ยึดวุฒิสภาได้ก็ยึดองค์กรอิสระได้

เป็นมุมคิดทางการเมืองที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยอีกครั้งหลังผลการเลือก 200 สว.ปรากฏออกมาให้เห็นโฉมหน้า พอต่อจิ๊กซอว์ก็เห็นภาพโยงใยถึงพลังอำนาจพรรคการเมืองที่อยู่เบื้องหลัง โดย รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย เป็นอีกคนที่พลิกมุมมองให้เห็นภาพดังกล่าว เพราะตั้งข้อสังเกตถึงยุทธศาสตร์ของ “นายใหญ่” ที่ต้องการจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายคือวุฒิสภา

หวังยึดบ้านเมืองเบ็ดเสร็จในการบริหาร

บนสภาพที่รัฐบาลเพื่อไทย (พท.) เข้ามาบนวิกฤติศรัทธา ผลสำรวจนิด้าโพล โพลสถาบันพระปกเกล้า คะแนนพรรค คะแนนตัวผู้นำถูกทิ้งแบบไม่เห็นฝุ่นต่อพรรคคู่แข่ง และยังเผชิญมรสุมหลายลูกถาโถมเข้าใส่ อาทิ ความขัดแย้งในวงการสีกากีระหว่างสองบิ๊กตำรวจ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ที่นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้น เปิดผลสอบออกมาก็ถูกมองเหมือนเสียภาวะความเป็นผู้นำ

ดิจิทัลวอลเล็ตนโยบายเรือธงที่เป็นจุดขาย แต่ยังเข็นออกจากท่าเรือแจกเงินหมื่นไม่ได้ตามที่สัญญาประชาคม สุดท้ายก็เชื่อมั่นรัฐบาลเข็นเรือธงไปถึงปลายทาง แม้เสียรังวัดไปบ้างที่เลื่อนไทม์ไลน์

“นายกฯคงอยากแจกให้เร็ว อาจเสียรังวัดเรื่องการรอ พอแจกเงินจริงมันก็พอกู้หน้ารัฐบาลได้ มันไม่เสียศรัทธา แต่ถ้าเสียเวลารอแล้วไม่ได้เงิน อันนี้เจ๊งจริง

รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล
รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล

...

ต่อให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับนโยบายเรือธงอาจต้องติดคุกถ้วนหน้า พวกนี้ยอมติดหมด การติดคุกเป็นเรื่องในอนาคต อาจไม่ติดก็ได้

แต่ถ้าไม่แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต พรรคเพื่อไทยก็จบสิ้นอนาคตทางการเมือง เลือกตั้งรอบหน้า สส.เข้าสภาคงไม่ถึง 50 คน เพราะผลักดันนโยบายไม่สำเร็จ และแกนนำที่นั่งอยู่ใน ครม.ล้วนเป็นยาหมดอายุ”

ตอนนี้ สส.บ้านใหญ่พอเห็นเครือข่ายพรรคภูมิใจไทยเบ่งบาน คงคิดหนัก อยู่พรรคเพื่อไทยต่อไม่ได้การันตีชีวิตการเมือง มันจะได้อยู่ในอำนาจในฐานะรัฐบาลอีกต่อไป

ขัดกับยุทธวิธีของนายใหญ่ที่เร่งเครื่องกวาดต้อน สส.บ้านใหญ่ในจังหวัดต่างๆเข้าคอก ซึ่งยังมีอีกบางปัจจัยเสี่ยงทางการเมือง ถ้าออกมาตรงกันข้ามกับที่พรรคเพื่อไทยปักธงเอาไว้

รับรองบ้านใหญ่ไหลไปอยู่ “ภูมิใจไทย” หมดแน่

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เห็นออร่าของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ “ภูมิใจไทย” ดูสดใสมากจากผลเลือก สว. รถไฟสายสีน้ำเงินเข้ามาเต็มสภา

อนุทิน ชาญวีรกูล
อนุทิน ชาญวีรกูล

“สภาพการเมืองโดยรวม เพื่อไทยกำลังโดนภูมิใจไทยขึ้นมาแย่งชิงความเป็นผู้นำในปีกอนุรักษ์นิยม โดยเฉพาะสมรภูมิเลือกตั้งใหญ่ครั้งต่อไป”

วิกฤติศรัทธาที่รัฐบาลเพื่อไทย และพรรคกำลังเผชิญ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เสื่อมมนตร์ขลัง หรือมือบริหารจัดการขบวนรถไฟสายสีแดงจัดการไม่ดี ทำให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ไม่ผ่านด่านสุดท้ายเลือก สว. รศ.ดร.ธนพร บอกว่า แน่นอนทุกพรรคต่างปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องกับการเลือก สว.

แต่นายสมชายถูกตั้งข้อสังเกตเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้าย สร้างดุลอำนาจตามยุทธศาสตร์ของนายใหญ่ คงต้องโทษมือบริหารจัดการสู้ศึก สว.มันอ่อนหัดจริงๆ

“เมื่อเป็นข้อสั่งการ เป็นคำสั่งจากนายใหญ่ที่ต้องการยึดเบ็ดเสร็จ เมื่อ 20 ปีก่อนเคยยึดได้จริง แต่รอบนี้การบริหารจัดการขบวนรถไฟสายสีแดง ต่างคนต่างทำ ไม่มีตัวกลางประสาน

ในวันเลือกรอบไขว้ กลุ่มนายสมชายถึงขั้นต้องเดินหาเสียงด้วยตัวเอง แสดงให้เห็นถึงการเตรียมพร้อมด้านต่างๆของขบวนรถไฟสายสีแดงไร้ประสิทธิภาพ และเกิดหักหลังกันเองในสมรภูมิ

ขอย้ำผมรู้มาก่อนว่านายใหญ่ต้องการยึดวุฒิสภา เมื่อทำการล้มเหลว เป็นสิ่งที่นายใหญ่ต้องไปสังคายนาการบริหารจัดการ หรือลงโทษคนที่รับงานนี้ไปทำ”

เพื่อไทยต้องปรับท่าทีหยุดไล่บี้พรรคร่วมรัฐบาล

ไม่ว่าในสิ่งที่เคยทำกับพรรครวมไทยสร้างชาติ บี้ให้คายเก้าอี้ รมช.คลัง สุดท้ายต้องโบกมือลา หรือกรณีนโยบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทย ที่พรรคเพื่อไทยเร่งรัดเอากลับไปอยู่ในบัญชียาเสพติด หักหน้าเพื่อนชนิดไม่ปรานีปราศรัย

หากยังไม่ยอมหยุดบี้มีโอกาสที่นายอนุทินขึ้นเป็นนายกฯในสมัยนี้ แต่หากหยุดพฤติการณ์เดิมๆ นายอนุทินคงมีโอกาสลุ้นเป็นนายกฯในสมัยการเลือกตั้งครั้งหน้า

“ในอดีตครูใหญ่ของภูมิใจไทยเคยยกพลไปเก็บตัวที่เขาใหญ่ เพื่อออกจากพรรคพลังประชาชนไปร่วมรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ เป็นปฏิบัติการเขาใหญ่ 1

รอบนี้เพื่อไทยไปไล่บี้เขาเสียผู้เสียคน เสียภาพลักษณ์ทางการเมือง ก็รอวันเอาคืนในการเลือกสว. โดยหากนายสมชายส่งสัญญาณไปถึงนายใหญ่ ให้เห็นหัวกันบ้าง ไล่บี้แบบนี้ทนไม่ไหวแล้ว”

ปฏิบัติการ “บ้านใหญ่บุรีรัมย์” สั่งสอน “นายใหญ่”

ดุลอำนาจในปีกอนุรักษ์นิยมกำลังเปลี่ยนจากพรรคเพื่อไทยไปพรรคภูมิใจไทย มีโอกาสกระทบต่อตำแหน่งนายกฯ ของนายเศรษฐา ทวีสิน รศ.ดร.ธนพร บอกว่า วันนี้ พท.ไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดสำหรับผู้คุมอำนาจ เพราะใครคุมวุฒิสภาคือผู้มีอำนาจครบถ้วน ในเมื่อสีน้ำเงินยึดวุฒิสภา

นับจากวันที่ สว.ชุดใหม่ปฏิบัติหน้าที่ ในอนาคตกรรมการองค์กรอิสระหรือองค์กรตามรัฐธรรมนูญก็กลายเป็นสีน้ำเงิน อาทิ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต้องเลือกอีก 6 ตำแหน่ง ชี้ให้เห็นถึงพลังอำนาจของ สว. ซึ่งเป็นองค์กรเดียวที่เฟ้นเลือกกรรมการองค์กรอิสระ รัฐบาลหรือสภาผู้แทนราษฎรก็ตั้งไม่ได้

ยังไม่นับยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปรัฐบาล ตั้งกระทู้ถาม ตั้งญัตติต่างๆ คณะกรรมาธิการสามัญชุดต่างๆ พิจารณาศึกษา ตรวจสอบฝ่ายบริหาร มีอำนาจทำได้ ต่อไปใครปฏิบัติอะไรกับพรรคภูมิใจไทย คงเกรงอกเกรงใจกันมากขึ้น

ขณะที่คดีถอดถอนนายเศรษฐาออกจากตำแหน่งนายกฯ คงไม่มีปัญหา เพราะศาลรัฐธรรมนูญยังเป็นชุดเดิมอยู่ แต่ถ้ามีคดีอื่นหลัง

จากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเริ่มทยอยหมดวาระ และ สว.ชุดใหม่ต้องเลือกเข้าไปพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐาคงยิ่งหนาวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ควรทำบุญสวดมนต์เยอะๆ ภาวนาอย่าให้กรรมการองค์กรอิสระหมดวาระเร็ว

“ไม่ต้องห่วงเพื่อไทยหรือภูมิใจไทยเป็นแกนนำปีกอนุรักษ์นิยม ก็เป็นเบี้ยบนกระดานตัวหนึ่งเท่านั้น หน้าที่ของเบี้ยเหล่านี้ อย่าให้ก้าวไกลเข้ามามีอำนาจเป็นรัฐบาล

เมื่อภูมิใจไทยยึดครองวุฒิสภา ต้องปฏิบัติ 4 เรื่องใหญ่ คือ 1.แก้รัฐธรรมนูญ ใครก็ตามต้องการรื้อหมวด 1 หมวด 2 สว.สีน้ำเงินเกิดแล้ว ไม่มีทางแก้ได้

2.นิรโทษกรรมพ่วงคดี 112 อย่าไปเหนื่อยผลักดันต่อ ไม่ผ่าน สว.ชุดนี้แน่นอน 3.ส.ส.ร.มาจากเลือกตั้ง 100% ไม่ผ่าน สว.ชุดนี้ชัวร์

4.ใครที่ขอให้การเลือก สว.สูตรพิสดารเป็นครั้งสุดท้าย ขอแสดงความเสียใจด้วยที่สูตรนี้ยังคงดำรงอยู่ต่อไป เพราะเป็นกติกาที่เป็นประโยชน์ต่อปีกอนุรักษ์นิยม แทบปิดประตูตาย สว.สีส้มแหวกขึ้นมาได้”

กองทัพแฮปปี้ ไม่เหนื่อยแรง ไม่ถูกปั่นว่าต้องยึดอำนาจ เพราะกลไกองค์กรอิสระทำหน้าที่ “นิติปฏิวัติ” ได้ตลอดเวลา ขั้วอำนาจเดิมแฮปปี้ ประเทศไทยมีภาพลักษณ์เป็นประชาธิปไตย

จับตาดูการเปลี่ยนตัวผู้นำจาก พท.เป็นภูมิใจไทย

แม้ในสถานการณ์ที่พรรคก้าวไกลหรือปีกก้าวหน้าที่มีพลังอำนาจมากที่สุด แข็งแกร่งขึ้นมากกว่าปีกอนุรักษ์นิยม แต่ติดเงื่อนไขกติกาทำให้พลังอำนาจที่มีอยู่ระเบิดออกมาไม่ได้ เข้าสู่อำนาจไม่ได้ ถูกขีดเส้นให้เป็นแค่พรรคฝ่ายค้านที่มีประสิทธิภาพ

ต่อให้เลือกตั้งใหม่ปี 2570 แลนด์สไลด์ได้เป็นรัฐบาลก็ถูกยุบพรรคอยู่ดี โดยถูก “นิติปฏิวัติ” ซึ่งพอกล้อมแกล้มอธิบายต่อสังคมโลกได้ว่า อยู่ในกรอบกติกา ยืดเวลาปีกอนุรักษ์นิยมไปเรื่อยๆ มันดีกว่าประเทศไทยเกิดรัฐประหาร ซึ่งเป็นวิธีที่สังคมโลกไม่ยอมรับ

ผู้คุมอำนาจมองว่านิติปฏิวัติจัดระเบียบการเมือง

ได้ดีกว่ารัฐประหาร โดยใช้รถถังสีเขียวยึดอำนาจ.

ทีมการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม