ผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และผลกระทบที่ตามมา สะท้อนถึงความล้าหลังของระบอบการปกครองประเทศ นายชาญ พวงเพ็ชร์ จากพรรคเพื่อไทย พลิกความคาดหมาย เอาชนะ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ. คนก่อน อย่างเฉียดฉิว แต่นายชาญกลับมีปัญหาไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้

เนื่องจากนายชาญซึ่งเป็นอดีตนายก อบจ. ถูกฟ้องต่อศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ จากการปฏิบัติหน้าที่ในขณะที่เป็นนายก อบจ.ครั้งก่อน คณะกรรมการกฤษฎีการะบุว่า นายชาญไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ขณะที่เลขาธิการ ป.ป.ช. เห็นว่าผู้มีอำนาจสั่งนายชาญไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่ คือนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย

แต่นายอนุทินบอกว่าตนไม่เสี่ยง ต้องยึดตามกฎหมาย ต้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้สั่ง ในฐานะที่เป็นผู้บังคับ บัญชาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) แต่ถ้าไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ผู้ว่าฯจะตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อเสนอรัฐมนตรีมหาดไทย นายอนุทินบอกว่าอย่าให้ถึงจุดนั้นเลย เพราะนายก อบจ.มาจากเลือกตั้ง

ปัญหาข้างต้นเป็นผลของความล้าหลังของการบริหารราชการแผ่นดิน ที่แบ่งเป็น 3 ส่วน คือส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น เป็นระบบรัฐราชการรวมศูนย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งเป็นข้าราชการส่วนภูมิภาค แต่งตั้งโดยกระทรวง มหาดไทย กลายเป็นผู้บังคับบัญชาของ นายก อบจ. ซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชนนับแสน

ประเทศประชาธิปไตยทั่วโลก แบ่งการบริหารประเทศเป็นแค่ 2 ส่วน คือส่วนกลางกับส่วนท้องถิ่น ผู้บริหาร อปท.ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าฯหรือนายกเทศมนตรี มาจากการเลือกตั้ง และมีอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ต้องถูกข้าราชการ “ขี่คอ” ส่วนไทยมีจังหวัดเดียวที่ผู้ว่าฯมาจากเลือกตั้ง คือ กทม. เลือกตั้งครั้งแรกเมื่อปี 2518 และเป็นที่ยอมรับ

...

มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งแรก เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2518 แล้วก็หยุดลงแค่นั้น แม้จะผ่านมาเกือบ 50 ปี แต่ไม่มีจังหวัดใดเอาอย่าง ทั้งๆที่เป็นระบบที่ทุกฝ่ายยอมรับ และมีรัฐธรรมนูญอย่างน้อย 2 ฉบับ คือฉบับ 2540 และ 2550 เขียนเปิดช่องไว้ให้ “พัฒนาจังหวัดที่มีความพร้อม เป็น อปท.ขนาดใหญ่” หมายความว่าทำแบบ กทม. ได้

เกือบ 50 ปี นับแต่มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการ กทม.เป็นครั้งแรก ประเทศไทยได้ก้าวหน้ามาอย่างมากมาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ การศึกษา และสังคม แม้จะยังล้าหลังในทางการเมือง เพราะอำนาจนิยมเป็นเหตุ แต่เชื่อว่าหลายจังหวัดมีความพร้อม ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และทางการเมือง สำหรับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ.