“วราวุธ” รมว.พม. ชูนโยบาย 5x5 ฝ่าวิกฤติประชากร โยงภาคเกษตร-แรงงาน แนะใช้เทคโนโลยีสร้างมูลค่าเพิ่ม การบรรยายพิเศษ ในหลักสูตรวิทยาการเกษตรระดับสูง (วกส.) รุ่นที่ 5
เมื่อวันศุกร์ที่ 24 พ.ค. 2567 ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) บรรยายพิเศษในหลักสูตรวิทยาการเกษตรระดับสูง (วกส.) รุ่นที่ 5 หัวข้อ “Effect of super aged society on labor productivity in Thai agriculture”
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04ajTPTKM57HfTc5tI5je7eqEMOQnCpt.jpg)
โดยนายวราวุธ กล่าวว่า ปัจจุบัน วิกฤติประชากรของประเทศไทย พบว่า เด็กมีอัตราการเกิดน้อย และสังคมสูงวัยอย่างรวดเร็ว ในปี 2566 ประเทศไทยมีจำนวนผู้สูงอายุถึง 13 ล้านคน หรือร้อยละ 20 ของประชากรทั้งประเทศ ในขณะที่เด็กเกิดใหม่มีเพียง 5.18 แสนคน และคาดการณ์ว่า ในปี 2585 ประชากรไทยจะลดลงเหลือจำนวน 60 ล้านคน โดยประชากรวัยเด็ก (0-14 ปี) จะมีสัดส่วนลดลงเหลือเพียงร้อยละ 10.36 และประชากรวัยแรงงาน (15-59 ปี) จะเหลือเพียงร้อยละ 58.20 ในขณะที่ประชากรผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 31.44 ทำให้วัยแรงงานต้องเป็น “The แบก” ของประเทศ อีกทั้งระบบสวัสดิการและหลักประกันของรัฐมีค่าใช้จ่ายของรัฐในการจ่ายเบี้ยยังชีพเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยปี 2566 ใช้งบประมาณ 7.7 หมื่นล้านบาทต่อผู้สูงอายุ 10.3 ล้านคน ถ้ายังจ่ายแบบเดิม (ขั้นบันได) คาดว่าปี 2572 จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.26 แสนล้านบาท แต่หากเพิ่มเป็น 1,000 บาท จ่ายแบบทั่วหน้า ภายใน 5 ปี จะต้องใช้งบประมาณ 1.89 แสนล้านบาท และหากเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 บาท จ่ายแบบทั่วหน้า จะต้องใช้งบประมาณสูงถึง 5.68 แสนล้านบาท ซึ่งส่งผลต่อภาคเกษตรเพราะเกษตรกรส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ในขณะที่คนหนุ่มสาวไม่สนใจอาชีพภาคเกษตร จากสถิติปี 2555 แรงงานในภาคการเกษตรมีจำนวนมากถึง 15.4 ล้านคน ในขณะที่ปี 2565 แรงงานภาคการเกษตรลดลงเหลือเพียง 11.9 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 29.31 ของแรงงานทั้งหมด ซึ่งกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย โดยมีอายุเฉลี่ยที่ 58.46 ปี ทั้งนี้การเข้าสู่สังคมสูงวัยผนวกกับความสนใจในการทำงานในภาคการผลิตอื่นๆ ของคนรุ่นใหม่ ส่งผลต่อความมั่นคงทางด้านผลิตภาพในภาคเกษตรของประเทศ
...
นายวราวุธ กล่าวว่า จาก Global Climate Risk Index 2021 ประเทศไทยได้ถูกจัดเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูง อันดับที่ 9 ของโลก และ The World Bank Report on Thailand Rural Income Diagnostic 2022 คาดการณ์ว่า ในปี 2591 GDP ของประเทศไทยอาจได้รับผลกระทบจาก Climate Change มากเป็นลำดับที่ 5 ของโลก โดยอาจทำให้ GDP ลดลงถึงร้อยละ 45 ถ้าไม่มีการดำเนินการใดๆ อีกทั้งประเทศไทยกำลังเผชิญกับการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ กว่า 470 สายพันธุ์กำลังถูกคุกคามจากกิจกรรมของมนุษย์ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะส่งผลร้ายแรงต่อภาคเกษตร ในขณะเดียวกันปัญหาด้านมลพิษโดยเฉพาะทางอากาศ จะทำให้เกิดการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมได้ง่าย และจะทำให้เกิดการเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมได้เร็วขึ้นส่งผลให้ทั้งพืชและสัตว์ย่อมได้รับผลกระทบ และกระแสของ Digital Tranformation ทำให้รูปแบบของพฤติกรรมคนเปลี่ยนแปลงไป เกษตรกรไทยต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง และเพื่อให้สามารถแข่งขันกับประเทศต่างๆ ได้
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04ajTPTKM57HfTc5tIsmuXg4ARWHuhTn.jpg)
นายวราวุธ กล่าวว่า หลายประเทศได้ใช้กลยุทธ์ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งเป็นต้นทุนทางสังคมที่มีคุณค่า ด้วยการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของอาชีพเกษตรกรรม ชี้ให้เห็นข้อดีของการทำเกษตร เปลี่ยน Mindset ของคนรุ่นใหม่ และพัฒนาศักยภาพของคนวัยทำงาน และผู้สูงอายุที่ยังคงทำงานอยู่ในภาคเกษตร ที่สำคัญคือการทำให้เกษตรกรตระหนักถึงความสำคัญของอาชีพ เช่น ประเทศเคนยา ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฯลฯ สำหรับประเทศไทยได้มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการระดับชาติ "พัฒนาความมั่นคงครอบครัวไทย ผ่านพ้นภัยวิกฤติประชากร" เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2567 ในรูปแบบ World Café เพื่อร่วมกันออกแบบนโยบาย มาตรการ ในการพัฒนาความมั่นคงของครอบครัวไทยสู่ความมั่นคงของมนุษย์ โดยมีภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และองค์การระหว่างประเทศ เข้าร่วม ทำให้ได้ผลลัพธ์ของการประชุมดังกล่าวแบะถูกพัฒนาเป็นนโยบาย 5x5 ฝ่าวิกฤติประชากร ประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์ และ 5 มาตรการหลัก ในแต่ละยุทธศาสตร์ ซึ่ง ครม. เห็นชอบ เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อเป็นกรอบในการดำเนินงานและเสนอต่อที่การประชุมคณะกรรมาธิการประชากรและการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 57 (CPD 57) นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา
นายวราวุธ กล่าวว่า มาตรการที่สำคัญจากนโยบาย 5x5 ฝ่าวิกฤติประชากร ที่จะทำให้ภาคเกษตรไทยสามารถผ่าวิกฤติประชากรนี้ไปได้ ได้แก่ การพัฒนาทักษะใหม่ (Reskill/ Upskill) จะต้องมีการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยเฉพาะกับกลุ่มเกษตรกรสูงวัยและคนพิการ โดยพัฒนาสื่อการเรียนรู้และเทคนิคที่หลากหลายให้สอดคล้องกับศักยภาพของเกษตรกร การส่งเสริมการมีงานทำและรายได้ กระจายงานสู่พื้นที่และชุมชน จะต้องมีการสร้างแรงจูงใจรวมทั้งการปรับเปลี่ยน Mindset สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของภาคเกษตร ทำให้เห็นว่าการเกษตรทำให้คนรุ่นใหม่สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ โดยผลักดันมาตรการจูงใจให้แรงงานรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพเข้าสู่ภาคเกษตรให้มากขึ้น และการช่วยเหลือเกษตรกรสูงวัยให้รู้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและสนับสนุนให้มีส่งผ่านประสบการณ์จากเกษตรกรสูงวัยสู่เกษตรกรรุ่นใหม่ นอกจากนี้การฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ และส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว (GreenEconomy) โดยเฉพาะการนำเรื่อง “คาร์บอนเครดิต” เข้ามาสนับสนุนการเกษตรอย่างจริงจังพร้อมกับการพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน (Sustainable Agriculture System)
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04ajTPTKM57HfTc5tIwyedjS31KOh8V3.jpg)
นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกระทรวง พม. ได้ขับเคลื่อน “กระเสียวโมเดล” ในนิคมสร้างตนเองกระเสียว จังหวัดสุพรรณบุรี สังกัดกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2528 ปัจจุบันมีสมาชิกนิคมฯ จำนวนทั้งสิ้น 1,065 ราย ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยทรงดำ หรือลาวโซ่ง และร้อยละ 90 ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ปลูกพืช และเลี้ยงสัตว์ ปัจจุบันเป็นพื้นที่นำร่องในการบูรณาการกการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย 5x5 ฝ่าวิกฤติประชากร โดยได้ดำเนินการตามมาตรการต่างๆ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และ โมเดลเศรษฐกิจแบบใหม่ (BCG โมเดล) เพื่อให้สมาชิกนิคมฯ สามารถพึ่งพาตนเองได้ มีรายได้มั่นคง มีการนำทรัพยากรมนุษย์ในท้องถิ่น ซึ่งเป็นทุนทางสังคมมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นวัยทำงาน เด็กและเยาวชน ผู้สูงวัย และคนพิการ.