ไม่พลิกโผ มติที่ประชุมวุฒิสภา ลงคะแนนเลือก “มงคล สุระสัจจะ” คว้าเก้าอี้ประธานวุฒิสภา ด้วยความไว้วางใจ 159 เสียง ทิ้งห่าง “นันทนา-หมอเปรม” ขาดลอย 

เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 23 กรกฎาคม 2567 เลขาธิการวุฒิสภา อ่านข้อบังคับก่อนเข้าสู่การประชุมวุฒิสภาชุดใหม่ พร้อมเชิญ พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี สมาชิกวุฒิสภา (สว.) อายุ 78 ปี ซึ่งเป็นผู้อาวุโสสูงสุดใน สว.ชุดนี้ ขึ้นทำหน้าที่ประธานวุฒิสภาเป็นการชั่วคราว เพื่อดำเนินการเลือกประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 และคนที่ 2 ต่อไป

จากนั้นเวลา 09.46 น. พล.ต.ท.ยุทธนา ขึ้นบังลังก์กล่าวขอบคุณที่ให้เกียรติในการเป็นประธานชั่วคราว พร้อมขอให้สมาชิกระมัดระวังถ้อยคำเพราะมีการถ่ายทอดสด เลี่ยงการกล่าวถึงบุคคลภายนอก ป้องกันการถูกฟ้องร้อง ก่อนขอให้สมาชิกวุฒิสภายืนขึ้นเพื่อกล่าวปฏิญาณตนในที่ประชุม ก่อนรับหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 115 ด้วยถ้อยคำว่า “ข้าพเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอปฏิญาณว่า ข้าพเจ้าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้ และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”

...

ต่อมา เวลา 09.55 น. ประธานชั่วคราวกล่าวเข้าสู่วาระการเลือกประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภา จากนั้นแจ้งขั้นตอนการเสนอชื่อและการเลือก ซึ่งการลงคะแนนจะเป็นไปโดยลับ โดยมีการเสนอชื่อผู้เข้าชิงประธานวุฒิสภา 3 คน 

ผู้เข้าชิงประธานวุฒิสภา

1. นายมงคล สุระสัจจะ

2. นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ

3. น.ส.นันทนา นันทวโรภาส

ทั้งนี้ มีสมาชิกเสนอเวลาในการแสดงวิสัยทัศน์ทั้ง 5 นาที, 7 นาที ประธานในที่ประชุมจึงขอให้ สว. ลงมติ หากเห็นชอบ 5 นาที ให้กดปุ่มเห็นด้วย ถ้า 7 นาที ให้กดปุ่มไม่เห็นด้วย ซึ่งผลออกมาว่า เห็นด้วย 143 ไม่เห็นด้วย 54 งดออกเสียง 3 จึงสรุปได้ว่าจะให้ผู้ชิงประธานวุฒิสภาแสดงวิสัยทัศน์คนละ 5 นาที โดยเมื่อจับสลากได้ลำดับการแสดงวิสัยทัศน์ คือ ลำดับที่ 1 นพ.เปรมศักดิ์ ลำดับที่ 2 น.ส.นันทนา และลำดับที่ 3 นายมงคล พร้อมตั้งกรรมการนับคะแนน 5 คน

นพ.เปรมศักดิ์ แสดงวิสัยทัศน์ว่า วันนี้เป็นวันสำคัญ การเลือก สว. ครั้งนี้มีการวิจารณ์อย่างมาก จึงมุ่งมั่นอาสาดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา เพื่อแก้ไขภาพลักษณ์ด้านลบ ดังนั้นการกลัดกระดุมเม็ดแรกคือ สว. ต้องเป็นอิสระ เป็นกลาง ไม่ถูกครอบงำ ที่มานั้นห้ามยาก แต่ที่ไปเป็นสิ่งที่เราเลือกได้ 5 ปีต่อจากนี้ จะได้รับคำชื่นชมหรือตราหน้า กฎหมายจะต้องถูกกลั่นกรองโดยไม่ถูกชี้นำ การเห็นชอบองค์กรอิสระต้องไม่ถูกครอบงำ การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน นายกรัฐมนตรีต้องมาตอบกระทู้สดด้วยตัวเอง ต้องยืนยันศักดิ์ศรีวุฒิสภา ประธานวุฒิสภาจะดำเนินงานต่อเนื่องได้ต้องมีสุขภาพที่ดี ยืนยันว่าตนเองพร้อมทำหน้าที่ ขอให้สมาชิกพิจารณาอย่างอิสระ อย่ามองผู้สมัครคนอื่นเป็นเพียงไม้ประดับ

น.ส.นันทนา แสดงวิสัยทัศน์เป็นคนต่อมาว่า ที่ผ่านมาภาพลักษณ์วุฒิสภาเป็นไปในทางที่ถูกวิจารณ์มาก เราต้องทำให้วุฒิสภาเป็นสภาของประชาชน แม้ไม่ได้มาจากประชาชน แต่สามารถยึดโยงกับประชาชนที่เป็นเจ้าของภาษี ซึ่งเป็นเงินเดือนของ สว.ได้ ด้วย 5 ส. คือ สัมพันธ์ สร้างสรรค์ สื่อสาร สมดุล สากล การตัดสินใจของเพื่อนสมาชิกจะเป็นการชี้ชะตาวุฒิสภาแห่งนี้ 5 ปีของวุฒิสภายุคใหม่จะไม่สูญเปล่า แต่จะเป็นความหวังและความศรัทธา ขอร่วมกันทำให้วุฒิสภายุคใหม่เป็นสภาของประชาชน เป็นหนึ่งในเสาหลักประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 

ต่อด้วย นายมงคล กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ว่า ตั้งใจทำหน้าที่เพื่อตอบแทนแผ่นดินตั้งแต่เริ่มทำงาน จากนี้ขอให้เวลาที่เหลืออยู่ทำงานเพื่อชาติ แผ่นดิน รับใช้ประชาชน แก้ปัญหาให้คนในชาติ จะตั้งใจทำงานให้บรรลุเป้าหมายที่หวังไว้ เชื่อว่า สว. ในที่นี้ก็มีความตั้งใจไม่ต่างกัน อยากเห็นสังคมไทยและคนไทยเป็นหนึ่งเดียวกัน เห็นต่างได้แต่ต้องไม่แตกแยก วุฒิสภาเป็นองค์กรสำคัญที่จะพาสังคมเดินไปในสันติวิธี รวมถึงรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ วิกฤติที่ผ่านมาไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะไทย ฉะนั้น คนไทยต้องช่วยกัน ตนมาจากเด็กวัด ตั้งใจทำงานอย่างหนัก ตนคลุกคลีกับประชาชนในชนบทมาตลอดชีวิต มีประสบการณ์ยาวนาน มีเพื่อนทุกหมู่เหล่า เชื่อว่าจะสามารถเข้าใจและทำงานร่วมกับทุกคนได้ หากได้รับเลือกเป็นประธานวุฒิสภา จะปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ เต็มสติปัญญาความสามารถ พร้อมใช้ความรู้ ประสบการณ์ที่ดี ทำงานร่วมกับทุกคน ขอให้ทุกคนมาช่วยงานและก้าวเดินไปพร้อมกัน เพื่อให้บรรลุผลวุฒิสภาของสามัญชน

หลังจบการแสดงวิสัยทัศน์แล้ว ในเวลา 10.50 น. จึงเข้าสู่การลงมติเลือกผู้ที่จะเป็นประธานวุฒิสภาคนใหม่ ซึ่งเป็นการลงคะแนนโดยลับ ด้วยการเขียนชื่อใส่ซองแล้วหย่อนลงกล่อง โดยปิดการลงคะแนนในเวลา 11.24 น. แล้วจึงตรวจนับคะแนน โดยประธานคาดว่าจะใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง ซึ่งในเวลาประมาณ 12.00 น. กรรมการเริ่มขานคะแนนจากบัตร โดยมีผลออกมาคือ นายมงคล สุระสัจจะ ได้เป็นประธานวุฒิสภา โดยมีคะแนนเป็นดังนี้

ผลเลือกประธานวุฒิสภา

อันดับ 1 นายมงคล สุระสัจจะ 159 คะแนน
อันดับ 2 น.ส.นันทนา นันทวโรภาส 19 คะแนน
อันดับ 3 นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ 13 คะแนน

บัตรเสีย 5 ใบ
งดออกเสียง 4 ใบ

รวม 200 คะแนน