กกต.ชวนผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล สถานกงสุลกิตติมศักดิ์ องค์กรระหว่างประเทศ องค์กรในประเทศ ร่วมสังเกตการณ์เลือก สว.นัดชิงดำ “อิทธิพร” ตั้งรางวัลชวนจับโกง 1 ล้าน “แสวง” ปัดจนปัญญาจับฮั้ว รวบรวมหลักฐานไว้หมด เป็น สว.แล้วก็สอยได้ถ้าผิด เผยตัดสิทธิ 5 ราย เหลือผู้สมัคร 2,995คน “สมชาย” ปูดอีกค่าหัว 1 ล้าน บวกเครื่องราชย์-ตำแหน่งล่อใจ “ภูมิธรรม” ตอก “เจ๊หน่อย” โละปาร์ตี้ลิสต์ฝันไปหรือเปล่า เย้ยไปสร้างพรรคให้แข็งแรงก่อน “อนุทิน” ฟันธงแก้ไม่ได้ รทสช.หัวชนฝามี สส. 2 ระบบดีอยู่แล้ว “เศรษฐา” ไม่ชอบเดินป่า รักความสบาย อยู่ในกรุงดีกว่า มีโอกาสจะไปคารวะ “บิ๊กป้อม” ก๊วนลากตั้งขึงขังสอยนายกฯรอบ 2“สุทิน” รับโละกุนซือมีกลิ่นตุ ออกหมายจับ “เพนกวิน”หนีศาล

กกต.เตรียมความพร้อมเลือก สว.ระดับประเทศ ดึงผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล สถานกงสุลกิตติมศักดิ์ และองค์กรระหว่างประเทศประจำประเทศไทย เข้าร่วมสังเกตการณ์ ด้านนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. รีบแจงไม่ได้บ้อท่าจับขบวนการฮั้ว ยืนยันเก็บข้อมูลหลักฐานไว้หมด แค่รอจังหวะสอย

...

องค์กรนานาชาติจับตาเลือก สว.

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 มิ.ย.ที่โรงแรมอัศวิน นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมการสังเกตการณ์การได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) แก่ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล สถานกงสุลกิตติมศักดิ์และองค์กรระหว่างประเทศประจำ ประเทศไทย มีนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.เข้าร่วม นายแสวงให้สัมภาษณ์ก่อนเริ่มงานว่า เป็นการซักซ้อมทำความเข้าใจถึงระบบการเลือกตั้ง สว.ที่จะมีขึ้นวันที่ 26 มิ.ย. โดยมีตัวแทนของคณะกรรมาธิการ กลุ่มประชาสังคม เช่น iLaw และ We Watch เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย

“แสวง” ปัด กกต.จนปัญญาจับโกง

นายแสวงยังกล่าวถึงกรณีให้สัมภาษณ์ว่าการจับโกงการเลือก สว.ไม่ง่ายว่า ไม่ได้บอกว่า กกต.หมดท่า หรือไม่กล้า แต่ที่ต้องการสื่อคือในชั้นการรวบรวมพยานหลักฐาน กกต.ไม่ได้รู้สึกเกรงกลัว หรือไม่ต้องเกรงใจใคร ตั้งแต่ได้ผู้ผ่านการเลือก สว.ระดับจังหวัดจำนวน 3,000 คน ก็ติดตามความเคลื่อนไหวทุกคน มีข้อมูลทั้งหมด แน่นอนว่าผู้สมัครมีสิทธิ์ที่จะพักในโรงแรมเดียวกัน ถือเป็นเบาะแสอย่างหนึ่ง เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. กกต.ลงพื้นที่โรงแรม 2 แห่ง พบว่าเป็นเพียงการพูดคุย แนะนำตัวกัน แต่ถือเป็นมาตรการป้องปราม และรวบรวมพยานหลักฐาน หากพบว่ามีการกระทำฝ่าฝืนกฎหมาย ก็ส่งศาลพิจารณาตัดสิน ก่อนการแจกใบเหลือง ใบส้ม ใบดำ ใบแดง

เป็น สว.แล้วก็สอยได้ถ้าทำผิด

นายแสวงกล่าวอีกว่า การจะแจกใบเหลือง ใบส้ม ใบดำ ใบแดง ต้องส่งสำนวนหลักฐานไปที่ศาลฎีกา กกต.ไม่สามารถนำความเชื่อความเห็นส่งให้ศาลตัดสินได้ ต้องมีพยานหลักฐานที่จะเชื่อได้ว่ามีการกระทำฝ่ากฎหมายเลือก สว. อยู่ที่การรวบรวมพยานหลักฐาน ขอให้สบายใจได้ว่า กกต.ไม่ได้ล่าช้า แม้หลักฐานอาจไม่ได้ในวันนี้ อาจได้ในภายหลัง และแม้จะเป็น สว.แล้วก็สอยได้หากมีหลักฐานกระทำความผิด คืนนี้สิ่งที่ต้องจับตาก่อนการเลือกระดับประเทศในวันที่ 26 มิ.ย. ยังเป็นเรื่องที่มีผู้สมัคร สว.ไปรวมตัวไปชุมนุมกัน แนะนำตัวกัน ตามโรงแรมหรือที่ต่างๆอยู่ในบัญชีเราแล้ว

ตัดสิทธิ 5 รายเหลือผู้สมัคร 2,995

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะฝากเตือนผู้สมัคร สว.หรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า ตอนนี้ผู้สมัครเหลือ 2,995 คน ในฐานะ ผอ.การเลือก สว.ระดับประเทศ ได้สั่งลบชื่อผู้สมัครที่ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้าม จำนวน 5 คน โดยเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา ศาลฎีกาตัดสินลงมาแล้ว ดังนั้นไม่มีจำนวนผู้สมัครเพิ่มขึ้น มีแต่ลดลงถูกลบชื่อเพราะไม่มีคุณสมบัติ และมีลักษณะต้องห้าม เมื่อถามว่าคำร้องที่จะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จก่อนการเลือก สว.ระดับประเทศ 26 มิ.ย.นี้ ดำเนินการแล้วเสร็จแล้วหรือไม่ นายแสวงตอบว่า คำร้องเกี่ยวกับกระบวนการเลือก ทั้งระดับอำเภอและระดับจังหวัด ในชั้นศาลฎีกาพิจารณาหมดแล้ว

กกต.ซ้อมใหญ่เฟ้น สว.รอบชิง

ต่อมาที่อาคาร 4 อิมแพ็คฟอรั่ม เมืองทองธานี นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. พร้อมนายชาย นครชัย นายปกรณ์ มหรรณพ กกต. ตรวจดูความพร้อมการจัดเตรียมสถานที่รองรับการเลือก สว.ระดับประเทศ มีการจัดเตรียมความพร้อมหลายจุด อาทิ บริเวณชั้น 1 เตรียมห้องพักคอยผู้สมัคร สว. มีห้องสำหรับผู้สังเกตการณ์ต่างประเทศรองรับได้ประมาณ 100 คน ส่วนชั้น 2 แบ่งพื้นที่ด้านนอกเป็นพื้นที่ทำงานของสื่อ สำหรับการแถลงข่าว รวมถึงจัดเตรียมพื้นที่สำหรับผู้สังเกตการเลือกตั้งที่ลงทะเบียนเข้าสังเกตการณ์เลือก สว. กับ กกต. และสถานที่สำหรับประชาชนทั่วไปที่จะมาสังเกตการณ์ ต่อมาช่วงบ่ายมีการซักซ้อมขั้นตอนการปฏิบัติ ตั้งแต่การรายงานตัว การนับคะแนน ขานคะแนน เพื่อให้การเลือก สว.เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

พร้อมจัด 95% ชวนจับโกง 1 ล้าน

นายอิทธิพรให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้มีความพร้อม 95% แล้ว เหลือเพียงอุปกรณ์บางอย่างและการซักซ้อมเสมือนจริงในช่วงบ่าย มุ่งเน้นให้การปฏิบัติหน้าที่ราบรื่น และอำนวยความสะดวกให้กับผู้สมัคร และย้ำว่าเพื่อความโปร่งใส มีการติดตั้งกล้องบันทึกภาพและเสียง เพื่อถ่ายทอดให้บุคคลภายนอกเฝ้าติดตามสังเกตการณ์ส่วนกระบวนการเลือกในแต่ละกลุ่มจะมีจอถ่ายทอดด้วย กกต.ไม่หนักใจกรณีที่มีผู้สมัครไปรวมตัวกันที่โรงแรม เพราะทำตามกฎหมายอย่างเต็มที่ และแสวงหาความร่วมมือในส่วนต่างๆ เชิญชวนประชาชนมาร่วมตรวจสอบการเลือก สว.ครั้งนี้ มีเงินรางวัลนำจับการทุจริต 1 ล้านบาท และถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะพลเมืองดี หากประชาชนหวั่นเกรงอิทธิพล กกต.ให้ความมั่นใจว่ามีระบบคุ้มครองพยาน รวมถึงกรณีพยานที่เป็นผู้กระทำผิดแต่ให้การที่เป็นประโยชน์ เมื่อถามว่ารู้สึกเสียกำลังใจหรือไม่ว่า กกต.ถูกทัวร์ลงในการจัดเลือก สว. นายอิทธิพรตอบว่า ถ้าทัวร์ลงหมายความว่าที่นั่นน่าไป น่าสนใจ ไม่เคยเสียกำลังใจ เป็นหน้าที่ต้องทำ ใครวิพากษ์วิจารณ์ก็พร้อมรับฟัง

300 ผู้สมัคร สว. รวมกลุ่มสัมมนา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลา 13.00-16.00 น.ที่ห้องจูปีเตอร์ 11-13 อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี มีการจัดงานสัมมนา สว. ประชาชน กำหนดเงื่อนไขผู้เข้าร่วมต้องเป็นผู้ได้รับเลือก สว. ระดับจังหวัด ที่ต้องได้รับเชิญเป็นการเฉพาะ 300 คน ทั้งนี้เมื่อผู้สมัคร สว. มาถึง มีการลงทะเบียนและแจกสายรัดข้อมือสีขาว สีเขียว สีฟ้า เป็นสัญลักษณ์ มีการ์ดยืนหน้าประตูคอยตรวจเช็กว่าผู้ที่เข้าร่วมงานมีริสต์แบนด์หรือไม่ และไม่อนุญาตให้สื่อมวลชน เข้าไปติดตามการแนะนำตัวของผู้สมัครด้านใน จากการสอบถามผู้สมัคร สว. ที่ติดริสต์แบนด์ บอกว่าไม่ทราบว่าแต่ละสีมีความหมายว่าอย่างไร เพราะผู้จัดงานเป็นคนยื่นให้ แต่เจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่ที่โต๊ะลงทะเบียนแจ้งว่าเป็นการแยกกลุ่มสำหรับผู้สมัคร สว. ที่ลงทะเบียนมาแล้ว กับผู้สมัครที่วอล์กอินเข้าร่วมหน้างาน ทั้งนี้ทราบภายหลังว่าผู้จัดงานดังกล่าวคือนางจีรนุช เปรมชัยพร ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ อดีตผู้สมัคร สว. แจ้งวัตถุประสงค์ในการจัดสัมนาเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยน สู้กับกลุ่มบ้านใหญ่ ขณะที่ สว.ชุดใหม่เป็นกลไกสำคัญในการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่จะนำไปสู่การฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตย รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าไม่ใช่การฮั้ว

ปูดค่าหัว 1 ล้านบวกเครื่องราช

ขณะที่นายสมชาย แสวงการ สว. โพสต์เฟซบุ๊กเป็นบันทึกวีดิโอ อ้างว่าเป็นโรงแรมแห่งหนึ่ง ชื่อย่อ A ย่านดอนเมืองแอร์พอร์ต ที่กลุ่มขบวนการจัดฮั้วเลือก สว. เตรียมการเอาไว้ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. พร้อมระบุว่า ราคากว้านซื้อเสียงโหวตจากผู้สมัครอิสระที่ไม่ได้สังกัดพรรค เริ่มต้นที่ 3 แสนบาท 5 แสนบาท ถึง 1 ล้านบาท แหล่งข่าวที่ได้รับการต่อรองในห้องเฉพาะกับตัวแทนนักการเมือง ยืนยันว่ามีขบวนการซื้อเสียงเกิดขึ้นจริงกับทุกคน นอกเหนือจากเงินที่แต่ละคนจะได้รับในการเข้าร่วมกลุ่มฮั้วภายใต้พรรคแล้ว จะได้รับการต่อรองสิทธิเพิ่ม เช่น ผู้ช่วย ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการประจำตัว สว. 1 ใน 8 ตำแหน่ง และได้ดำรงตำแหน่งเลขานุการ นักวิชาการ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการคณะต่างๆที่จะตั้งขึ้น มีโอกาสได้รับค่าตอบแทนรายเดือน และเครื่องราชอิสรยาภรณ์ด้วย

“อ้วน” ตอก “เจ๊หน่อย” ฝันไปเปล่า

เวลา 07.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์กรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ระบุว่า พรรคเพื่อไทยจะเสนอให้แก้รัฐธรรมนูญ โดยตัด สส.บัญชีรายชื่อ เพื่อสกัดพรรคก้าวไกลว่า พูดหลายครั้งว่าการทำประชามติ เพื่อหาทางแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีข้อจำกัด หากแก้ไขประเด็นดังกล่าวต้องได้ร้อยละ 20 ของฝ่ายค้านและร้อยละ 20 ของวุฒิสภา บอกว่าเราจะแก้เพื่อทำร้ายพรรคก้าวไกลนั้น แล้วคะแนนร้อยละ 20 ของพรรคก้าวไกลมาจากไหน การแก้ไขรัฐธรรมนูญตกแน่นอน นั่นหมายความว่าไม่มีมูลความจริง สงสัยว่าคุณหญิงสุดารัตน์ได้ฟังมาจากพวกจริงๆ หรือฝันไป สื่อทำข่าวที่ไม่เป็นความจริง คืออะไร ข่าวเต้าหรือเต้าข่าว ทำงานสร้างพรรคให้แข็งแรงเป็นกำลังสร้างประชาธิปไตยให้ได้ หากทำแบบนี้จะเป็นปัญหากับตัวเอง

เย้ยก้าวไกลควรมองอะไรให้กว้าง

นายภูมิธรรมยังกล่าวถึงกรณีพรรคก้าวไกล ไม่รับตำแหน่งในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ว่า ไม่เป็นไร มีการตรวจสอบข้างนอกอยู่แล้ว แต่อย่าทำให้ดูดีจนกระทั่งไม่ทำหน้าที่ก็แล้วกัน ตั้งแต่ที่พรรคก้าวไกลบอกว่าไม่ลงมติรับร่างงบฯปี 2568 และจะไปยื่นฟ้องศาลปกครอง ไม่ใช่กระบวนการที่ควรจะทำ ขณะที่ประเทศต้องการเงินงบประมาณมาทำงาน และความจริงควรไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลเป็นห่วงเรื่องโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต นายภูมิธรรมตอบว่า ยิ่งห่วงก็ยิ่งต้องเข้ามาเป็น กมธ. เรื่องนี้เหมือนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เชิญเข้ามาร่วมก็ไม่เอา แต่ไปวิจารณ์อยู่ข้างนอก ไม่อยากให้พรรคก้าวไกลทำงานมองแต่ความต้องการของตัวเองเป็นหลัก ควรมองให้กว้าง ไม่อยากให้ใช้อารมณ์ หากช่วยให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น กรุงโรมไม่ได้สร้างในวันเดียวต้องใช้เวลา อยากให้ก้าวไกลเข้าใจปรัชญาในประเด็นนี้ด้วย

“สุทิน” แซวตัวเองสงสัยตกข่าว

นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อยกเลิก สส.บัญชีรายชื่อว่า ยังไม่ทราบ ยังไม่ได้ยินหรืออาจพูดกันที่อื่น ตกข่าวหรือไม่ ผู้สื่อข่าวถามว่ามีกระแสข่าวว่าต้องการสกัดกั้นพรรคก้าวไกล นายสุทินตอบว่า ไม่รู้ แต่การไปสกัดกั้นพรรคได้พรรคหนึ่ง หันไปสร้างความนิยมจะดีกว่า เป็นความจริงที่จีรัง ไม่ใช่ใช้วิธีไปแก้กติกาเพื่อเล่นงานกัน

“อนุทิน” ชี้ยากตัดทิ้งปาร์ตี้ลิสต์

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า สส.บัญชีรายชื่อมีมาตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี 2540 จะ 30 ปีแล้ว ไม่เคยมีปัญหาอะไร ตนเป็น สส.บัญชีรายชื่อ ก็ต้องเห็นด้วย ส่วนที่บอกว่าหลือแต่ สส.เขต จะทำให้พรรคที่มีบ้านใหญ่ได้เปรียบนั้น คิดว่าพรรคการเมืองทุกพรรคต้องทำให้ดีที่สุดจริงๆ ไม่มีคิดหรอกว่าจะไปเอาชนะพรรค ก ข หรือ คคิดอย่างเดียวว่าเอาตัวเองให้รอด เมื่อถามว่าเคยได้ยินคนพรรคเพื่อไทยพูดในลักษณะนี้หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไม่เคยเลย ส่วนตัวมองว่าแก้ลำบาก และแก้ไม่ได้หรอก เพราะเวลาเลือกก็เลือกคนที่รัก เลือกพรรคที่ชอบ

รทสช.ย้ำมี สส. 2 ระบบดีอยู่แล้ว

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า การมี สส.ทั้ง 2 ระบบ เป็นสิ่งที่ดีที่สุดอยู่แล้ว และเป็นระบบที่อยู่กับการเมืองไทยมานาน ถือว่าเป็นพัฒนาการทางการเมือง สส.บัญชีรายชื่อมีข้อดีในการทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ แก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนในภาพรวมเชิงนโยบาย โดยไม่จำเป็นต้องลงพื้นที่หนักในเชิงลึก แต่ทำพื้นที่ในภาพกว้าง ส่วน สส.แบ่งเขต มีข้อดีอีกอย่างหนึ่ง มีความใกล้ชิดเข้าถึงพี่น้อง ประชาชน นำปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่มาสะท้อนให้ฝ่ายบริหารเร่งแก้ปัญหา นอกจากทำหน้าที่นิติบัญญัติ การมี สส.ทั้ง 2 ระบบสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว ไม่เห็นด้วยที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เหลือระบบเดียว ทั้งนี้ พรรค รทสช.พร้อมที่จะสู้กับทุกกติกาที่รัฐธรรมนูญกำหนด ภายใต้การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม การมีข่าวออกมาลักษณะนี้ส่งผลกระทบกับพรรคการเมืองที่มีอยู่ เพราะเป็นข่าวที่ไม่มีมูลเหตุ ขณะนี้ไม่ได้อยู่ในช่วงที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื่องจากกำลังทำกฎหมายประชามติอยู่ในวาระ 2 ทำให้เกิดความสับสนทางการเมือง และยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ขอให้ทุกฝ่ายหยุดสร้างประเด็น ช่วยกันทำให้การเมืองนิ่งให้รัฐบาลได้เดินหน้าแก้ปัญหาความเดือดร้อนเศรษฐกิจปากท้องให้กับประชาชน

“ท็อป” ยันพรรคร่วมไม่เคยเสนอ

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า สอบถามกับนายนิกร จำนง ผอ.พรรค ชทพ. เลขานุการคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติเพื่อแก้ความเห็นต่างในรัฐธรรมนูญ 60 ยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้เสนอ เพราะในที่ประชุมไม่เคยมีการพูดถึง ที่สำคัญมีหรือไม่มีสิทธิตัดสินใจขึ้นอยู่กับสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่จะจัดตั้งขึ้นมา ดังนั้น เมื่อฝั่งรัฐบาลไม่ได้พูดในประเด็นนี้ ต้องดูต่อไปว่าใครจะเป็นผู้เสนอประเด็นนี้ เราผ่านมาหลายบริบทไม่ว่าจะเป็นแบบใดก็น้อมรับ

“ทักษิณ” โผล่เป็นวิทยากรเพื่อไทย

ช่วงเย็นที่พรรคเพื่อไทยมีการจัดคลาสเรียน “เพื่อไทยอคาเดมี” (Pheu Thai Party Academy) มี สส.รุ่นใหม่เข้าร่วมจำนวนมาก อาทิ น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ สส.เชียงราย นายธนาธร โล่ห์สุนทร สส.ลำปาง น.ส.ณัฐจิรา อิ่มวิเศษ สส.นครราชสีมา มีวิทยากรพิเศษร่วมบรรยายคือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพรรคพร้อม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท. นายทักษิณได้ให้กำลังใจผู้ร่วมอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 68 วาระแรกที่ผ่านมาด้วย บอกว่าติดตามการอภิปรายของ สส.รุ่นใหม่อยู่ ดูแล้วอภิปรายไปในแนวโน้มที่ดี แต่ขอให้ทุกคนฝึกเพิ่มเติม ขออย่าทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว ให้คอยใฝ่รู้และเรียนรู้อยู่เสมอ หากไม่ติดอะไรแล้วก็พร้อมมาเป็นผู้ช่วยหัวหน้าพรรคและให้คำปรึกษา อะไรที่เกี่ยวกับพรรคจะเข้ามาช่วยดูหากมีโอกาสหรือจังหวะ

“เศรษฐา” ยันซ้ำไร้ปัญหา พปชร.

วันเดียวกัน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกระแสข่าวการปรับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกจากพรรคร่วมรัฐบาลว่า พูดไปหลายเวทีแล้วเรื่องที่มีข่าวความขัดแย้งกันในรัฐบาลไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย ขอให้ดูกันต่อไป ก่อนประชุม ครม.ก็เดินคุยกับรัฐมนตรีพรรค พปชร. คุยกับนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข รองหัวหน้าพรรค พปชร. นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรค พปชร. คุยเรื่องงานอย่างเดียว กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคพปชร. เพิ่งมาคุยกันเรื่องน้ำเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.

มีโอกาสจะไปคารวะ “บิ๊กป้อม”

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะถือโอกาสเดินเข้าบ้านป่าเพื่อสร้างความเข้าใจหรือไม่ นายเศรษฐาตอบอารมณ์ดีว่า “ผมไม่เดินเข้าป่า ผมอยู่ในกรุง ไม่ได้หนีอะไร แต่ถ้าคำว่าเดินเข้าบ้าน หรือเดินป่าผมไม่เดิน ผมรักความสบาย ผมอยู่ในกรุงดีกว่า” เมื่อถามย้ำว่าไม่ได้หมายความว่าให้ไปเดินป่า แต่หมายถึงการไปพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพปชร. นายเศรษฐาตอบว่า “ครับ ถ้ามีโอกาสก็คงจะพบ แต่ผมไม่เคยรู้จักท่าน หากเจอกันในงานต่างๆ หรือท่านมาที่สภาเจอกัน ผมคงไปแสดงความเคารพและอย่างที่เคยบอกท่านเป็นอดีตรองนายกฯมานาน เป็นอดีต ผบ.ทบ. ไม่มีเหตุผลที่จะหลีกเลี่ยงหรือไม่ไปพบท่าน และพรรคของท่านก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาล”

โต้ลั่นไม่มีแก้กฎหมายขายชาติ

นายเศรษฐายังกล่าวถึงการพบปะพูดคุยกับนายมาร์คัส วอลเลนเบิร์ก ประธานกรรมการธนาคาร Skandinaviska Enskilda Banken (SEB) ประเทศสวีเดน ถูกตั้งข้อสังเกตอาจพูดคุยถึงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่กริพเพนว่า เคยเจอนายมาร์คัส ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ เพิ่งรู้ว่ากลุ่มบริษัทที่นายมาร์คัสดูแลเป็น 40% ของจีดีพีสวีเดน ทั้งบริษัทอีริคสัน ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคม บริษัทแอสตราเซเนกา บริษัทที่เกี่ยวกับการผลิตเครื่องบินกริพเพน ที่ร่วมทุนระหว่างสวีเดน กับอังกฤษ และบริษัทรถยนต์ อาทิ วอลโว่ พูดคุยหลายเรื่อง รวมถึงเครื่องบินกริพเพนว่าถ้าซื้อ ก็อยากให้มาพัฒนาเทคโนโลยีและอากาศยานที่ไทย ปี 2568 จะเดินทางไปเมืองดาวอสอีก อยากจัดเป็นฟอรัมเล็กๆระหว่างไทยกับสวีเดน พูดคุยกับบริษัทที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆร่วมกัน เมื่อถามถึงการแก้ไขกฎหมายช่วยอสังหาริมทรัพย์ ให้ต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดได้ 75% จาก 49% และเช่าที่ดินได้ 99 ปี ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลก่อนว่าเป็นกฎหมายขายชาติ นายเศรษฐาตอบว่า กระทรวงการคลังเสนอให้ไปศึกษา การเช่าระยะยาวไม่ได้ขายที่ดิน ไม่เกี่ยวกับการขายชาติ

“พัชรวาท” ยันใน พปชร.ยังปกติดี

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประธานที่ปรึกษาพรรค พปชร. กล่าวถึงสถานการณ์ในพรรคว่า ปกติดี ไม่มีอะไร เมื่อถามว่าเสียงยังแน่นกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ ได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. หลังมีกระแสข่าวจะปรับพรรค พปชร.ออกจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาทตอบว่า ไม่ได้เจอ พล.อ.ประวิตรเลย เมื่อถามย้ำว่า สถานการณ์ตอนนี้ในพรรคร่วมรัฐบาลยังดีอยู่ใช่หรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาทตอบว่า “ไม่รู้”

“ธรรมนัส” รอคอนเฟิร์มดินเนอร์

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรค พปชร. กล่าวถึงกรณีพรรคพปชร.จะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงดินเนอร์พรรคร่วมทางรัฐบาลครั้งต่อไปว่า เตรียมสถานที่ไว้แล้ว รอการคอนเฟิร์มจากพรรคร่วมรัฐบาล ต้องพร้อมกันทั้งหมด เนื่องจากอยู่ในช่วงการพิจารณางบฯปี 2568 หลายคนที่เป็นผู้ใหญ่และแกนนำแต่ละพรรคต้องดูเรื่องงบ ประมาณ ตอนนี้เหลือแค่รอทุกพรรคพร้อม เมื่อถามว่าต้องเป็นกาวใจให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ไปร่วมวงด้วยหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า หัวหน้าพรรคมอบหมายมาตลอด ท่านไม่เคยไป ผู้สื่อข่าวได้แซวว่านายกฯบอกว่าไม่เข้าป่าเพราะรักสบาย อยากอยู่ในกรุง ร.อ.ธรรมนัสถึงกลับหัวเราะ พร้อมโบกมือปัดไม่ตอบคำถาม ก่อนจะเดินขึ้นรถไป

ลากตั้งขึงขังสอยนายกฯรอบ 2

วันเดียวกัน นายสมชาย แสวงการ สว. โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ขายคอนโดต่างชาติ 75% ให้เช่าที่ดิน 99 ปี กระตุ้นเศรษฐกิจใคร นโยบายขายชาติหรือเอื้อทุนพวกพ้อง มติ ครม.มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ แก้กฎหมาย 2 ฉบับ พ.ร.บ.ทรัพย์อิงสิทธิ ขยายเช่าเป็น 99 ปี จาก 30 ปี เพิ่มโควตาต่างชาติซื้อคอนโดมิเนียม 75% เป็นนโยบายที่เป็นผลประโยชน์ทับซ้อน เอื้อนายทุนอสังหาริมทรัพย์ มติ ครม.ดังกล่าวน่าจะเข้าข่ายการกระทำขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามรัฐธรรมนูญหลายมาตรา อาทิ มาตรา 185, 186 และอาจผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในหลายมาตราเช่นกัน หากมีผู้ยื่นต่อ ป.ป.ช.ดำเนินคดี และ ป.ป.ช.ชี้มูลว่ามีความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ ต้องดำเนินการฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งการเมืองต่อไป แต่ความผิดเรื่องนี้ สส. สว.สามารถยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐาให้สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 ได้เช่นกัน

“สุทิน” ยันไร้ใบสั่งโละกุนซือ

นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณียกเลิกคำสั่งแต่งตั้งที่ปรึกษา รมว.กลาโหมว่า เป็นการปรับปรุงองค์กร และคณะทำงานให้เป็นปกติ เพราะแรกเริ่มต้องเรียนรู้จึงตั้งทีมที่ปรึกษาจำนวนมาก เมื่อเวลาผ่านไปบางภารกิจเสร็จแล้วอาจหมดความจำเป็น โดยคนที่ยังเห็นว่ามีความจำเป็นจะแต่งตั้งขึ้นมาใหม่ เมื่อถามว่ายกเลิกคำสั่งเพราะมีบางคนเรียกรับผลประโยชน์ และสร้างความเสื่อมเสียใช่หรือไม่ นายสุทินตอบว่า มีบ้าง มีทั้งจริงและไม่จริง ทำให้เกิดความรู้สึกว่าหากแต่งตั้งมากไปดูแลไม่ทั่วถึง เลยเลือกแต่งตั้งพองาม แต่ยังไม่ถึงขั้นเอาผิดทางกฎหมาย เป็นการป้องกันอะไรที่จะเป็นเหตุปรับออกก่อน เมื่อถามว่ามีกระแสนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกมาเตือนเรื่องนี้หรือไม่ นายสุทินตอบว่า ไม่เกี่ยว นายทักษิณไม่เคยให้คำแนะนำ ไม่ได้พบกับนายทักษิณนานแล้ว

ขันนอตทหารหักเงิน-ซื้ออาวุธ

เมื่อถามถึงการออกระเบียบคำสั่งการหักเงินเดือนทหารเกณฑ์ นายสุทินตอบว่า ตอนนี้เป็นช่วงปรับเปลี่ยนระเบียบใหม่ อาจยังมีเรืองที่ค้างคาตามที่เป็นข่าวออกมา ทั้งหักเงินเสื้อรุ่นและแหวนรุ่น หลังจากนี้ไม่มีนโยบายให้ทำแล้ว แต่เข้าใจว่า การหักเงินต้องเป็นความประสงค์ของทหารเอง และขอฝากกองทัพให้ช่วยกวดขันอบรมแนะนำวางแผนการใช้เงินที่ถูกต้องให้เหลือเงินเดือนมากที่สุด เมื่อถามถึงนโยบายจัดซื้อยุทโธปกรณ์แบบแพ็กเกจของเหล่าทัพ นายสุทินตอบว่า พูดคุยนอกรอบกับ ผบ.เหล่าทัพเห็นพ้องต้องกันที่ตั้งคณะทำงานขึ้นมา มี พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา ที่ปรึกษา รมว.กลาโหม เป็นประธานคณะทำงาน ปลัดกระทรวงกลาโหม ผบ.ทหารสูงสุด เป็นคณะทำงาน จะเชิญเหล่าทัพเข้ามาร่วมพูดคุยว่า อะไรทำได้เลย และอะไรต้องแก้ระเบียบให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน

“วรงค์” แฉพิรุธประมูลข้าว 10 ปี

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กหัวเรื่อง “ข้าว 10 ปีคุกรออยู่” ใจความว่า น่าแปลกใจบทสัมภาษณ์ของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ อ้างว่าบริษัทที่ชนะประมูลข้าว 10 ปี เป็นนอมินี ฮั้วประมูลหรือไม่ เพราะมีทุนจดทะเบียนบริษัท 2 ล้านบาท ประชาชนสงสัยว่า บริษัทวีเอท สร้างราคาสูงเกินจริงสร้างภาพให้รัฐบาล ไม่ใช่ฮั้วกดราคา ถ้าบริษัทเสนอราคาตามปกติไม่น่ามีปัญหา ส่วนเป็นนอมินีใครหรือไม่ อาจเป็นบริษัทในเครือของบริษัทใหญ่ก็ได้ ไม่ผิด TOR เพราะปกติแล้ว นอมินีที่กังวลจะเป็นพวกต่างด้าวไม่ใช่เรื่องสินค้าเกษตร ประชาชนต้องตามสถานการณ์ให้ทัน บริษัทผู้ชนะอันดับหนึ่งมาแบบพลิกโผ มีการเต้นของผู้มีอำนาจอยากให้ผู้เสนอราคาอันดับสองได้มากกว่าอันดับหนึ่ง มีอะไรที่ไม่ได้มาตรฐานซุกในกองข้าวกลัวเรื่องแดงหรือไม่ ถ้าโปร่งใสควรประกาศผู้ชนะไปแล้ว แต่ถ้าหาทางพลิกให้ได้เตะถ่วงไปอีก 7 วัน เตือนไว้เลยคุกรออยู่ข้างหน้า

นายกฯเกาะติด 6 ตัวประกันไทย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ แถลงว่าที่ประชุม ครม. อนุมัติงบกลาง 291 ล้านบาท เป็นค่าจ่ายช่วยเหลือและอพยพคนไทย ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล เพิ่มเติมให้กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงแรงงาน ทั้งได้สั่งการให้รายงานเรื่องตัวประกันคนไทยที่เหลืออยู่ 6 คน ให้รายงานความคืบหน้าว่าขั้นตอนต่อไปเป็นอย่างไร รวมถึงการที่เราไปให้คำมั่นกับรัฐบาลฝรั่งเศสว่าสนับสนุนให้มีการหยุดยิง “Olympic Truce” หรือพักรบช่วงโอลิมปิก ตรงนี้เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญอยู่

“ประเสริฐ” ชี้ ครม.ยกระดับโคราช

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงการประชุม ครม.สัญจร จ.นครราชสีมา วันที่ 1-2 ก.ค.ว่า เป็นการรับฟังปัญหาของประชาชน และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้ จ.นครราชสีมา อาทิ เตรียมความพร้อมจัดงานพืชสวนโลกในปี 2572 ที่ต้องยกระดับ จ.นครราชสีมา ให้เป็นศูนย์กลางการขนส่ง ทั้งรถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง และสนามบินเป็นเมืองแห่งศูนย์กลางการประชุมระดับนานาชาติ รวมถึงการจัดงานอีเวนต์ต่างๆ

ออกหมายจับ “เพนกวิน” หนีศาล

ที่ศาลอาญา ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ฟ้องนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำกลุ่มราษฎร เป็นจำเลยตาม ป.อาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีจำเลยโพสต์เฟซบุ๊ก ถือพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมข้อความอันเป็นการหมิ่นประมาทแสดงความอาฆาตมาดร้ายสถาบันฯ การนัดฟังคำพิพากษาวันนี้ จำเลยทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาศาล ทนายจำเลยแถลงว่า ไม่สามารถติดต่อจำเลยได้ และไม่ทราบเหตุขัดข้อง ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า มีพฤติการณ์จงใจหลบหนี ให้ออกหมายจับจำเลยเพื่อมาฟังคำพิพากษาในนัดหน้า ให้เลื่อนไปนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 31ก.ค.

ทิ้งโพสต์ส่อเผ่นลี้ภัยนอกประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับตั้งแต่มีการเคลื่อนไหวเรียกร้องการปฏิรูปสถาบันของกลุ่มเยาวชน ที่เริ่มมาตั้งแต่ม็อบเยาวชนปลดแอก เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2563 มาจนถึงม็อบราษฎร มีแกนนำระดับแถวหน้าตกเป็นผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 จนต้องลี้ภัยออกนอกประเทศไปแล้วหลายคน อาทิ นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี หรือฟอร์ด บัณฑิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ นายภานุมาศ สิงห์พรม หรือเจมส์ บัณฑิต ม.กรุงเทพ 2 ผู้ก่อตั้งกลุ่มเยาวชนปลดแอก น.ส.กัลยมน หรือเจ๊เขียว กิโยติน กลุ่มนาดสินปฏิวัติ น.ส.เบญจมาภรณ์ นิวาส และน.ส.สุพิชฌาย์ ชัยล้อม หรือเมนู อดีตสมาชิกกลุ่มทะลุวัง นายชูเกียรติ แสงวงค์ หรือนุก นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง และนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ บัณฑิตรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ อดีตแกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โดยโพสต์สุดท้ายบนเฟซส่วนตัวของนายพริษฐ์ เมื่อวันที่ 14 พ.ค. มีข้อความว่า “ขอชาติหน้าจงอย่าได้พบเจอเผด็จการอีก”

นายกฯสักการะสมเด็จพระสังฆราช

เมื่อเวลา 09.00 น.ที่พระตำหนักสมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ถนนเฟื่องนคร เขตพระนคร กทม. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อม พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน ภริยา เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ 26 มิ.ย.2567

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่