กกต. ตั้งโต๊ะแถลง ชี้แจงประเด็นยื่นยุบพรรคก้าวไกล หลักฐานชัดไม่ต้องไต่สวนก่อนยื่น ยกคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญชี้ล้มล้างการปกครอง เผย หากไม่ทำก็จะมีความผิด ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ยัน เป็นมาตรฐานเดียวกับพรรคไทยรักษาชาติ

วันที่ 13 มิถุนายน 2567 นายปกรณ์ มหรรณพ กรรมการการเลือกตั้ง แถลงที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ชี้แจงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกล เนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อ 31 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ระบุชัดเจนว่า การกระทำของพรรคก้าวไกล เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพล้มล้างการปกครองฯ ซึ่ง กกต. ไม่สามารถทำอย่างอื่นได้ เพราะตามกฎหมายชี้ว่าหากมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองกระทำการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) ดังนั้น เมื่อความปรากฏต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง จะต้องส่งศาลตามที่คำวินิจฉัยนั้น ผูกพันกับ กกต. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 211 (4) หากไม่ทำ กกต. ก็จะมีความผิดในการละเลยปฏิบัติหน้าที่ 

อีกทั้งการร้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) ไม่เกี่ยวข้องกับมาตรา 93 กกต. จึงไม่ต้องไต่สวนผู้ถูกร้อง เพราะมีหลักฐานควรเชื่อได้ว่ากระทำผิด ถือเป็นมาตรฐานเดียวกับพรรคไทยรักษาชาติ แม้ว่าพรรคก้าวไกลจะแย้งว่าอยู่คนละกรณีกัน แต่ตนยืนยันว่าตามมาตรา 92 อยู่ในขั้นตอนของ กกต. และไม่มีส่วนเกี่ยวพันกับมาตรา 93 ที่จะต้องนำขึ้นมาประกอบ

...

นายปกรณ์ กล่าวต่อไปถึงเรื่องที่มีผู้ถามมาหลากหลายครั้งว่า กกต. เห็นด้วยกับการยุบพรรคการเมืองหรือไม่ ว่า ตนไม่สามารถตอบได้ เพราะอยู่ในฐานะผู้ปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ถ้ากฎหมายไม่มีบัญญัติให้ยุบพรรค กกต. ก็คงไม่กล้าคิดเหมือนกัน 

ส่วนการแถลงของ นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ระบุ จะยื่นหลักฐานคำสัมภาษณ์ของ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ที่ยอมรับว่ามีการกระทำข้ามขั้นตอนในกระบวนการสั่งพรรคก้าวไกลนั้น นายปกรณ์ มองว่า จะต้องดูที่คำสัมภาษณ์ทั้งหมด ไม่ใช่เพียงการตัดช่วงตอนออกมาเท่านั้น 

สำหรับประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้ กกต. ยื่นบัญชีพยานหลักฐานเพื่อพิจารณาคดีเพิ่มเติมนั้น นายปกรณ์ กล่าวตอบว่า ตอนนี้ทราบคร่าวๆ และกำลังติดต่อขอหนังสือว่าศาลต้องการอะไรเพิ่มเติม ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะเป็นบุคคลหรือไม่อย่างไร ส่วนจะมีประธาน กกต. ไปเป็นพยานหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับศาล.