“นายกฯ เศรษฐา” ห่วงน้ำท่วมกรุงเทพฯ หากเจอน้ำเหนือ น้ำทะเลหนุน และฝนตกหนักพร้อมๆ กัน สั่งทำตามแผนเคร่งครัด บริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝน
วันที่ 2 มิถุนายน 2567 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการคาดการณ์สถานการณ์น้ำในฤดูฝน และสภาวะลานีญาที่เกิดขึ้นในปีนี้ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีฝนตกมากกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 10% นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงสถานการณ์ดังกล่าวที่อาจกระทบพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล กำชับให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) และสํานักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และดำเนินการตาม 10 มาตรการฤดูฝน ปี 2567 อย่างเคร่งครัด
นายคารม กล่าวต่อไปว่า แผนปฏิบัติการตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝนของรัฐบาล เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ กทม. ประกอบด้วย การคาดการณ์ชี้เป้าและแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม การเตรียมความพร้อมเครื่องจักรเครื่องมือ ระบบระบายน้ำ บุคลากรประจำพื้นที่เสี่ยง ตรวจสอบความพร้อม ติดตามความมั่นคงปลอดภัยคันกั้นน้ำ ทำนบ พนังกั้นน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของทางน้ำ พร้อมสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายภาคประชาชนในการให้ข้อมูลสถานการณ์น้ำที่ถูกต้อง และการสร้างการรับรู้ ศูนย์บริการข้อมูลสถานการณ์น้ำและประชาสัมพันธ์ ตลอดจนการติดตามประเมินผลและปรับมาตรการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ภัย เป็นต้น
“สทนช. และ กทม. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เตรียมความพร้อมบูรณาการร่วมกันทำงานวางแผนรับมืออย่างเป็นระบบ และติดตามสถานการณ์น้ำเหนืออย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ต่ำ อยู่บริเวณปากแม่น้ำ หากน้ำทั้ง 3 น้ำ คือ น้ำเหนือ น้ำทะเลหนุน และน้ำฝนที่ตกหนักในพื้นที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน จะส่งผลให้ภาวะน้ำท่วมรุนแรงขึ้นทันที”
...
ทั้งนี้ สทนช. ได้ติดตามสถานการณ์น้ำและผลการดำเนินการตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝนจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด และจะเร่งเดินหน้าสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายภาคประชาชนในการช่วยบอกต่อข่าวสารหรือข้อมูลสถานการณ์น้ำที่ถูกต้องให้กับคนในชุมชนเอง รวมทั้งให้คนในชุมชนช่วยเฝ้าระวังและแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงหรือแนวคันกั้นน้ำชำรุดกลับมายัง สทนช. เพื่อประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการซ่อมแซมแก้ไขได้ทันเวลา ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถช่วยลดผลกระทบและบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ.