สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา รับรายงานตัว สว. ครบทั้ง 200 คนแล้ว เตรียมประชุมนัดแรก 23 ก.ค.นี้ จับตาวาระสำคัญ เลือกประธานและรองประธาน 2 คน บางคนรับมีคนขอช่วยโหวตแต่ขอตัดสินใจอีกครั้ง
วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เปิดรับรายงานตัวสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ใหม่ ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นมา กระทั่งวันนี้เป็นวันสุดท้าย โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาได้ดำเนินการครบทั้ง 200 คนแล้ว โดยผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ถึงท่าทีการประชุมสมาชิกวุฒิสภาครั้งแรก ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 ที่จะมีวาระสำคัญคือการเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภา อาทิ นายชาญวิศว์ บรรจงการ สว. ระบุว่า คุณสมบัติของประธานและรองประธานนั้นไม่จำเป็นต้องอยู่กับกลุ่มอาชีพ ตนขอเน้นที่ประวัติการทำงานและดูคุณวุฒิ ส่วนในใจยังไม่มีใครเป็นพิเศษ
ทางด้าน นายนิฟาริด ระเด่นอาหมัด สว. กล่าวว่า ยังไม่ใครที่จะเลือกในขณะนี้ ส่วนคุณสมบัติที่ตนเห็นควรจะมีคือความเป็นเป็นผู้ใหญ่ และสามารถนำหมู่คณะได้ ขณะที่กระแสข่าวของตัวเต็งประธานวุฒิสภาตามหน้าสื่อมวลชน ตนยังไม่สามารถเปรียบเทียบอะไรได้มาก เพราะเห็นเพียงไม่กี่ราย ซึ่งรายชื่อแต่ละคนที่จะเสนอก็คงต้องรอที่ประชุมวุฒิสภา พร้อมยอมรับว่า มีการพูดคุยให้ตนเป็นหนึ่งเสียงช่วยโหวตให้กับแคนดิเดตที่จะถูกเสนอชื่อในวันประชุมครั้งแรก ซึ่งตนก็ยังแบ่งรับแบ่งสู้ ขอทำการบ้านและดูประวัติบุคคลดังกล่าวเสียก่อน
ขณะที่ นายวราวุธ ตีระนันทน์ สว. ก็ระบุว่าทราบถึงกระแสของตัวเต็งประธานวุฒิสภา และทราบว่าคนกลุ่มดังกล่าวคงจะมีคนที่จะส่งให้ขึ้นไปเป็นประธานวุฒิสภา ตนเห็นว่าควรจะมีรองประธานคนที่หนึ่งหรือคนที่สองที่มีความรู้ด้านกฎหมาย ในการเป็นตัวช่วยให้กับประธานคนใดก็ตามที่ถูกเลือกเข้าไป โดยเห็นว่า นายบุญส่ง น้อยโสภณ สว. อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง มีความเหมาะสม เพราะมีความรู้ทางด้านกฎหมาย
...
สำหรับ น.ส.นวลนิจ หงษ์วิวัฒน์ สว. มองว่า นายบุญส่ง มีความรู้ด้านกฎหมาย เมื่อดูประวัติแล้วก็เห็นว่ามีความโชกโชนในด้านนี้ แต่ความเห็นส่วนตัวก็อยากได้ผู้ที่มีความรู้ แต่ไม่จำเป็นต้องด้านกฎหมายเท่านั้น เพราะเชื่อว่าเรื่องข้อบังคับและระเบียบการประชุมก็จะเรียนรู้ได้ในภายหลัง ส่วนตัวเต็งอย่าง พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ สว. อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 กับนายมงคล สุระสัจจะ สว. อดีตอธิบดีกรมการปกครอง และอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ จากที่ตนฟังกระแสของสมาชิกคนอื่นๆ ก็คิดว่าอาจจะเป็นผู้ที่ได้รับเสนอชื่อ แต่เท่าที่ทราบจากการสัมภาษณ์ เห็นว่า พล.อ.เกรียงไกร ตอบถึงความชื่นชอบในความมั่นคง ไม่เก่งด้านกฎหมาย จึงไม่ทราบว่าจะเป็นนัยที่บอกว่าจะไม่รับตำแหน่งประธานวุฒิสภาหรือไม่
อย่างไรก็ตาม คงต้องจับตาดูการประชุมวุฒิสภาครั้งแรกของ สว.ชุดที่ 13 ในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ ว่า ใครจะถูกเสนอชื่อและได้รับเลือกเป็นประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภาทั้ง 2 คน.
