รัฐบาลประกาศจะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีสาธารณสุข เปิดรับฟังความคิดเห็นฝ่ายต่างๆก่อนที่เสนอเป็นกฎหมาย เพื่อนำกัญชากลับเป็นยาเสพติดอีกครั้ง หลังจากที่ปล่อยให้เป็นสุญญากาศ รัฐบาลปลดล็อกกัญชาตั้งแต่มิถุนายน 2565 เป็นกัญชาเสรีเพราะไม่มีกฎหมายควบคุม

แต่น่าสังเกตองค์กรที่กระทรวงสาธารณสุขเชิญ เพื่อรับฟังความคิดเห็นล้วนแต่เป็นฝ่ายที่สนับสนุนให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด เช่น สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย สมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย เป็นต้น นายสมศักดิ์แถลงว่า จะไม่เชิญกลุ่มผู้เห็นต่าง เว้นแต่กลุ่มเห็นต่างเชิญไปรับฟังความเห็น

ไม่ทราบว่าจะผิดกติกาการออกกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องสำคัญ และมีผลกระทบต่อประเทศหรือไม่ เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 77 บัญญัติว่า ก่อนตรากฎหมายรัฐพึงจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้อง ไม่ทราบว่ากระทรวงสาธารณสุข รับฟังความเห็นของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นเจ้าของนโยบายกัญชาและเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่

ถ้าไม่รับฟังความเห็นของพรรคภูมิใจไทย อาจขัดรัฐธรรมนูญ เพราะพรรคภูมิใจไทยเป็น “ผู้เกี่ยวข้อง” เป็นผู้ริเริ่มใช้กัญชาหาเสียงเลือกตั้งมาตั้งแต่ก่อนปี 2562 และขณะนี้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลอันดับที่ 2 ก็เกิดความขัดแย้งรุนแรง อาจทำให้รัฐบาลพังได้ เพราะกัญชากลายเป็นเรื่องการเมือง มีทั้งกลุ่มต่อต้านและกองเชียร์

ส่วนกลุ่มผู้สนับสนุนการนำกัญชากลับมาเป็นยาเสพติด ระบุว่า นับแต่มีการปลดล็อกกัญชาไม่เป็นยาเสพติด โดยไม่มีกฎหมายควบคุม ก่อให้เกิดการปลูก การตั้งร้านค้ากัญชาแพร่ระบาดไปทั่วประเทศ สมาคมจิตแพทย์ฯ ระบุว่า กัญชาเสรีทำให้ค่ารักษาผู้ป่วยจิตเวชพุ่งขึ้นจากปีละ 3 พันล้านบาท เป็น 2 หมื่นล้านบาท

...

มีรายงานยืนยันจากสหรัฐอเมริกา ว่าการเสพกัญชาทำให้สติปัญญา หรือไอคิวของคนลดลง 8-9 หน่วย วงการแพทย์ในไทยยืนยัน กัญชาทำลายสมองเยาวชนต้องพิการตลอดชีวิต ไม่อาจฟื้นคืนได้ และมีรายงานข่าวว่า ขณะนี้มีคนไทยเป็นโรคที่เกี่ยวกับจิต เพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านคน เชื่อว่ากัญชาจะเป็นต้นเหตุหนึ่ง

ยาเสพติดเป็นปัญหาเรื้อรังของไทย เป็นบ่อเกิดของการทุจริตคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่รัฐ การบังคับใช้กฎหมายที่หย่อนยาน รัฐบาลพรรคไทยรักไทยเคยประกาศทำสงครามปราบยาเสพติดให้สิ้นซาก ใครเกี่ยวข้องต้องส่งศพเข้าวัด หรือเข้าคุก มีคนตายกว่า 2,500 คน แต่ยาบ้ายิ่งเจริญรุ่งเรือง.

คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม