"เทพไท" ชี้ คดี "แป้ง นาโหนด" จุดกระแสปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมไทย เปรียบ กรณี "ทักษิณ" ยัง 2 มาตรฐาน สร้างเหลื่อมล้ำ ขอ รมว.ยุติธรรม กับกรมราชทัณฑ์ คืนความเป็นธรรมให้ผู้ไม่ได้ทำผิดด้วย

วันที่ 31 พ.ค. นายเทพไท เสนพงศ์ นครศรีธรรมราช ปชป. ชี้ คดี "แป้ง นาโหนด" จุดกระแสปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมไทย เปรียบกรณี "ทักษิณ" ยัง 2 มาตรฐาน สร้างเหลื่อมล้ำ ขอ รมว.ยุติธรรม กับกรมราชทัณฑ์ คืนความเป็นธรรมให้ผู้ไม่ได้ทำผิดด้วย  

แป้ง นาโหนด : จุดกระแสปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมไทย

ผมได้ติดตามข่าวการจับกุมนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด นักโทษชายเด็ดขาดเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ได้หลบหนีออกจากโรงพยาบาลมหาราช จ.นครศรีธรรมราช เมื่อ 22 ต.ค. 2566 และถูกจับกุมตัวได้ในวันที่ 30 พ.ค. 2567 รวมเป็นเวลา 222 วัน นับว่าเป็นนักโทษที่หนีจากเรือนจำได้นานที่สุด

การจับกุมนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนดในครั้งนี้ ที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย จะเป็นฝีมือของหน่วยงานใดก็ตาม ต้องชื่นชมว่าเป็นความพยายามในการปฏิบัติหน้าที่จนประสบความสำเร็จ แม้นว่าใช้เวลานานเป็นพิเศษก็ตาม

นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด เป็นนักโทษชายเด็ดขาด ที่ถูกคุมขังอยู่ ในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เช่นเดียวกับผม แต่อยู่กันคนละแดน ผมอยู่แดน 3 ซึ่งเป็นแดนแรกรับ ส่วนแป้ง นาโหนด ถูกคุมขังในแดน 6 ซึ่งเป็นแดนความมั่นคงสูง จึงไม่ได้เจอกันและรู้จักกันเป็นการส่วนตัว

แต่จากการหลบหนีออกจากโรงพยาบาล และได้อัดคลิปแฉความไม่ชอบธรรมของกระบวนการยุติธรรมไทย สร้างผลสะเทือนให้กับกระบวนการยุติธรรมไทยทั้งระบบ นับตั้งแต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, สำนักงานอัยการสูงสุด, ศาลยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ โดนพาดพิงกันอย่างถ้วนหน้า นับว่าเป็นคุณูปการต่อสังคมไทยได้ไม่น้อย ทำให้สังคมตื่นตัวและมีกระแสเรียกร้องให้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมไทยทั้งระบบ สร้างความเป็นธรรมให้สังคม มีหลักนิติรัฐนิติธรรมอย่างแท้จริง

...

แม้ว่าในปัจจุบันยังมีมีการเลือกปฏิบัติ และปฏิบัติ 2 มาตรฐาน สร้างความเหลื่อมล้ำให้กับนักโทษทั่วไปอยู่ก็ตาม เช่น กรณีของนายทักษิณ ชินวัตร เป็นบุคคลเดียวในประเทศไทย ที่ทำตัวอยู่เหนือกระบวนการยุติธรรมไทย ซึ่งสังคมไทยกำลังจับตามอง และเรียกร้องให้ดำเนินการต่อนายทักษิณ ตามหลักนิติรัฐนิติธรรมเหมือนกับคนไทยทุกคน

การจับกุมตัวนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด ได้ที่ประเทศอินโดนีเซีย และจะนำตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนนั้น อยากจะให้กรมราชทัณฑ์ได้สอบสวนถึงการหลบหนีว่า มีบุคคลใดเกี่ยวข้อง สนับสนุนหรืออยู่เบื้องหลังหรือไม่ ถ้าหากมีก็ต้องดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด แต่ถ้าผลการสอบออกมาไม่ได้เป็นความผิดของผู้บัญชาการเรือนจำ คือ นายณรงค์ หนูคง หรือเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ก็ควรจะคืนความเป็นธรรมให้กับบุคคลเหล่านั้นด้วย ซึ่งตอนนี้ถูกย้ายออกจากตำแหน่งเดิม ทั้งที่ประเพณีปฏิบัติที่ผ่านมา เมื่อนักโทษหลบหนีจากการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ไม่เคยมีผู้บัญชาการเรือนจำคนใด ถูกโยกย้ายออกจากตำแหน่งเลย คงมีเพียงครั้งนี้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น

จึงขอเรียกร้องให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสหการ เพชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ คืนความเป็นธรรมให้กับผู้ไม่ได้กระทำผิดด้วย