มท.1 นำแถลงเปิดปฏิบัติการ “สิงห์สยบควัน” บุกจับกุมบุหรี่ สุราเถื่อน 7 แห่ง ทั่วเมืองหาดใหญ่ รวมมูลค่าของกลางและการหลบเลี่ยงภาษีกว่า 313 ล้านบาท เตือนพวกทำผิดมีโทษร้ายแรง คุก 10 ปี ถูกปรับเป็น 4 เท่าของราคาสินค้า
วันที่ 13 ก.ค. 2567 ที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แถลงข่าวการจับกุมบุหรี่และสุราผิดกฎหมายในพื้นที่หาดใหญ่ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายอนุทิน กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นปฏิบัติการ “สิงห์สยบควัน” ซึ่งได้เริ่มต้นมาจาก ผู้ประกอบธุรกิจค้าบุหรี่ สุรา ถูกกฎหมายในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ร้องเรียนมาที่กระทรวงมหาดไทยว่าได้รับความเดือดร้อนจากร้านขายบุหรี่ สุราเถื่อน ที่ขายถูกกว่าราคาตามท้องตลาด ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้ผู้ค้าที่ปฏิบัติตามกฎหมาย อีกทั้งยังทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีปีละหลายพันล้านบาท
จึงได้มอบหมายให้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง เข้าไปแฝงตัวในพื้นที่นานกว่าครึ่งเดือน จนเห็นความชัดเจนของการกระทำผิดจึงสั่งให้เปิดปฏิบัติการปูพรมกวาดล้างบุหรี่เถื่อน สุราเถื่อนทั่วเมืองหาดใหญ่พร้อมกันทั้ง 7 แห่ง ได้แก่ กลุ่มเปิดเป็นร้านขายของชำบังหน้า 3 แห่ง โกดังเคลื่อนที่ 2 แห่ง ร้านขนส่งพัสดุเอกชน 1 แห่ง และตึกแถวที่ใช้เป็นจุดพักสินค้า 1 แห่ง
สำหรับผลการจับกุมครั้งนี้สามารถยึดของกลางจำนวนมหาศาล ทางเจ้าหน้าที่ทำการนับของกลางตั้งแต่ปฏิบัติการจนถึงเช้า โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหา 5 คน รถยนต์จำนวน 15 คัน ที่สำคัญพบของกลางเป็นสุราเถื่อนกว่า 120 ขวด บุหรี่เถื่อนกว่า 4,646,000 มวน หรือกว่า 232,300 ซอง และบุหรี่ไฟฟ้ากว่า 19,000 ชิ้น ทั้งนี้ ของกลางที่เป็นบุหรี่ซิกาแรต และเหล้า ที่ไม่ได้เสียภาษีสรรพสามิต พนักงานสอบสวนจะส่งไปให้สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่รับผิดชอบเพื่อตรวจพิสูจน์ ส่วนรถยนต์ที่ใช้ในการกระทำผิดเจ้าหน้าที่สรรพสามิตมีอำนาจตรวจยึดไว้ได้ และของกลางที่เป็นบุหรี่ไฟฟ้า พนักงานสอบสวนจะส่งไปให้ศุลกากรพื้นที่รับผิดชอบต่อไป รวมของกลางทั้งหมด รวมทั้งสิ้น 32,910,000 บาท หากคิดเป็นราคาภาษีที่ต้องเสีย เป็น 219,638,100 บาท รวมทั้งสิ้น 313,278,100 บาท
...
การกระทำความผิดดังกล่าวนี้ มีความผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ. ศุลกากร ในส่วนที่เกี่ยวกับการนำเข้ามาโดยยังมิได้ผ่านพิธีศุลกากร จำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือถูกปรับเป็น 4 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ (ม.242) รวมถึงการปกปิด ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ซึ่งตนรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้ผ่านพิธีศุลกากร จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือถูกปรับเป็น 4 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ (ม.246) พ.ร.บ. สรรพสามิต ในส่วนการครอบครองสินค้าที่ไม่ได้เสียภาษีครบถ้วน ต้องปรับตั้งแต่ 2 ถึง 10 เท่าของภาษีที่จะต้องเสีย (ม.203) รวมถึงการขายสินค้าที่มิได้เสียภาษี จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 5 ถึง 15 เท่า ของภาษีที่จะต้องเสีย หรือทั้งจำทั้งปรับ (ม.204)
นายอนุทิน กล่าวว่า การขายบุหรี่เถื่อน สุราเถื่อน ไม่มีความคุ้มค่าอะไรเลย นอกจากจะต้องหลบหนีซ่อนเร้นการขายของเถื่อนไปเรื่อยๆ แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่รัฐก็จะค้นพบและจับกุมได้อยู่ดี
“โทษของการกระทำความผิดเหล่านี้เป็นโทษที่ร้ายแรง และจะทำให้เดือดร้อนและพลัดพรากจากครอบครัว ไม่คุ้มค่ากับความผิดที่ต้องเผชิญทั้งก่อนและหลังจากดำเนินคดี ขอให้ผู้ที่จะคิดกระทำความผิดและฝ่าฝืนกฎหมายอย่าได้คิดกระทำ และย้ำว่าพวกเราพร้อมเข้าไปปราบปรามการกระทำผิดทุกประเภท ไม่ให้มีทางหลุดรอดพ้นสายตาจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งพวกเราจะเข้าไปจับกุมปราบปราม บดขยี้ และไม่มีการเคลียร์ใดๆ ทั้งสิ้น ตราบใดที่ยังมีพวกเราอยู่” นายอนุทิน กล่าว