกจากนี้จะขอให้วิปรัฐบาลเสนอให้นำขึ้นมาเป็นวาระพิจารณาเร่งด่วน เนื่องจากอยู่ในความสนใจของประชาชน คาดว่าจะสามารถเร่งรัดเป็นวาระด่วนเข้าสภาฯ

นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธินายกฯฝ่ายการเมือง ในฐานะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สภาฯ กล่าวว่า ถ้าประธานสภาฯบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมทันสัปดาห์หน้า จะนำเข้าสู่การประชุมวิปรัฐบาลวันที่ 30 ก.ค. เพื่อเลื่อนวาระขึ้นพิจารณาเร่งด่วน ถ้าไม่ทันคาดว่าจะนำรายงานเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯได้กลางเดือน ส.ค. เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะฝ่ายค้านเห็นพ้องด้วย จากนั้นจะเสนอรายงานต่อรัฐบาลเพื่อพิจารณา เร่งดำเนินการตามบันทึกแนบท้ายว่าให้เร่งออกเป็น พ.ร.บ.ต่อไป

ก.ก.ย้ำให้นิรโทษรวม ม.112

ต่อมาเวลา 15.55 น. นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค ก.ก.ในฐานะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สภาฯ แถลงว่า กมธ.สัดส่วนพรรค ก.ก.เห็นด้วยกับการพิจารณาให้นิรโทษกรรมคดี 112 ด้วย ในสังคมรวมถึง กมธ.ยังมีความเห็นแตกต่างกัน กมธ.จึงรวบรวมความคิดทุกแบบเข้ามาอยู่ในรายงานเสนอให้สมาชิกสภาฯพิจารณารอบด้านตามที่แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ทั้งนี้ คณะ กมธ.เห็นตรงกันว่าคดีที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรง โดยเฉพาะความผิดต่อชีวิต ไม่ควรได้รับการนิรโทษกรรม

เดินหน้ายื่นแก้ รธน.ล้างรัฐประหาร

ขณะที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญลบล้างผลพวงรัฐประหาร 3 ฉบับถึงประธานรัฐสภา ให้บรรจุเข้าสู่วาระการประชุมรัฐสภา ผ่านว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาฯ โดยนายพริษฐ์กล่าวว่า แม้รัฐบาลให้คำมั่นสัญญาผลักดันรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่กระบวนการจัดทำใหม่ใช้เวลา 1-2 ปี รัฐสภาควรแก้ไขรายมาตราเร่งด่วนคู่ขนานกันไป ถือเป็นภารกิจแรกของ สว.ชุดใหม่จะร่วมพิจารณาด้วย มุ่งลบล้างผลพวงรัฐประหารแบ่งร่างเป็น 3 ฉบับ ร่าง 1.ยกเลิกมาตรา 279 ในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญที่ทำให้ประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และหัวหน้า คสช.ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ เปิดโอกาสให้ประชาชนและผู้เสียหายโต้แย้งประกาศและคำสั่ง คสช. พรรคจะผลักดันคู่ไปกับ พ.ร.บ. ยกเลิกประกาศและคำสั่ง คสช.ที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ที่เคยยื่นไปแล้วตั้งแต่เดือน ก.ค.2566 แต่ถูกตีความเป็นร่างกฎหมายการเงิน ต้องรอนายกฯลงนามรับรองให้เข้าสภาฯ

ชงเพิ่มหมวดต่อต้านยึดอำนาจ

นายพริษฐ์กล่าวว่า ร่าง 2.การเพิ่มหมวด 16/1 ในรัฐธรรมนูญเรื่องการป้องกันและต่อต้านรัฐประหาร 3 ส่วน คือ 1.เติมพลังให้ประชาชนทุกคนต่อต้านรัฐประหาร ทั้งการคุ้มครองสิทธิ กำหนดให้เจ้าหน้าที่รัฐไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาที่วางแผนยึดอำนาจได้ 2.เพิ่มความรับผิดชอบให้ทุกสถาบันการเมืองปฏิเสธการรัฐประหาร 3.ให้การทำรัฐประหารมีราคาสำหรับผู้ก่อการ ทั้งห้ามนิรโทษกรรมคณะรัฐประหาร ให้ประชาชนเป็นผู้เสียหายฟ้องผู้ก่อรัฐประหารฐานกบฏได้โดยปราศจากอายุความ โดยทำคู่ขนานกับการผลักดันมาตรการอื่นๆ อาทิ ผลักดันกฎหมายปฏิรูปกองทัพ ให้กองทัพอยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือน การรณรงค์ทางความคิดให้ทุกฝ่ายยึดมั่นแก้ทุกปัญหาผ่านกลไกทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย

โละยุทธศาสตร์ชาติยุค คสช.

