"พัชรวาท" นั่งหัวโต๊ะถกผู้บริหารกระทรวง มอบ 5 ข้อ แก้ปัญหาประชาชน สั่งเร่งรัดเบิกจ่ายงบฯ ปี 67 หวังกระจายเม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจ พร้อมให้จัดเตรียมข้อมูลชี้แจงงบฯ 68 วาระแรก กำชับรับมืออุทกภัย อุปกรณ์-กำลังพลต้องพร้อมเข้าช่วยชาวบ้านในสถานการณ์วิกฤติ ชี้เป้า คพ.จับตาร้านซักอบแห้ง ปล่อยน้ำทิ้งสู่แม่น้ำ
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.67 พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมผู้บริหารกระทรวง โดยมีผู้บริหารและอธิบดีเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ในการประชุมดังกล่าว ที่ประชุมได้รับทราบผลการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2567 ซึ่ง พล.ต.อ.พัชรวาท ขอให้ทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะหน่วยงานที่มีผลการเบิกจ่ายต่ำกว่าเป้าหมายค่อนข้างมาก เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้ได้ตามเป้าหมาย ที่กำหนดต่อไป ทั้งนี้ ให้อธิบดีทุกกรมกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน และขอให้ทุกหน่วยงานจัดเตรียมข้อมูล เพื่อประกอบการชี้แจงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 วาระที่ 1 อีกทั้งได้กำชับการจัดกิจกรรมโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ให้เป็นไปอย่างสมพระเกียรติ มอบหมายปลัดกระทรวงและคณะทำงานหารือในการทำกิจกรรมให้เรียบร้อย
ขณะเดียวกัน ขอให้เตรียมการรองรับสถานการณ์อุทกภัย โดยให้กรมทรัพยากรน้ำ และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล จัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือให้พร้อม เพื่อการช่วยเหลือประชาชน ประสานงานผู้ว่าราชการจังหวัด และศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยของจังหวัด (ปภ.) ให้กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จัดเตรียมกำลังพลเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชน และช่วยเหลือในสถานการณ์วิกฤติ ส่วนกรมควบคุมมลพิษให้ความรู้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ เพื่อป้องกันปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อม ที่อาจเกิดขึ้นจากอุทกภัย
...
ทั้งนี้ ในช่วงท้ายการประชุม พล.ต.อ.พัชรวาท ได้มอบข้อสั่งการ 5 ข้อ 1. การเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2567 เพื่อกระจายเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจ ทำให้ประชาชนมีการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น 2. กรณีเกิดอุทกภัยที่ส่งผลกระทบต่อหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ ให้ต้นสังกัดพิจารณาให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นอย่างเร่งด่วน มอบหมายผู้ตรวจราชการกระทรวง ติดตามการดำเนินงานกรณีหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ประสบปัญหาอุทกภัย พร้อมทั้งรายงานให้ทราบด้วย
3. การแก้ไขปัญหาสัตว์ป่ารบกวนชาวบ้าน ให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาลิงและช้างป่า ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน โดยดำเนินการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและจังหวัด ให้จัดชุดเฝ้าระวังและเคลื่อนที่เร็วไปยังจุดที่เกิดเหตุ หรือตามที่ชาวบ้านร้องขอ และเมื่อเกิดปัญหาให้เจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้าหน่วยลงพื้นที่ เพื่อสร้างความเข้าใจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน 4. การแก้ไขปัญหามลพิษให้กรมควบคุมมลพิษพิจารณาการกำหนดมาตรฐาน มาตรการของแหล่งกำเนิดมลพิษให้ครอบคลุมกับธุรกิจที่เกิดขึ้นใหม่ในปัจจุบัน เช่น ร้านซักอบแห้ง 24 ชั่วโมง ซึ่งมีการปล่อยน้ำทิ้งสู่แหล่งน้ำตามธรรมชาติ และอาจจะส่งผลให้เกิดปัญหามลพิษตามมา ให้ความสำคัญกับการจัดหาเครื่องมือ ในการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ทันสมัย สามารถแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งให้ประสานการบังคับใช้มาตรการ กฎหมายของหน่วยงานที่รับผิดชอบให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และ 5. กรณีเกิดเหตุการณ์ สถานการณ์เร่งด่วนฉุกเฉิน ให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดทุกจังหวัด รายงานมาที่กระทรวงฯ รายงานตรงมาที่หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรีอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ ให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญและเอาใจใส่ กับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่