นายกรัฐมนตรี เร่งรัดทุกหน่วยงานร่วมกันแก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง เพื่อประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด ก่อนติดตามการขับเคลื่อน MICE CITY เพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจตะวันออกเฉียงเหนือ ย้ำ “โคราช” เหมาะสมเป็นศูนย์กลางแห่งความเจริญ เผยนัดหน้า ครม.สัญจรอยุธยา
วันที่ 2 กรกฎาคม 2567 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จ.นครราชสีมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 4/2567 ว่า หลายๆ พื้นที่ในภาคอีสาน และล่าสุด จ.ภูเก็ต มีปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งซ้ำซาก สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินประชาชนอย่างมาก โดยการประชุม ครม. เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีการอนุมัติงบกลางกว่า 7,600 ล้านบาท เพื่อเร่งแก้ปัญหาเรื่องนี้ ขอให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กรมชลประทาน เร่งพิจารณาดำเนินโครงการตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงสภาพปัญหา ความเร่งด่วน และสถานการณ์ในพื้นที่ประกอบกันด้วย และขอให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) บูรณาการร่วมกับกรมชลประทานในการจัดเตรียมแผนการรับมือและแนวทางการบรรเทาผลกระทบที่เกิดจากปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง เพื่อให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด
ขณะเดียวกัน นายเศรษฐา กล่าวด้วยว่า สำหรับการประชุม ครม.สัญจร ครั้งต่อไป นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เสนอกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง โดยจะใช้ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นแกนหลัก ซึ่งกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง ประกอบด้วย จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี จ.สระบุรี และ จ.นครนายก เป็นต้น
...
พร้อมกันนี้ ครม.ยังได้เห็นชอบในหลักการโครงการของกลุ่มจังหวัด และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์) 16 โครงการ กรอบวงเงิน 249 ล้านบาท โดยให้กลุ่มจังหวัด และจังหวัดขอรับจัดสรรงบกลางปี 2567 และเห็นชอบในหลักการของโครงการที่เป็นข้อเสนอของภาคเอกชนจำนวน 8 โครงการ กรอบวงเงิน 247.15 ล้านบาท โดยให้ส่วนราชการที่เป็นหน่วยงานเข้าของโครงการขอรับการจัดสรรจากงบกลางในปีนี้ และ ครม.ยังรับทราบอนุมัติ และเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอในการจัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก จ.นครราชสีมา พ.ศ. 2572 ที่ประเทศไทยได้รับการคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของหน่วยงานต่างๆ ไปพิจารณาและดำเนินการให้เสร็จทันปี 2572
ต่อมาเวลา 14.40 น. นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ เดินทางไปยังโรงละครแห่งชาติภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา ตรวจติดตามการขับเคลื่อน MICE CITY เพื่อเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมี นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วยบุคคลากร นักเรียน และนักศึกษา จากวิทยาลัยนาฏศิลปนครราชสีมา ให้การต้อนรับ รวมถึงประชาชนและนักเรียนโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมกับการแสดงกลองยาวต้อนรับ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเดินทักทายนักเรียนพร้อมร่วมเซลฟี่ด้วย ทางด้านตัวแทนชาวบ้านเข้าผูกผ้าขาวม้า มอบธงชัยชนะท้าวสุรนารี และรูปหล่อจำลองท้าวสุรนารี (ย่าโม) ให้กับนายกรัฐมนตรี
จากนั้นตัวแทนเยาวชนแต่งเป็นหนุมานและนางสุพรรณมัจฉา ตัวละครในวรรณคดีรามเกียรติ์ เดินจูงมือนำนายกรัฐมนตรีเข้าไปยังโรงละคร ชมการดำเนินการโรงละครแห่งชาติภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีวงดุริยางค์เครื่องลม จากวิทยาลัยนาฏศิลปนครราชสีมา บรรเลงเพลงให้การต้อนรับ พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะ รับชมการแสดง Soft Power อีสาน จากนักเรียนวิทยาลัยนาฏศิลปนครราชสีมา สาขาวิชานาฏศิลป์พื้นบ้าน พร้อมรับฟังการบรรยายหัวข้อโคราชเมือง MICE CITY
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งในการเดินทางเยี่ยมเยียน จ.นครราชสีมา เดินทางมาเป็นครั้งที่ 4 แล้ว ซึ่งนครราชสีมามีศักยภาพสูง และเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มี สส. 16 คน ภายใต้การนำของนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ น.ส.สุดาวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งเป็นคนโคราช เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดปัจจุบันถึง 2 ท่าน
อีกทั้ง นครราชสีมาเป็นจังหวัดที่มีความเหมาะสมในการเป็นศูนย์กลางแห่งความเจริญ โดยรัฐบาลมีนโยบายหลักที่จะผลักดัน พัฒนาโลจิสติกส์เรื่องการอำนวยความสะดวก การเสริมสร้างวัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยว รวมทั้งด้านอาหาร และเป็นถึงศูนย์กลางด้านการประชุม ซึ่งการเดินทางระยะทางจากกรุงเทพฯ อาจจะอยู่ไม่ไกล แต่ว่าเราไม่หยุดพัฒนา และพยายามพูดคุยเจรจากับทางกองทัพอากาศในเรื่องการแชร์สนามบินให้เครื่องบินพาณิชย์ลงสนามบินทหารได้ เพื่อให้การเดินทางจากทุกภูมิภาคสามารถดำเนินการได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น รวมทั้งจาก International flight (สายการบินนานาชาติ) ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะเป็นศูนย์การทางด้าน International flight จำเป็นอย่างยิ่งในการที่จะให้สายการบินสามารถเดินทางบินลงมาที่ จ.นครราชสีมา โดยรัฐบาลจะมีการดำเนินการนโยบายในหลายๆ เรื่อง ทั้งศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้า Dry Port ที่จะสามารถเดินทางขนส่งได้ถึงสนามบินอู่ตะเภา หรือแม้กระทั่งท่าเรือน้ำลึก และจะดำเนินการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยังย้ำด้วยว่า เรื่องของ MICE CITY เป็นเรื่องที่สำคัญ การเดินทางมาครั้งนี้ได้เห็นศักยภาพของ จ.นครราชสีมา รวมทั้งวัฒนธรรมต่างๆ ของชาวโคราช ซึ่งจะสามารถนำไปสู่สายตาของระดับโลกได้ โดยยังมีเรื่องดีๆ ของจังหวัดอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งการท่องเที่ยวต่างๆ เมื่อนำเรื่องทุกอย่างมาประกอบรวมกันแล้ว สิ่งที่สำคัญที่อยากจะนำเสนอคือศูนย์กลางการประชุม ทั้งนี้ จากการรับฟังการนำเสนอจากเจ้าหน้าที่ ได้รับทราบขนาดพื้นที่จำนวน 40,000 ตารางเมตร ที่จะมีการเตรียมการกันพื้นที่ดังกล่าวในการดำเนินการ ซึ่งรัฐบาลจะเร่งให้ดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ โดยจะมอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ดำเนินการและพิจารณาให้เกิดเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น.