รพ.ราชทัณฑ์ ปฏิเสธมอบภาพวงจรปิดนาที “บุ้ง ทะลุวัง” หัวใจหยุดเต้นให้ “ศูนย์ทนาย” แต่ทำหนังสือเชิญพ่อ-แม่บุ้งเข้ามาดูแทน ด้านทนายด่าง แฉถูกมีผู้มีอำนาจสั่งเบรกหวังซุกขยะไว้ใต้พรม ยืนยันมีหลักฐานเพียงพอพร้อมเดินหน้าตรวจสอบหาที่มาสาเหตุการเสียชีวิต
วันที่ 24 พ.ค. 2567 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เรือนจำกลางคลองเปรม ถนนงามวงศ์วาน นายกฤษฎางค์ นุตจรัส หรือ ทนายด่าง ทนายความศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน ที่ดูแลคดีของน.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ “บุ้ง ทะลุวัง” พร้อม น.ส.วีรดา คงธนกุลโรจน์ หรือ ทนายเฟิร์น นายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือ สายน้ำ เพื่อนสนิทบุ้ง เดินทางมาขอรับภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ในเหตุการณ์เสียชีวิตของบุ้งตั้งแต่ 06.20 น. วันที่ 14 พ.ค. เพื่อตรวจสอบขั้นตอนรักษาของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ว่าถูกต้องตรงตามมาตรฐานหรือไม่ โดยทีมทนายความและญาติได้ยื่นคำร้องขอภาพไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่ผ่านมา
ต่อมาทนายด่าง ได้ออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนด้วยสีหน้าผิดหวังว่า ทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์ปฏิเสธไม่ให้ภาพกล้องวงจรปิดในขณะเกิดเหตุอ้างเหตุผลว่า 1. ภาพที่ออกไปอาจมีพนักงานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ติดอยู่ในภาพ 2 .อ้างว่าเพื่อความมั่นคงเพราะโรงพยาบาลราชทัณฑ์ถือเป็นเรือนจำ 3. เกรงจะเกิดความเสียหายกับผู้เสียชีวิต แต่ทั้ง 3 เหตุผลที่กล่าวมาจริงๆ มาจากความกังวลที่ว่าศูนย์ทนาย จะนำภาพไปเปิดเผยต่อสื่อมวลชน
สรุปว่าถ้าต้องการภาพให้ได้ จะต้องไปอุทธรณ์คำสั่งร้องต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารทางราชการและฟ้องศาลปกครอง อย่างไรก็ตาม ทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์แจ้งว่าจะอนุญาตให้บิดามารดาของบุ้งมาดูภาพทั้งหมดได้ และมีการทำหนังสือแจ้งเชิญไปแล้ว
...
ทนายด่าง กล่าวอีกว่า เหตุผลทั้ง 3 ข้อของโรงพยาบาลราชทัณฑ์นั้นฟังไม่ขึ้น เพราะสามารถเบลอภาพของบุคลากรที่ติดมาในเฟรมได้ ถ้ากังวลเรื่องความมั่นคงทำไมพาสื่อมวลชนขึ้นไปดูห้องผู้ป่วยได้ และที่เป็นห่วงภาพผู้เสียชีวิตที่จะต้องเผยไปยิ่งไม่เกี่ยวเพราะตอนที่ผ่าชันสูตรญาติและทนายก็เข้าไปดู ทางทีมทนายก็ยืนยันไปแล้วว่าจะไม่มีการเผยแพร่ภาพเหล่านี้ต่อสื่อแน่นอน ส่วนการที่อนุญาตให้พ่อแม่บุ้งดูภาพได้ กับนำสำเนาภาพมาให้ทนายนั้นต่างกัน เพราะทนายสามารถวิเคราะห์ผ่านผู้เชี่ยวชาญในทางลับว่าการรักษาพยาบาลของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ถูกต้องหรือไม่
“ขอถามไปยังผู้มีอำนาจว่าท่านแน่ใจแล้วหรือว่า จะไม่ให้ภาพวันเกิดเหตุกับทีมทนาย ถ้าไม่ให้ทีมทนายจะสรุปข้อมูลจากหลักฐานที่มีอยู่ในมือเท่านั้น ถือเป็นการปิดโอกาสที่ท่านจะเคลียร์ความบริสุทธิ์ของกรมราชทัณฑ์ต่อสาธารณชน เพราะการเสียชีวิตของบุ้ง สาเหตุสำคัญนอกจากเรื่องสอดท่อช่วยหายใจผิดไปในท่ออาหาร ยังมีสาเหตุอื่นอีกขอเวลาไม่นานที่จะรวบรวมข้อมูลออกมาเผยแพร่ นอกจากนี้ตนทราบมาว่ามีคำสั่งมาจากผู้มีอำนาจไม่ให้เปิดเผย และต่อไปนี้ก็จะไม่ให้ความร่วมมือใดๆ คงมีคนไม่พอใจสิ่งที่ศูนย์ทนายพูดออกมา และอาจเห็นว่าคนตายไปแล้ว แต่จะซุกขยะไว้ใต้พรมไม่ได้ ยืนยันจะเดินหน้าตรวจสอบต่อไป” ทนายด่าง กล่าว