นายกฯ ย้ำ รัฐบาลสนับสนุนกองถ่ายต่างชาติในไทย ผ่านมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ ระบุยินดีที่ Apple ใช้ไทยเป็นโลเคชันในการถ่ายทำวิดีโอโฆษณาตัวใหม่ล่าสุด ช่วยเผยแพร่ Soft Power ไทย มั่นใจช่วยเพิ่มความเข้มแข็งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย

วันที่ 24 กรกฎาคม 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลพร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนเพื่อนำรายได้เข้าประเทศ ร่วมกับการส่งเสริมการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวผ่าน Soft Power ของไทยที่เป็นเอกลักษณ์ ตามแนวนโยบายของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ซึ่งล่าสุดยินดีที่บริษัทด้านเทคโนโลยีชื่อดังอย่าง Apple ได้ถ่ายทำวิดีโอโฆษณาผลิตภัณฑ์ในประเทศไทย โดยเนื้อหาภายในวิดีโอมีการสอดแทรก Soft Power ของไทยผ่านความสนุกสนานของการเดินทางท่องเที่ยวในไทยไว้ในหลากหลายช่วงของโฆษณา ซึ่งเป็นโอกาสในการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยว วัฒนธรรม และอาหารไทยสู่ตลาดต่างประเทศ 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วิดีโอโฆษณาดังกล่าวมีชื่อว่า The Underdogs: OOO (Out Of Office) | Apple at Work ซึ่งเผยแพร่ในช่องยูทูบทางการของ Apple ที่มีผู้ติดตามมากถึง 19.1 ล้านคน โดยล่าสุด (สถานะ ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2567) มียอดการเข้าชมวิดีโอฯ ไปแล้วกว่า 3.6 ล้านครั้ง ซึ่งเนื้อหากล่าวถึง กลุ่มพนักงานบริษัทจากสหรัฐฯ ที่ได้เดินทางมายังประเทศไทย เพื่อหาโรงงานผลิตสินค้า โดยในระหว่างการทำงาน ตัวละครได้มีการเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ ของประเทศไทยอย่างสนุกสนาน พร้อมสามารถทำงานควบคู่ไปด้วยได้ทุกที่อย่างไม่มีติดขัด ซึ่งแต่ละฉากของวิดีโอฯ ได้สอดแทรก Soft Power ของไทยไว้ เช่น อาหารไทย การแต่งกายโดยเสื้อและกางเกงลายช้าง การนวดแผนไทย การเดินทางด้วยรถตุ๊กตุ๊ก เรือ รถเมล์ รถไฟ ตลอดจนการท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ อาทิ สถานีรถไฟหัวลำโพง ถนนเยาวราช และจังหวัดระยอง สะท้อนความหลากหลายของการท่องเที่ยวในประเทศไทยที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ผู้คนเป็นมิตร เข้าถึงได้ง่าย พร้อมให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยว 

...

นอกจากนี้เนื้อหาภายในวิดีโอฯ ยังสะท้อนถึงรูปแบบการทำงานของตัวละครที่สามารถทำจากที่ใดก็ได้ (Work from Anywhere) โดยไทยมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะแก่การทำงานได้ในทุกแห่ง เนื่องจากมีระบบอินเทอร์เน็ตที่มีความเสถียร และความเร็วสูง สอดคล้องกับมาตรการและแนวทางการตรวจลงตราเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยที่มีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเพิ่มการตรวจลงตราประเภทใหม่ Destination Thailand Visa (DTV) สำหรับชาวต่างชาติที่ประสงค์จะพำนักในไทยเพื่อทำงานทางไกลผ่านระบบดิจิทัล (remote worker หรือ digital nomad) และท่องเที่ยวไปพร้อมกัน (workcation) ซึ่งสามารถพำนักในไทยได้ครั้งละไม่เกิน 180 วัน อายุการตรวจลงตรา 5 ปี

ทั้งนี้ ถือว่าเป็นโอกาสที่มาจากนโยบายของรัฐบาลในการเสนอสิทธิประโยชน์เพื่อดึงดูดกองถ่ายภาพยนตร์ต่างชาติผ่านมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย (Thailand Film Incentive Measures) โดยการคืนเงินในอัตราไม่เกินร้อยละ 20 (Cash Rebate) ของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในไทย ซึ่งข้อมูลล่าสุดจากกองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ (TFO Thailand Film Office) กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า สถิติของการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย ในช่วงเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา มีภาพยนตร์ต่างประเทศถ่ายทำในประเทศไทยแล้ว จำนวน 259 เรื่อง ซึ่งในประเภทโฆษณาและประชาสัมพันธ์มียอดการถ่ายทำมากที่สุดถึง 106 เรื่อง จากประเทศ/เขตเศรษฐกิจพิเศษ จำนวน 31 แห่ง ใช้สถานที่ถ่ายทำใน 49 จังหวัด ก่อให้เกิดงบประมาณการลงทุนกว่า 3.881 พันล้านบาท

“นายกรัฐมนตรีสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมให้ Soft Power ไทยเป็นแม่เหล็กที่ดึงดูดคนทั่วโลกให้เข้ามาเที่ยว มาทำงาน และมาใช้ชีวิตในประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นปลายทางสำคัญของคนทั่วโลก ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมความพร้อมรอบด้าน ทั้งการจัดหามาตรการรองรับการถ่ายทำภาพยนตร์จากต่างประเทศ มาตรการยกเว้นการตรวจลงตราเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคนทำงานและนักท่องเที่ยวควบคู่กัน เพื่อภาพลักษณ์ที่สำคัญของประเทศ และโอกาสกระตุ้นการท่องเที่ยว ต่อยอดโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการไทย รวมถึงการกระจายรายได้สู่ประชาชนทุกคน” นายชัย กล่าว.