นายพริษฐ์กล่าวว่า ร่าง 3.ยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนปฏิรูปประเทศในมาตรา 65 ต้องการยกเลิกเนื่องจากขาดความชอบธรรมทางประชาธิปไตย ร่างขึ้นในยุครัฐประหารแทนที่จะร่างในยุครัฐบาลเลือกตั้ง และยังขาดความยืดหยุ่น ใช้วิธีบรรจุยุทธศาสตร์และแผนในรัฐธรรมนูญ นำไปสู่การขยายตัวของรัฐราชการ เสี่ยงถูกใช้เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งกัน เปิดช่องให้สามารถใช้กลไกองค์กรอิสระ หรือศาลลงโทษหน่วยงานรัฐที่เป็นคู่ขัดแย้ง ด้วยเหตุผลไม่ปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูปประเทศดังกล่าว หวังว่าประธานรัฐสภาจะเร่งบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญชุดแรกทั้ง 3 ฉบับ เข้าสู่ระเบียบวาระโดยเร็ว

“อานนท์” อ่วมศาลสั่งจำคุกอีกคดี 4 ปี

ที่ศาลอาญา เวลา 13.30 น. ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดี อ.735/2564 ที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องนายอานนท์ นำภา ทนายความแกนนำกลุ่มราษฎร เป็นจำเลย ฐานหมิ่นประมาทอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ป.อาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 วรรคหนึ่ง กรณีเขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊กลงในระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อความเท็จ มีเจตนาให้ผู้พบเห็นหลงเชื่อ หมิ่นสถาบัน โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เบิกตัวนายอานนท์ จำเลย อยู่ในชุดนักโทษสีน้ำตาล-ตัดผมสั้นเกรียน มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อฟังคำพิพากษา มีนายเอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง กลุ่มเพื่อน บุคคลใกล้ชิด ภรรยาและบุตรสาวมาให้กำลังใจ ศาลพิเคราะห์แล้วพิพากษาว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องให้ลงโทษจำคุกรวม 6 ปี แต่คำให้การเป็นประโยชน์อยู่บ้างลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 4 ปี และให้นับโทษต่อจาก 3 คดีก่อนหน้านี้ ทั้งนี้นายอานนท์ถูกคุมขังมาแล้ว 2 ปีเศษใน 3 คดี ที่ศาลสั่งจำคุกรวม 10 ปี 20 วัน เมื่อรวมกับคดีล่าสุด ต้องรับโทษทั้งสิ้น 14 ปี 20 วัน และยังคงถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครต่อไป

“ปูอัด” เฉ่ง รบ.ตกหล่นพลเมืองไทย

ที่รัฐสภา นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม.พรรคไทยก้าวหน้า กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ ระบุว่าการแจกเงิน 10,000 บาทในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลให้สิทธิรวมถึงพระสงฆ์ และผู้ป่วยติดเตียงด้วย เพราะถือเป็นพลเมือง ได้สิทธิตามโครงการรัฐปกติว่า ตนและสังคมมีข้อสงสัยว่า หลงลืมบรรดาผู้ต้องขังจำนวนมาก คนเร่ร่อน และคนไร้บ้านที่มี 3,534 คน ยังรวมถึงบุคคลที่มีสถานะทางทะเบียนราษฎรแต่ยังไร้สัญชาติอีก 539,696 คน ตามข้อมูลที่สำรวจโดยกรมการปกครองเมื่อปี 2563 หรือไม่ เพราะบุคคลเหล่านี้ล้วนถือเป็นพลเมืองและมีสิทธิด้วยหรือไม่ และสังคมรับได้หรือไม่ที่เห็นพระสงฆ์เดินใช้เงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ดังนั้นจะมีเงินจำนวนหนึ่งตกหล่นไปหรือไม่หากไม่รวมบุคคลข้างต้น เพราะมีสิทธิในฐานะพลเมืองเช่นกัน

ทวงนายกฯสางปัญหาดองเค็ม

นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ขอส่งสารถึงนายกฯให้เร่งติดตามแก้ไขปัญหาที่เคยอภิปรายไว้ในสภาฯกว่า 1 ปีเต็มยังไม่มีความคืบหน้าใน 2 เรื่อง 1.เรื่อง โครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาเพาะพันธุ์สัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา หรืออควาเรียมหอยสังข์ ประติมากรรมแห่งความฉ้อฉลทุจริตการก่อสร้างโครงการของรัฐที่ล่าช้ากว่า 15 ปี และกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 16 ใช้งบกว่า 1,400 ล้านบาท แต่โครงการยังไม่แล้วเสร็จ และ 2.ปัญหาการรับซื้อเรือคืนจากชาวประมงได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ จนไม่สามารถประกอบอาชีพและต้อง ประสบปัญหาทางการเงินใช้งบฯกว่า 1,000 ล้านบาท

จี้คว่ำบาตรทางการเงินเมียนมา

วันเดียวกัน น.ส.ณิชากานต์ รักวงษ์ฤทธิ์ เครือข่ายประชาชนไทยเพื่อคนพม่า ยื่นหนังสือให้นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. ประธานกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาฯ พิจารณาสนับสนุนข้อเรียกร้องภาคประชาสังคมกรณีที่ประเทศ ไทยถูกกล่าวถึงการให้บริการทางการเงิน และสนับสนุน การจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์แก่รัฐบาลทหารเมียนมา โดย น.ส.ณิชากานต์กล่าวว่า เครือข่ายฯกังวลอย่างมากต่อความนิ่งเฉยรัฐบาลไทยจึงร่วมกับ 240 องค์กรภาคประชาสังคมในเมียนมา องค์กรระหว่างประเทศออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้รัฐบาลไทยสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตร ตัดการเข้าถึงการบริการทางการเงินระหว่างประเทศของเมียนมา ขณะที่นายรังสิมันต์กล่าวว่า วันที่ 2 ส.ค.กมธ. จะเดินทางไปธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และปลายเดือน ส.ค.ไปที่กระทรวงต่างประเทศ เพื่อติดตามเรื่องนี้

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่