“ข้อเท็จจริงของโรคสมองอักเสบเฉียบพลันและไวรัสเอนเทอโร” ที่ควรต้องรู้...

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศูนย์ปฏิบัติการโรคทางสมอง คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ย้ำว่าการวินิจฉัยภาวะ “สมองอักเสบเฉียบพลัน” เพื่อให้ได้ถึงสาเหตุและอุบัติการณ์ที่แท้จริง จำต้องทราบลักษณะเฉพาะตัว ดังต่อไปนี้

หนึ่ง...เป็นภาวะที่เกิดมีกระบวนการอักเสบขึ้นในเนื้อสมอง ส่งผลให้มีการทำงานของสมองผิดปกติไป ซึ่งอาจเกิดขึ้นที่ระบบประสาทในระดับใดก็ได้ กล่าวคือ สมองและ...หรือไขสันหลัง รวมทั้งเส้นประสาทที่ออกจากไขสันหลัง สอง...โรคดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ในเวลาเป็นชั่วโมง...วัน...จนถึง 2 สัปดาห์


สาม...การอักเสบนั้นเกิดขึ้นได้จากทั้งการติดเชื้อ ทั้ง...ไวรัส แบคทีเรีย วัณโรค รา พยาธิ และไม่ติดเชื้อ เช่น จากภาวะภูมิคุ้มกันแปรปรวน จากโรคแพ้ภูมิตนเอง จากยา หรือจากเนื้องอกบางชนิดที่ทำให้น้ำเหลืองเสีย

สี่...เชื้อชนิดเดียวกันอาจทำให้มีอาการต่างๆกันได้ เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบหรือไขสันหลัง และ...หรือสมองอักเสบ โดยอาจแสดงอาการแรกเริ่มที่ระดับไขสันหลังก่อน เช่น ขาอ่อนแรง 2 ข้าง ปัสสาวะไม่ออก หรืออาจมีอาการทางสมองก่อนแล้วตามด้วยอาการทางไขสันหลังก็ได้

ห้า...ความผิดปกติในสมองเป็นได้ทั้งซึมจนไม่รู้สึกตัว หรือมีพฤติกรรมแปรปรวน เอะอะอาละวาด ก่อนที่จะซึม...แต่อาจไม่ตามด้วยซึมก็ได้ นอกจากนี้ยังอาจพบร่วมกับอาการชัก หรือมีแขน ขาอ่อนแรงครึ่งซีกซ้ายหรือขวา บางกรณีอาการรุนแรงรุกล้ำเข้าไปในเนื้อสมองหรือมีอาการแทรกซ้อน อาจทำให้มีอาการซึมไม่รู้ตัวได้เช่นกัน

หก...ควรต้องวินิจฉัยแยกโรคจากภาวะอื่นๆที่ทำให้ผู้ป่วยซึมด้วย เนื่องจากอาการซึมอาจไม่ได้เกิดจากการอักเสบที่สมองอย่างเดียว อาจเกิดจากภาวะความดันโลหิตหรือหัวใจผิดปกติ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการติดเชื้อหรือเกิดจากเกลือแร่ผิดปกติรุนแรง เช่น เกลือโซเดียมต่ำ

“นิยามของสมองอักเสบเฉียบพลัน” สมองอักเสบเป็นภาวะอันประกอบด้วย ไข้–ปวดหัว ร่วมกับลักษณะซึ่งบ่งบอกถึงความผิดปกติของเนื้อสมองและระบบประสาทอื่นๆ โดยมีอาการสำคัญได้ 4 แบบ

แบบแรก...ความแปรปรวนในด้านการรับรู้ อาจมีความจำเปลี่ยนแปลง หลงลืมง่าย พฤติกรรมผิดปกติ เห็นภาพหลอน จนถึงอาจมีอาการทางจิตได้ และ...หรือ แบบที่สอง...มีความเปลี่ยนแปลงทางระดับความรู้สึกตัว ทั้งในทางลดลง...ซึม ไม่รู้ตัว หรือเพิ่มขึ้น...เพ้อเจ้อ กระวนกระวาย

และ...หรือ แบบที่สาม...มีความผิดปกติในหน้าที่การทำงานของเนื้อสมอง และ...หรือ ไขสันหลัง-เส้นประสาทเป็นส่วนๆ และ...หรือ แบบที่สี่...ชัก อาจเกิดขึ้นเฉพาะที่ เช่น กระตุกของแขน ขา หรือทั้งตัวแบบลมบ้าหมูก็ได้

ไข้อาจไม่มี หรือปรากฏในระยะต่อมาเท่านั้น...เช่นเดียวกับปวดศีรษะและอาจจะไม่มีไข้เลย หรืออยู่ในระดับอุณหภูมิต่ำกว่าปกติตัวเย็น โดยเฉพาะเมื่อผู้ป่วยอยู่ในระยะท้ายหรือไม่รู้ตัว นอกจากนี้ ควรต้องแยกสมองอักเสบจากภาวะที่สมองทำหน้าที่ผิดปกติจากสารพิษ ยาต่างๆ หรือ มีภาวะตับวาย ไตวาย เป็นต้น

คราวนี้มาว่ากันต่อถึงโรคสมองอักเสบที่เกี่ยวกับการติดเชื้อ ซึ่งแบ่งแยกย่อยออกได้เป็น 3 ชนิด คือ 1) สมองอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อในระบบอื่นๆของร่างกายก่อน แล้วจึงลุกลามทั่วร่างกายจนในที่สุดเข้าสมองด้วย

2) สมองเป็นเป้าหมายตรง ซึ่งในกรณีของไวรัส ส่วนใหญ่มักเกิดพยาธิสภาพที่เซลล์สมองเป็นสำคัญ แต่ไวรัสบางชนิดจะมีการติดเชื้อที่เส้นเลือดก่อน เช่น ไวรัสงูสวัด (varizella zoster virus) ซึ่งไวรัสบางชนิดอาจมีเป้าหมายมากกว่าหนึ่ง เช่น นิปาห์ (Nipah virus) ไปที่สมองและปอด

ไวรัสเอนเทอโร เช่น เอนเทอโร 71 (enterovirus 71) เข้าสมอง ปอด และหัวใจ ทำให้เกิดการอักเสบ แต่มีความสามารถพิเศษที่เข้าก้านสมองอย่างเดียวก็ได้ และทำลายตัวประสาทอัตโนมัติที่ควบคุมปอด และหัวใจ จนน้ำท่วมปอด หัวใจวาย

3) สมองอักเสบที่เป็นผลมาจากกลไกในระบบภูมิคุ้มกัน เช่น สมองอักเสบตามหลังการติดเชื้อ โดยเกิดจากทำลายเนื้อเยื่อส่วนสีขาว กรณีที่เกิดจากน้ำเหลืองเสียอื่นๆ มีการทำลายที่เซลล์ประสาทโดยตรงได้

คุณหมอธีระวัฒน์ เน้นว่า ภาวะทั้ง 3 อย่างนี้แยกจากกันได้ยาก เนื่องจากอาจให้ลักษณะที่คล้ายคลึงกัน ต้องอาศัยลักษณะ อาการ การดำเนินโรค และ หลักฐานของการติดเชื้อว่าเริ่มจากระบบอื่นๆก่อนหรือไม่

รวมทั้งภาพรังสีวินิจฉัย จึงจะทำให้สามารถคาดเดาพยาธิสภาพที่เกิดขึ้นได้ และต้องการผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการบางอย่างมาช่วยในการวินิจฉัยด้วย

สำหรับกรณีไวรัสเอนเทอโร ในช่วง 12 ปีที่ผ่านมาศูนย์ปฏิบัติการโรคทางสมอง คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ พบว่า ไวรัสเอนเทอโรเป็นต้นเหตุของสมองและเยื่อหุ้มสมองอักเสบในเด็กอายุน้อยกว่า 14 ปี 34 ราย และผู้ใหญ่ 4 ราย จากจำนวนทั้งหมด 930 ราย

ทั้งนี้ ในผู้ใหญ่ พบว่าอาการไม่มากเป็นเพียงเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และหายเองภายในเวลา 2-3 วัน และยังพบอีกว่า ทารกแรกคลอดเมื่อกลับบ้านก็มีโอกาสติดเชื้อได้ทันที และมีจำนวน 36% ในเด็กอายุน้อยกว่า 3 เดือน ที่มีการติดเชื้อรุนแรงและสมองอักเสบ ที่เกิดจากเชื้อเอนเทอโร

“การที่ผู้ใหญ่พบการติดเชื้อน้อย น่าจะอธิบายจากการที่ได้สัมผัสเชื้อ ต่อเนื่องเป็นเวลานานจนมีภูมิต้านทาน ดังนั้น...ถ้ามีการติดเชื้อและมีอาการรุนแรงในวงกว้างของเชื้อเอนเทอโรในผู้ใหญ่ จำเป็นต้องมีการหาสาเหตุอย่างละเอียด...เมืองไทยก็มีสายพันธุ์ต่างๆของเชื้อเอนเทอโร 71 เกือบครบถ้วนไม่แตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้านนัก”

โดยมีทั้ง C1 C2 และ C4 รวมทั้ง B5 แต่ก็ไม่มีโรครุนแรงดังเช่นประเทศต่างๆ เป็นเครื่องแสดงว่า ชนิดของสายพันธุ์มิได้เป็นตัวกำหนดความรุนแรงเพียงอย่างเดียว ยังขึ้นกับปัจจัยในคนอีกด้วย

สิ่งสำคัญที่ควรท่องจำกันให้ขึ้นใจนั่นก็คือ...ข้อควรปฏิบัติในการป้องกันตนเอง โดยมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การรักษาสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด “กินร้อน...ช้อนกลาง และล้างมือด้วยน้ำสบู่บ่อยๆ...ไอจามปิดปาก ผู้ใดมีอาการเจ็บป่วยต้องแยกตัวไม่แพร่เชื้อไปสู่คนอื่น”

การทำความสะอาดกำจัดเชื้อก่อโรคมือเท้าปาก ถึงแม้เจลล้างมือ แอลกอฮอล์ 70% จะสามารถฆ่าเชื้อโรคได้มากมายหลายชนิด แต่ไม่ได้ผลในการฆ่าเชื้อเอนเทอโรไวรัส รวมถึงเชื้อก่อโรคมือเท้าปากที่กำลังเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขวันนี้ ดังนั้น แม้สะดวกแต่ไม่ได้ผลในการกำจัดเชื้อ

วิธีทำความสะอาดที่เหมาะสม คือ การล้างมือด้วยน้ำและสบู่ เพื่อชะล้างเชื้อจากผิวหนัง เช่นเดียวกันกับการทำความสะอาดพื้นผิว โต๊ะเก้าอี้ อุปกรณ์อื่นๆ และพื้น

ส่วนการฆ่าเชื้อที่พื้นและอุปกรณ์จะต้องใช้ Sodium hypochlorite 0.5% เช่น ไฮเตอร์ Clorox ในกรณีที่เป็นผง ให้ใช้ขนาด 5 กรัม กับน้ำ 950 ซีซี เก็บไว้ใช้ได้นาน 7 วัน ยกเว้นถ้าเปลี่ยนสีแสดงว่าหมดอายุ

ต้องทิ้ง เตรียมใหม่ น้ำยานี้ใช้ทำความสะอาดพื้นผิว สิ่งของ เครื่องใช้ ชุบน้ำยาชุ่มเช็ดบนพื้นผิวที่ต้องการ หรือราดที่พื้น ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วจึงล้างหรือเช็ดออก

การนำอุปกรณ์ที่ทำความสะอาดแล้วตากแดดให้แห้ง จะช่วยเสริมการกำจัดเชื้อได้ดีขึ้น ส่วนน้ำยาฆ่าเชื้ออื่นที่ใช้ไม่ได้คือ แอลกอฮอล์ 70% ไลซอล อีเทอร์ คลอโรฟอร์ม ไอโซโปรพานอล (isopropyl alcohol) ความร้อนต่ำกว่า 50 องศาเซลเซียส...สำหรับอาหารควรอุ่นให้เดือดหรือร้อนจัดอย่างน้อย 10 นาที

ทั้งหมดนี้เป็นความเป็นไปของเชื้อโรค เป็นสิ่งที่มนุษย์ป้องกันได้ถ้ามีสติ...ตื่นตัวไม่ตื่นตูม.

...