นายกฯ ติดตาม จัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค-ซ่อมแซมประดับตกแต่งเรือพระที่นั่ง ชื่นชม แผนต่อยอดท่องเที่ยว แนะนำเก็บภาพเบื้องหลังโปรโมต ดูแลความปลอดภัยทุกด้าน ก่อนให้กำลังใจกำลังพลฝีพาย

เมื่อเวลา 10.40 น.วันที่ 13 มิ.ย. ที่กองบังคับการ กองเรือเล็ก กรมการขนส่งทหารเรือ เขตบางกอกน้อย กทม. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตรวจติดตามความก้าวหน้าการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค และความก้าวหน้าในการประดับตกแต่งเรือพระที่นั่ง โดยมีนายจักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร. นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร และคณะ ร่วมตรวจติดตามความก้าวหน้า

...

โดยนายกฯรับฟังบรรยายสรุปความก้าวหน้าในการเตรียมความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค จากคณะกรรมการจัดเตรียมความพร้อมขบวนเรือพระราชพิธี (กองทัพเรือ) และรับฟังบรรยายสรุปความก้าวหน้าในการประดับตกแต่งเรือพระที่นั่ง จากผู้บริหารกรมศิลปากร

ขณะที่นายกฯ กล่าวภายหลังรับฟังบรรยายสรุปว่า ขอให้เพิ่มในเรื่องความปลอดภัยทุกด้านด้วย เพราะความปลอดภัยเรียกว่าเป็นปัจจัยพื้นฐาน ในฐานะที่ตนมาจากภาคเอกชนในอดีต ได้ดูพระราชพิธีอันสมพระเกียรตินี้มาโดยตลอด และรู้สึกภาคภูมิใจ เห็นถึงความสวยงามอลังการ ถือเป็นเรื่องที่ดีงามอย่างยิ่ง ขอขอบคุณอธิบดีกรมศิลปากรด้วย ที่พยายามตอบรับให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในเรื่องของการท่องเที่ยว และที่บอกว่ามีนักท่องเที่ยวที่มาดูส่วนมากเป็นนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ถือว่าสอดคล้องกันนโยบายของรัฐบาล และมีการขยายเวลาในการทำเหล่านี้ ก็อยากจะขอให้ทีมงานของตนที่อยู่ที่นี่หลายท่านไปประสานกับทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาด้วย และให้ช่วยทำให้บรรจุเข้าไปในตารางการโปรโมตเรื่องเหล่านี้

นายกฯ กล่าวตอนท้ายว่า หากมีการเก็บภาพระหว่างที่ดำเนินการพัฒนาเรื่องเหล่านี้ ซึ่งเป็นเบื้องหลังที่เราซ่อมแซมหรือการจัดงานใหญ่ในครั้งนี้เอาไปประกอบกับในวันงาน จะดูยิ่งใหญ่อลังการมาก เหมาะสมที่จะเก็บภาพไว้ใช้โปรโมตเรื่องการท่องเที่ยว ซึ่งประเทศไทยมีประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม ยืนยันไม่มีชาติใดในโลกนี้มี จึงฝากสำนักนายกรัฐมนตรีช่วยบริหารจัดการ ตรงนี้ ดูแลความเรียบร้อย และจัดงานครั้งนี้อย่างสมเกียรติ

ทั้งนี้ ภายหลังจากที่นายกฯ รับฟังบรรยายฯ ได้รับมอบกระเช้าและหมวกประดับตราพระราชพิธีฯ สีน้ำเงินเข้ม จากกองทัพเรือ และรับมอบรูปพระพิฆเนศ จากกรมศิลปากร เป็นของที่ระลึก

จากนั้น นายกฯ ไปตรวจติดตามการซ่อมแซมการประดับตกแต่งเรือพระที่นั่ง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี และได้ประดับทองคำเปลวบนบุษบกที่ตั้งอยู่บนเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช พร้อมพูดคุยให้กำลังใจ และชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันทำงาน รวมทั้งสอบถามเรื่องงบประมาณว่ามีเพียงพอหรือไม่ พร้อมฝากคำแนะนำถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เพิ่มความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว

ต่อจากนั้น นายกฯ ได้ไปบ่อพักเรือ แผนกเรือราชพิธี เพื่อตรวจเยี่ยมการฝึกซ้อมกำลังพลฝีพาย และชมการสาธิตการพายประกอบการเห่เรือพระราชพิธี จากกำลังพลฝีพาย 867 นาย พร้อมกล่าวโอวาทให้กำลังใจกำลังพลฝีพายว่า ยินดีที่ได้มาพบกับกำลังพลทุกคนในวันนี้ พระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ด้วยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคมีความสำคัญ และหน้าที่ที่ทุกท่านได้รับผิดชอบเป็นการร่วมแสดงความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอให้กำลังพลทุกคนภาคภูมิใจ และตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้การจัดพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ด้วยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เป็นไปอย่างสมพระเกียรติสูงสุด

ทั้งนี้ การจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ใช้เรือพระราชพิธี จำนวนทั้งสิ้น 52 ลำ จัดขบวนเป็น 5 ริ้ว ความยาว 1,200 เมตร กว้าง 90 เมตร โดยใช้กำลังพลประจำเรือในขบวนเรือพระราชพิธี รวมทั้งสิ้น 2,200 นาย และงานพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร กำหนดจัดให้มีขึ้นในวันที่ 27 ตุลาคม 2567