“กัญจนา” พร้อมทีม ศรส. กระทรวง พม. เยี่ยมแม่และเด็ก 2 ขวบถูกสาดน้ำมันร้อน แพทย์เผย พ้นวิกฤติแล้ว มีโอกาสหายแน่นอน พร้อมขอบคุณ รพ.ยันฮี รับดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการรักษา

วันที่ 22 พฤษภาคม 2567 น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ที่ปรึกษาคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดขับเคลื่อนนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะที่ปรึกษาศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ลงพื้นที่โรงพยาบาลยันฮี เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ และติดตามอาการบาดเจ็บของเด็กหญิง 2 ขวบ ที่ถูกสาดน้ำมันร้อนๆ ราดทั่วร่างกาย 

ขณะเดียวกันยังได้พูดคุยกับ นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลยันฮี และ พญ.อรวรรณ โกสุมศุภมาลา แพทย์ผู้ชำนาญการด้านศัลยกรรมตกแต่ง โรงพยาบาลยันฮี พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยมี นายนิกร จำนง ประธานคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และที่ปรึกษา ศรส. และทีม ศรส. ได้แก่ นางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) นายอุเทน ชนะกุล รองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน นางพรนิภา มาสิลีรังสี รองอธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) หัวหน้าบ้านและเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานคร

...

น.ส.กัญจนา กล่าวว่า เด็กอายุเพียง 2 ขวบ ถูกน้ำมันจากกระทะร้อนๆ ราดทั่วตัว เป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนใจมาก ซึ่งเกิดเหตุเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา เมื่อทราบเรื่องจึงตั้งใจมาเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจครอบครัวเด็ก และอยากพูดคุยกับทางแพทย์ถึงแนวทางการรักษาต่อไปในอนาคต วันนี้หลังเยี่ยมทราบว่าอาการของน้องดีขึ้นเป็นลำดับ ต้องขอขอบคุณโรงพยาบาลยันฮีที่ช่วยรับเคสนี้ไว้แบบฉับพลัน จึงทำให้การรักษาเป็นไปได้อย่างทันท่วงที มีโอกาสที่จะหาย น้องพ้นภาวะวิกฤติแล้ว สามารถทานอาหารได้เป็นปกติ เป็นอาการป่วยระดับ 2 หรือประมาณ 10% ส่วนใหญ่ของแผลอยู่ที่บริเวณใบหน้า คาดว่าบาดแผลจะดีขึ้นตามลำดับ แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะใช้ระยะเวลาการรักษานานเท่าใด แต่น้องจะมีโอกาสหายแน่นอน และเป็นความโชคดีที่น้ำมันไม่ได้กระเด็นเข้าตา

สำหรับความช่วยเหลือ น.ส.กัญจนา ระบุว่า ส่วนตัวได้นำเงินมามอบให้จำนวนหนึ่ง และทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะมีเงินจากกองทุนคุ้มครองเด็กให้กับครอบครัวในเบื้องต้น จำนวน 22,000 บาท ขณะที่ด้านคดีความจะมีเงินจากกองทุนยุติธรรมมอบให้ โดยทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะช่วยประสานกับกระทรวงยุติธรรมต่อไป ส่วนครอบครัว พ่อของเด็กประกอบอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย มีรายได้อยู่ในระดับสามารถดูแลครอบครัวได้ มีลูกทั้งหมด 4 คน ด้านแม่ของเด็กรอรักษาตัวหายแล้วจะเริ่มประกอบอาชีพ 

พร้อมกันนี้ขอฝากทุกคนในสังคม หากเกิดเหตุไม่พอใจกัน อยากขอให้มีสติฉุกคิด อย่าใช้ความรุนแรง บ้านเมืองมีกฎหมาย ให้ดำเนินการตามกฎหมายไป อยากให้ยับยั้งชั่งใจ เพราะเมื่อเกิดเหตุแล้วอาจจะไปกระทบกับคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง ตัวคนทำต้องได้รับโทษทางคดีความ อย่างไรก็ตามตนและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ต้องขอขอบคุณ นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา และโรงพยาบาลยันฮี ที่รับดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการรักษาน้องและคุณแม่

ในช่วงท้าย น.ส.กัญจนา ระบุด้วยว่า หากพบเห็นผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อนทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ ขอให้แจ้งศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) ผ่านฮอตไลน์ พม. 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเรามีทีมปฏิบัติการหน่วยเคลื่อนที่เร็ว พร้อมลงพื้นที่ช่วยเหลือโดยด่วน.