นายกรัฐมนตรี พร้อมภริยา นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2567
เมื่อเวลา 20.05 น. วันที่ 3 มิถุนายน 2567 ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และแพทย์หญิงพักตร์พิไล ทวีสิน ภริยา เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2567 โดยมี ประธานรัฐสภา (รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 เป็นผู้แทน) ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและภริยาเดินทางถึงมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ ทำวันทยหัตถ์ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ต่อมานายกรัฐมนตรีกล่าวกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล และกล่าวนำถวายพระพรชัยมงคลหน้าพระฉายาลักษณ์ ความว่า
...
ขอพระราชทานกราบบังคมทูล พระกรุณาทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ข้าพระพุทธเจ้า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าทั้งที่ได้มาพร้อมกันอยู่ ณ บริเวณมณฑลพิธีแห่งนี้ และที่อยู่ในสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ตลอดจนทั่วโลก มีความปลาบปลื้มปีติเป็นล้นพ้นที่ได้มาร่วมแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณโดยพร้อมเพรียงกัน
เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทที่เวียนมาบรรจบครบรอบอีกวาระหนึ่งในวันนี้ ปวงข้าพระพุทธเจ้าต่างประจักษ์แจ้งในพระราชจริยวัตรอันงดงามและพระราชวิริยอุตสาหะของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ในการบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการเคียงข้างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่ออำนวยสุขสวัสดิ์แก่อาณาประชาราษฎร์ และความวัฒนาสถาพรของประเทศชาติ ทรงตั้งพระราชหฤทัยมั่นที่จะทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดการพัฒนาบทบาทของสตรี ตลอดถึงการอนุรักษ์หัตถศิลปกรรมท้องถิ่นไทย ซึ่งเป็นแนวทางการดำเนินการของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อย่างต่อเนื่อง บังเกิดผลเป็นที่ชื่นใจ และประโยชน์สุขของราษฎรทั้งมวล น้ำพระราชหฤทัยและพระราชจริยวัตรที่แสนประเสริฐงดงามนี้ เป็นเหตุให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทสถิตอยู่ในที่สมเด็จพระบรมราชินีของแผ่นดิน และเป็นศูนย์รวมความจงรักภักดีของพสกนิกร สมควรแก่พระราชอิสริยยศที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทุกประการ
ในศุภวาระอันเป็นมงคลยิ่งนี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระราชานุญาตนำพสกนิกรทั้งหลายถวายพระพรชัยมงคล ดังต่อไปนี้
“ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคล ด้วยความจงรักภักดี ขออัญเชิญคุณพระศรีรัตนตรัย และอำนาจแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล โปรดอภิบาลบันดาลดลให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงพระเจริญพร้อมจตุรพิธพรชัย พระเกียรติคุณเกริกไกรแผ่ไพศาล ทรงพระเกษมสำราญ สถิตเป็นมิ่งขวัญร่มเกล้าของปวงข้าพระพุทธเจ้าและเหล่าพสกนิกรตราบกาลนาน เทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม”
จากนั้น ดนตรีบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี นายกรัฐมนตรีและภริยารับมอบโคมเทียน และร่วมร้องเพลงสดุดีจอมราชา 2 จบ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวนำคำว่า “ทรงพระเจริญ” 3 ครั้ง จึงเสร็จพิธี.
(ภาพ : เอกลักษณ์ ไม่น้อย)