รัฐบาลห่วงใยความปลอดภัยของเด็กนักเรียน เข้มงวดรถรับจ้างรับ-ส่ง ทุกคันต้องผ่านมาตรฐาน ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก และผ่านการรับรองจากโรงเรียน ย้ำ ต้องมีเครื่องมือจำเป็นสำหรับช่วยเหลือนักเรียนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

วันที่ 6 มิถุนายน 2567 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงนี้อยู่ระหว่างโรงเรียนเปิดเทอม ประกอบกับมีฝนตกทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย และมีข่าวปรากฏบนโลกโซเชียลบ่อยครั้งเกี่ยวกับการเกิดอุบัติเหตุของรถโรงเรียน รัฐบาลห่วงใยเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางของเด็กและนักเรียน

ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบก กำชับและสั่งการให้สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศไทย ตรวจสอบความปลอดภัยและการให้บริการของรถโรงเรียนและรถที่รับจ้างรับส่งนักเรียนในพื้นที่รับผิดชอบทั่วประเทศอย่างใกล้ชิด ทั้งด้านมาตรฐานความปลอดภัยของตัวรถ และพนักงานขับรถต้องนึกถึงความปลอดภัยของเด็กนักเรียนทุกคนที่โดยสารมากับรถ และตัวรถที่ใช้รับ-ส่งนักเรียนต้องมีสภาพที่แข็งแรง ต้องชำระภาษีรถประจำปีอย่างถูกต้อง พร้อมที่จะให้บริการได้อย่างปลอดภัย สำหรับการนำรถยนต์ส่วนบุคคลทั้งในลักษณะรถสองแถวและรถตู้มาใช้รับส่งนักเรียน กรมการขนส่งทางบกกำหนดให้ต้องผ่านการรับรองจากโรงเรียนหรือสถานศึกษา และต้องขออนุญาตใช้รถให้ถูกต้อง นำรถเข้าตรวจสภาพ ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดที่โรงเรียนหรือสถานศึกษาตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ 

นายคารม กล่าวต่อไปว่า เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยที่ทางราชการกำหนด ซึ่งจะได้รับอนุญาตครั้งละ 1 ภาคการศึกษาเท่านั้น (ไม่เกินวันปิดเทอมของแต่ละภาคการศึกษา) ภายในรถต้องมีเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับช่วยเหลือนักเรียนเมื่อมีอุบัติเหตุ เช่น ถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจก ที่นั่งผู้โดยสารต้องยึดแน่น มั่นคงแข็งแรง กรณีเป็นรถสองแถวหากมีทางขึ้นลงอยู่ด้านท้าย ต้องปรับปรุงตัวรถให้มีประตูและที่กั้นป้องกันนักเรียนตกหล่นจากรถ ส่วนรถตู้ต้องจัดวางที่นั่งเป็นแถวตอนตามความกว้างของตัวรถเท่านั้น ห้ามดัดแปลงสภาพรถ ห้ามเพิ่มเบาะที่นั่งหรือการต่อเติมกระบะท้ายเพื่อให้รับนักเรียนได้มากเกินจำนวนบรรทุกที่ปลอดภัย ต้องมีป้ายสีส้มสะท้อนแสง มีข้อความ “รถโรงเรียน” ให้เห็นชัดเจน พร้อมติดไฟสัญญาณสีเหลืองไว้ที่ด้านหน้าและด้านท้ายของตัวรถ หากพบการฝ่าฝืน จะพิจารณาสั่งเพิกถอนหนังสืออนุญาตให้ใช้รถทันที และไม่สามารถขออนุญาตได้อีกจนกว่าจะพ้น 1 ปีไปแล้ว.

...