“จตุพร” ตอก “เศรษฐา เละเทะ” ปมไอเดียเลอะเทอะเสนอขายคอนโด 75% อยู่นาน 99 ปี ซัดกระทบมั่นคงประเทศ ไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่อเป็นอาณานิคมจำแลงย้อนยุค ถามใครได้ประโยชน์ ฟาดแก้เลือกตั้งเป็นบัตรใบเดียว 500 สส.หวังเอาเปรียบ
เมื่อ 23 มิ.ย. 2567 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ บริหารประเทศยิ่งเละเทะ และยังเลอะเทอะ เสนอไอเดียผุดสร้างอาณานิคมจำแลงย้อนยุคให้ต่างชาติมาอยู่อาศัยได้นาน 99 ปี แล้วขยายสิทธิ์ซื้อคอนโดมิเนียมจำนวนมากถึง 75%
อีกทั้งตำหนิว่า นายเศรษฐา ต้องคิดถึงอดีตอย่างช้าๆ คิดถึงอาชีพดั้งเดิมก่อนมาเป็นนายกฯ ว่า มาจากไหน เมื่อมาจากวงการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ ดังนั้น การอธิบายขยายให้ต่างชาติอยู่อาศัยจาก 30 ปี เป็น 99 ปี อีกทั้งเพิ่มจำนวนซื้อคอนโดจาก 49% เป็น 75% เพิ่มขึ้นถึง 26% แล้วบอกว่า ไม่ได้ขายขาด โดยต่างชาติมาแค่อาศัยอยู่ ไม่มีสิทธิ์เป็นนิติบุคคลคอนโด อย่างไรก็ตาม คนที่อยู่อาศัยในคอนโดมีน้อยคนมากที่เป็นผู้บริหารนิติบุคคล
"ให้มาเช่าซื้อถือครอง 99 ปีนั้น หากไปถามคนจีนให้อังกฤษเช่าฮ่องกงอยู่ 99 ปี มันนานขนาดไหน อีกอย่างนายกฯ เป็นคนอสังหาฯ แม้เป็นคนสุจริตมากมาย มีประวัติสวยงามกับการประกอบอาชีพอสังหาฯ แต่ความเป็นนายกฯ แล้ว เรื่องนี้ตัวเองต้องไม่กล้าอธิบายอะไรและต้องไม่นำเสนอออกมาเลย จะถูกติเตียนได้ เพราะเป็นเรื่องไม่สมควรกระทำ"
พร้อมถามว่า การเช่าซื้อคอนโดนาน 99 ปี ใครได้ประโยชน์สูงสุด ส่วนประเทศได้ประโยชน์เล็กน้อยมาก แล้วนายกฯ ตอนนี้อายุ 61 ปี ถ้าบวกอีก 99 ปี จะอยู่ถึงจนอายุ 160 ปี เพื่อรอดูความฉิบหายให้ประเทศหรือไม่ ดังนั้น การให้ต่างชาติอยู่อาศัย 99 ปี และเพิ่มการถือครองคอนโดจาก 30% เป็น 75% จึงเป็นปัญหาความมั่นคงที่กระทบกับคนไทยในระยะยาว
...
"บริษัทที่นายกฯ เคยทำงานบริหารอสังหาฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และไม่ได้ผลประโยชน์เลยใช่หรือไม่ ดังนั้น นายกฯ ต้องประกาศยกเว้นมาก่อนว่า บริษัทในเครือแสนสิริ ไม่ได้ประโยชน์กับเรื่องนี้ และไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย"
อีกทั้งกรณีต่างชาติใช้นอมินีซื้อบ้านและที่ดินที่หมู่บ้านหรูซอยลาซาล ซึ่งผิดกฎหมายถึงขณะนี้เรื่องเงียบ ดังนั้น เมื่อของเดิมควบคุมจัดการไม่ได้แล้ว ยังเสนอให้เพิ่มเวลาอยู่อาศัยนานเป็น 99 ปี และขยายสิทธิให้อีกเป็น 75% ของจำนวนคอนโด ดังนั้น คนไทยส่อแววจะพินาศทางเศรษฐกิจ เพราะคนต่างชาติถ้ามาอาศัยเป็นระบบจำนวนมากย่อมทำให้เกิดอาณานิคมย่อยๆ ขึ้นในพื้นดินไทย
"วันนี้คุณเป็นอะไร ทำเพื่ออะไร แล้วหลักคิดนี้ใครได้ประโยชน์ แรงงานต่างชาติเข้ามาแย่งงานคนไทย ดังนั้น จึงไม่ใช่การกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ทำให้ความมั่นคงเกิดความเสียหาย แต่คนไม่กี่บริษัทเท่านั้นที่ได้ประโยชน์ อีกอย่างปัญหามีว่า เมื่อลงทุนคอนโดแล้วขายไม่ได้ ทำไมลากประเทศไปรับผิดชอบคุณถึงขนาดนั้น"
นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อเป็นผู้ปกครองแล้ว ต้องดูรายละเอียดของประเทศให้รอบคอบ เพราะขณะนี้การถือครองที่ดินและอสังหาฯ ของต่างชาติอยู่ภายใต้นอมินี เมื่อยังจัดการปัญหาเลี่ยงกฎหมายไม่ได้ กลับมาขยายการอยู่อาศัยให้นานปีขึ้นและเพิ่มจำนวนการซื้อให้อีกถึง 75% ดังนั้น นายกฯ อาชีพเดิมนักธุรกิจอสังหาฯ ย่อมถูกสังคมตำหนิติเตียน
ส่วนการจะแก้ รธน.แบ่งเขตเลือกตั้งใหม่นั้น นายจตุพร กล่าวว่า ความเอาเปรียบจากการเลือกตั้งมีทุกยุคสมัย เมื่อพรรคเพื่อไทยส่อแนวโน้มเสนอเลือกตั้งแบบเขตอย่างเดียว 500 คน ไม่มี สส.บัญชีรายชื่อ โดยหวังว่า จะได้ สส.เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นตรงข้าม เพราะพรรคก้าวไกลจะกวาดเสียง สส.เขตมากขึ้นอีกด้วย
สิ่งสำคัญเพื่อไทยคิดจะแก้ไข รธน.อีกเพื่อเอาเปรียบการเลือกตั้ง คงก่อความหมั่นไส้ให้พรรคอื่น เพราะแต่เดิมเสนอให้แก้ รธน.มาแล้วจากบัตรเลือกตั้งใบเดียวเป็น 2 ใบ ก็หวังจะเอาเปรียบได้ สส.มากขึ้น แต่แพ้พรรคก้าวไกลยับเยินมาแล้ว
"เมื่อถามนายกฯ กลับบอกเลอะเทอะ แล้ววันนี้ใครบ้างไม่เลอะเทอะ บริหารมาก็เละเทะ หาเสียงก็เลอะเทอะ ตั้งรัฐบาลยังเลอะเทอะอีก แล้วมาเพิ่มการอยู่อาศัยของต่างชาติจากเดิม 30 ปีเป็น 99 ปีก็เลอะเทอะ อยากตั้งบ่อนกาสิโนก็ไม่เลอะเทอะเหรอ มันก็เลอะเทอะทั้งนั้น"
นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้บ้านเมืองรอคอยประชาชนให้รู้ถึงความเสียหายที่กำลังจะเกิดขึ้นกับประเทศและแผ่นดินไทย ซึ่งนับวันมีแต่จะขยายเพิ่มมากขึ้นไปอีก ก่อนหน้านี้เพื่อไทยโหมชงดิจิทัลวอลเล็ต 5 แสนล้าน เร่ขายที่ดินในโครงการแลนด์บริดจ์ให้ครอบครอง 99 ปี รวมทั้งรัฐบาลยังโฆษณากล่อมสังคมให้ตั้งบ่อนกาสิโน แล้ววันนี้มาขยายสิทธิ์เช่าซื้อคอนโดจาก 30 ปีเป็น 100 ปี ลดหนึ่งปีเหลือ 99 ปี พร้อมเพิ่มเพดานถือครองจาก 49% เป็น 75% ดังนั้น บรรดาการเสนอของรัฐบาลเพื่อไทยส่อแนวโน้มจะเกิดความเสียหายทั้งสิ้น
อีกทั้งกล่าวว่า คนไทยเสียทุกอย่างทั้งพลังงาน เศรษฐกิจที่ยกให้ต่างชาติมาครอบครอง ทำเหมือนรัฐบาลบริหารประเทศแบบพระเวสสันดร ทั้งที่คนในชาติเป็นแค่ชูชก ประเทศจึงไม่ได้อะไรเลย ดังนั้นถ้าประชาชนไม่ตื่นตัวที่เร็วประเทศยิ่งเสียหายมากขึ้น แล้วปล่อยให้เนิ่นนานไปยิ่งจัดการยากขึ้น เมื่อผลประโยชน์ถูกประมูลซื้อขายกันด้วยอำนาจ ประเทศย่อมมีแต่ความเสียหาย เราจึงหวังถึงความตื่นตัวของประชาชนได้ลุกขึ้นมาถ่วงดุล