“สส.ฐากร ตัณฑสิทธิ์” ชี้ รัฐบาล จัดงบฯ อยู่บน 3 ความเสี่ยง ซิกแซกไต่เส้นลวด แม้จัดเก็บรายได้พลาดเป้า จัดงบประมาณแบบซิกแซกสอดไส้ และขัด พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังปี 61 จี้ ดีอี จัดการจริงจังแก๊งคอลเซ็นเตอร์


วันที่ 19 มิ.ย. 2567 เมื่อเวลา 13.05 น. ที่อาคารรัฐสภา นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย อภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ว่า เป็นการจัดงบประมาณ อยู่บน 3 ความเสี่ยง ซิกแซกไต่เส้นลวด ประกอบด้วยแนวโน้มเก็บรายได้ไม่เข้าเป้าตามที่คาดการณ์ไว้ โดยมีสัญญาณอันตรายที่บ่งบอก ดังนี้ คือ

1. การจัดเก็บรายได้พลาดเป้า โดยเฉพาะกระทรวงการคลังที่ออกมาชี้ว่ารายได้ 7 เดือน พลาดเป้าเกือบ 40,000 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 2.7% ขณะที่สภาพัฒน์ หั่น GDP ไทยเหลือเพียง 2-3 เปอร์เซ็นต์ หลังไตรมาส 1 ขยายตัวแค่ 1.5% เท่านั้น และในรอบปีที่ผ่านมาโรงงานในไทยปิดตัวแล้วกว่า 1,700 แห่ง เปิดใหม่ลดเหลือแค่เดือนละ 50 ทำให้ภาคธุรกิจและผู้ประกอบการอยู่บนความเสี่ยง กระทบถึงกำลังซื้อที่หดหายพี่น้องประชาชนแบกภาระค่าใช้จ่าย เนื่องจากต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นร้านค้ารายย่อยร้านค้าต่างจังหวัดทยอยปิดตัว 

2. ความเสี่ยงที่ 2 พบว่าการจัดงบประมาณแบบซิกแซก โดยจัดงบกลางปี 2568 รวมกว่า 8 แสนล้านบาท โดยจัดงบซ่อนในมาตราที่ 6 (5) เป็นงบค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ กว่า 1.52 แสนล้านบาท รวมกับการกู้ผ่านการทำงบรายจ่ายเพิ่มเติมปี 2567 อีก 1.12 แสนล้านบาท รัฐบาลจะกู้รวมถึงกว่า 2.64 แสนล้านบาท จึงมีความสุ่มเสี่ยงอย่างยิ่งที่จะขัดต่อพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 มาตรา 53 ที่ระบุไว้ว่าการกู้เงินของรัฐ ทำได้เฉพาะกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนและต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติของประเทศ จึงทำให้เกิดความสุ่มเสี่ยง

...

3. เสี่ยงไต่เส้นลวด ส่อขัด พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ 2561 มาตรา 9 ที่ระบุไว้ว่า คณะรัฐมนตรีต้องไม่บริหารราชการแผ่นดินโดยมุ่งสร้างความนิยมทางการเมืองที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและประชาชนระยะยาว และมาตรา 10 (8) ที่ระบุถึงผลการดำเนินงานและการใช้จ่ายงบประมาณของปีงบประมาณที่ล่วงมาแล้ว ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่เห็นรัฐบาลได้นำเสนอเข้ามาให้สภาฯ พิจารณา

สส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยสร้างไทย ยังอภิปรายถึงการจัดสรรงบประมาณให้กับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ว่า ปี 2568 เสนอตั้งงบประมาณ 9,887.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 1,232.2 ล้านบาท หรือ 14.23% โดยกรมอุตุนิยมวิทยา เสนอตั้งงบประมาณ 1,908.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82.1 ล้านบาท จึงขอทวงถามถึงผลการทำงานโดยเฉพาะ 18 โครงการที่จัดซื้อจัดจ้างใหม่ปี 2567 ผลการดำเนินงานเป็นอย่างไรบ้าง 

นอกจากนี้ พี่น้องประชาชนยังต้องเผชิญชะตากรรม กับภัยออนไลน์มหันตภัยร้ายของสังคมไทย จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แต่พบว่ามีผู้ถูกหลอก ผ่านทางออนไลน์ทั้งรูปแบบของการร่วมลงทุน การถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก สร้างความเสียหายและความสูญเสียมหาศาล ไม่ต่ำกว่า 6.2 หมื่นล้านบาท 

และในส่วนของกระทรวงคมนาคม ปี 2568 ตั้งงบประมาณ 1.93 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.03 หมื่นล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นงบที่จัดสรรเพื่อการบำรุงรักษาเส้นทางและสะพาน รวมกว่า 5.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นงบมหาศาล จึงต้องร่วมกันตรวจสอบอย่างเข้มข้นเพื่อให้การใช้งบประมาณที่เป็นภาษีของประชาชน ไม่รั่วไหลและมีประสิทธิภาพสูงสุด