“รุกแรง” ก็ต้องพร้อม “รับหนัก”

คนชอบเกมและผ่านศึกมาโชกโชน อย่าง “อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร” ย่อมรู้ดี ในสถานการณ์วันนี้ที่ต้องเจอ “งานงอก” ถี่ๆต่อเนื่อง

ส่วนหนึ่งเพราะเปิดเกมบุกหนักหน่วงเอง จนสัญญาณรวน “ดีลกระเพื่อม”

โดยล่าสุดนายใหญ่โดนติดบ่วงซ้ำ ในคดีที่อัยการสูงสุดสั่งฟ้องกรณีให้สัมภาษณ์สื่อที่ประเทศเกาหลีใต้ มีประเด็นพาดพิงหมิ่นเหม่เข้าข่ายผิดกฎหมายมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ต้องเตรียมการ ทั้งแก้ต่าง แก้เกม หาช่องเคลียร์ชนัก

ขณะที่ “นายกฯเศรษฐา ทวีสิน” ภายใต้ร่มเงาของพรรคเพื่อไทย และตระกูลชินฯ ก็ถูกคณะ สว.ยื่นร้องถอดถอนในกรณีการตั้งรัฐมนตรีส่อขัดรัฐธรรมนูญ ต้องเตรียมส่งคำชี้แจงต่อศาลภายใน 15 วัน

2 คิวร้อนนายใหญ่-นายกฯเศรษฐา ลุ้นผลช็อตแรกกลางเดือน มิ.ย.นี้

เป็น 2 ปมที่เกี่ยวโยงต่อสถานะอำนาจรัฐบาลเพื่อไทย แต่โฟกัสสำคัญน่าจะอยู่ที่คิวร้อนของ “ทักษิณ” อ่านทางก็รู้แล้วว่าต้องติดเบรกตัวเอง

ถอยมาตั้งหลัก โปรแกรมความเคลื่อนไหวต่างๆต้องลดดีกรี เพลาเกมบุก ชนิดที่ว่าอาจต้อง “นิ่ง” ยาวไปถึงเดือน ส.ค.ที่ได้เวลาพ้นโทษจากชนักค้างเก่า ถึงจะได้เวลา “ติดปีก” อีกรอบ

วันนี้ราชสีห์จ่อติดบ่วงซ้ำ เร่งบู๊แหลกเช่นเดิมคงไม่ได้

อย่างไรก็ดี คิวร้อนรอบนี้ ช่องรอดก็พอมี แม้ว่าคดีมาตรา 112 จะพลิกได้ยาก

เพราะอัยการสูงสุด “สั่งฟ้อง” ซ้ำ จากที่เคยมีคำสั่งมาก่อนหน้านี้ และอดีตนายกฯร้องขอความเป็นธรรมจนลากยาวจนวันนี้

เมื่อยกปัญหาสุขภาพ อาการป่วยติดโควิดก็พอรับฟังได้ และกลายเป็นตัวช่วยโดยปริยาย

...

ในช่วงเวลาครึ่งเดือนจากนี้ ก็ยังพอได้หายใจหายคอ มีช่องต่อสู้ข้อกฎหมาย อย่างที่ทนายความของอดีตนายกฯ เริ่มพูดถึงประเด็นชี้แจง และพ่วงขอความเป็นธรรมอีกครั้ง

ด้วยข้อมูลใหม่ คลิปเสียงที่ว่าส่อผิดปมกฎหมายมาตรา 112 ไม่เป็นของจริง เพราะมีการ “ตัดต่อ”

ยกปม “คลิปปลอม” มายื้อเกมอีกรอบ

เรียกว่าเป็นห้วง “นิ่งนอก” แต่ “วุ่นใน” เพราะตามกระบวนการขั้นตอนคดีต้องไม่ประมาท ไปถึงชั้นศาลพิจารณา ถ้าต้องลุ้นได้ประกัน-ไม่ประกันตัว ก็เท่ากับแหย่ขาเข้าสถานที่จองจำไปแล้วข้างหนึ่ง

แต่นั่นก็ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม ใช้คอนเนกชันเนติบริกรแนบแน่นฝ่ายขวาขั้วอนุรักษ์ช่วยเชื่อมต่อ

แต่แน่นอนอีกทางมุมรัฐศาสตร์ แนวทางกลเกมอำนาจคู่ขนานคือเกมเจรจา

กับไฟต์บังคับให้พลิ้วต่อไม่ได้ ถึงจุดที่ต้องยอมเขย่าดีลปรับเอ็มโอยูกันใหม่

ในภาวะที่อดีตนายกฯ ผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย “ผู้ถูกเลือก” มาถือธงนำทัพต่อกรกับคณะส้ม ค่ายก้าวไกลของคนรุ่นใหม่ ตามกระแสข่าวที่ประเมินกัน เป็นเงื่อนไขแลกเปลี่ยนในการกลับบ้านคืนเมือง

แม้ที่ผ่านมาจะโดนมองว่าเดินเกมบุกแบบล้ำหน้าเกินธง และบางช่วงดูยึกยักสร้างความหวาดระแวงให้แก่ขั้วเก่าฝ่ายอนุรักษ์ คณะหุ้นส่วนอำนาจ และกระตุกต่อมไม่พอใจให้โจทก์เก่าฝ่ายต้าน

แต่ก็เป็นบทบาทถนัดที่อดีตนายกฯ “ทักษิณ” วางไว้ ต้องขยับเล่นในเกมอำนาจ

หงอมือเปล่าก็โดนขี่ตลอด

ถึงแม้คิวนี้ จะได้ฝ่ายเดียวเบ็ดเสร็จ “ซีโร่ซัมเกม” จะยากเป็นจริงก็ตาม แต่เรื่องประโยชน์ร่วมแบบวิน-วิน ก็ไม่ง่ายที่จะลงตัว เกมบุกจึงจำเป็น เพื่อเพิ่มดุลในดีลให้ได้มากที่สุด

ที่สำคัญในสถานการณ์ที่คนเชี่ยวเกมอย่างอดีตนายกฯทักษิณรู้ดีว่ามี “ถือไพ่” ใบสำคัญ เป็นผู้ถูกเลือกใช้บริการ ในภาวะที่ขั้วอำนาจเก่ายังหาผู้เล่นใหม่ตามสเปกไม่ได้

อนุรักษ์นิยม-เพื่อไทย ยังไงก็ต้องออกแนวตบๆจูบๆ

“ร่วมการงาน” กันไป ก็ต้องต่อรองเจรจาเป็นระยะๆ

บริหารความขัดแย้ง ถ้าไม่ถึงจุดแตกหักกันไปเสียก่อน

จากนี้จึงน่าจะเป็นช่วงเจรจาใหม่ หากชื่อ “ทักษิณ” ยังอยู่ในฐานะผู้ถูกเลือก เป็นเดอะวันในคิวบังคับ

ก็ต้องไม่พลิกพลิ้วดีล จนเสี่ยงพังพาบไปทั้งขบวน.

ทีมข่าวการเมือง รายงาน

คลิกอ่านคอลัมน์ "วิเคราะห์การเมือง" เพิ่มเติม