“เศรษฐา-อิ๊งค์” ยกทัพ รมต.ร่วมยินดีวันสถาปนา NBT ครบรอบ 36 ปี ขณะ นายกฯ มั่นใจสื่อรัฐให้ข้อมูลซื่อตรง ตรงไปตรงมา “อิ๊งค์” หวัง NBT ดัน ซอฟต์พาวเวอร์

เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 11 ก.ค. 2567 ที่อาคารศูนย์ปฏิบัติการแพร่ภาพออกอากาศ การกระจายเสียงวิทยุและการให้บริการข้อมูลข่าวสารภาครัฐ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ถนนวิภาวดีรังสิต เขตดินแดง กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ร่วมแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนา ครบรอบปีที่ 36 สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เดินทางเข้าร่วม โดยมี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกฯ รวมถึงอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และผู้บริหารกรมประชาสัมพันธ์ ให้การต้อนรับ

...

โดยนายเศรษฐา กล่าวว่า ขอแสดงยินดีกับสถานที่ทำงานแห่งใหม่ ออฟฟิศสำนักงานที่กว้างขวาง เชื่อว่าทุกคนติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางหลากหลาย สมัยก่อนเน้นรับฟังข่าวสาร ผ่านวิทยุ ทีวี หนังสือพิมพ์ มีคนลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลเป็นอาชีพสายข่าว แต่ปัจจุบันวิวัฒนาการข่าว มาในรูปแบบโซเชียลมีเดีย ส่งมาตามไลน์ ทวิตเตอร์ แพร่กระจายได้รวดเร็วเป็นข้อดี แต่ก็มีข้อเสียเพราะมีการกุข่าวหรือเฟกนิวส์เป็นระยะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงการเมืองร้อนแรงมีความขัดแย้งในสังคมสูง ตนติดตามข่าวตลอดอัปเดตข้อมูลทุกวัน แต่ก็ประหลาดใจเมื่อเห็นข่าวประหลาด ก็ต้องยอมรับบางทีคล้อยตามไปเหมือนกัน แต่ก็ต้องพยายามรีเช็กข่าวตลอด ขอให้ภาครัฐช่วยกันพยายามกำกับดูแลและต้องยอมรับ การบังคับใช้กฎหมายรอบคอบต้องใช้เวลา เป็นเรื่องหนึ่งที่น่าเป็นห่วงมาก ถ้าประชาชนไม่มีช่องทางแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ การที่ตนมายืนที่สถานี NBT ซึ่งกำลังปรับตัวเข้าสู่ยุคใหม่ ทำให้รู้สึกสบายใจในจุดหนึ่ง มีความภูมิใจจุดหนึ่ง NBT ยังคงเป็นช่องทางหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับความซื่อตรง ตรงไปตรงมา กับการสื่อสารข่าวให้ประชาชนได้รับทราบ ได้วิเคราะห์รับฟังข่าวสารต่างๆ อย่างเป็นธรรมและเป็นกลาง ภาครัฐเองพยายามเดินหน้านโยบาย Soft Power และการเปลี่ยนโครงสร้างอุตสาหกรรมของประเทศผ่านโครงการ IGNITE THAILAND ขอให้ NBT สื่อสารนโยบายดีๆ ที่เป็นธรรม หรือความคิดเห็นของประชาชนโดยสมบูรณ์แบบ ซึ่งจะคุ้มครองเรื่องเฟกนิวส์ต่างๆ ได้ด้วย การที่มีข้อมูลเยอะสื่อสารข้อมูลทุกด้านจะทำให้ประชาชนมีข้อมูลที่ครบถ้วนสามารถวิเคราะห์ได้ว่าอะไรคือเฟกนิวส์ การใช้ทรัพยากรของรัฐให้เป็นประโยชน์สูงสุดเพื่อเป็นพื้นที่ที่สื่อสารกันได้อย่างเต็มที่ เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลง ที่จะเกิดขึ้นใน NBT จะสร้างผลกระทบในเชิงบวกในสังคมกับประชาชน ประเทศชาติได้อีกมากมาย ขอให้ทุกท่านในที่นี้ช่วยกันเป็นแรงกายแรงใจผลักดันให้เป็นไปได้ด้วยดี

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เรามาพร้อมกันเพื่อแสดงความยินดี NBT ครอบ 36 ปี เราอยากเห็นสื่อของรัฐมีความน่าเชื่อถือหลากหลาย พร้อมปรับเปลี่ยนไปกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ขอให้ NBTพร้อมปรับตัวตลอดเวลา คนคิดว่า NBT มีความพร้อมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนทางสถานที่ และข้าราชการ สื่อของรัฐถือเป็นตัวแทนประเทศ เพื่อให้ผู้คนรับรู้ว่าประเทศไทยกำลังเดินทางไปทางไหน รัฐบาลทั่วโลกต่างมีสื่อเป็นของตัวเอง มีการต่อยอดวัฒนธรรมของประเทศตัวเอง เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น อังกฤษ ที่มีการต่อวัฒนธรรมของเขาได้อย่างสง่างาม เป็นการส่งมอบซอฟต์พาวเวอร์ได้อย่างสง่างาม NBT ก็สามารถส่งต่อซอฟพาวเวอร์ของไทยได้อย่างสง่างามได้เช่นกัน ต่อไปจะสื่อสารได้มากกว่า 2 ภาษา นอกจากไทยและอังกฤษแล้ว ยังจะมีจีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และจะเป็นพื้นที่ให้คนมีความสามารถทางดนตรี ทางการทำสารคดี ในการเผยแพร่งาน เป็นภาพของ NBT ที่ซอฟพาวเวอร์มองเห็น เพราะเป็นประตูบานแรกรองรับชาวต่างชาติให้เขารู้ว่าประเทศไทยมีคอนเทนต์ที่ดีอีกมาก แน่นอนหวังว่าในอนาคตจะมีพื้นที่สื่อสารที่โดดเด่นเท่าเทียมกับประเทศอื่น เป็นกลไกสำคัญพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ มีข้าราชการที่เก่าและมีรัฐมนตรีจิราพรที่จะผลักดันเรื่องนี้ ขณะที่ น.ส.จิราพร กล่าวว่า หลังจากนี้ NBT จะเป็นช่องทางสื่อสารซอฟต์พาวเวอร์มากยิ่งขึ้น ตึกใหม่ที่สร้างขึ้นนี้จะมีพื้นที่จัดแสดงให้ประชาชนปลดปล่อยศักยภาพให้เต็มที่ และจะได้เห็น NBT ยุคใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป