รพ.ราชทัณฑ์มอบเอกสารผลการรักษา “บุ้ง ทะลุวัง” ย้อนหลังก่อนเสียชีวิต 5 วัน จำนวน 28 แผ่น ให้ทีมทนายบุ้งแล้ว ยังขาดแต่ภาพจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ อ้างต้องเบลอหน้าคนไม่เกี่ยวข้องก่อน ด้าน “ทนายด่าง” ขีดเส้นตาย 4 วันต้องได้ พร้อมตั้งข้อสงสัยทำไมใช้เวลานาน ทั้งที่นำไปให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ดูแล้ว ยันรอรวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมดจากทั้งสอง รพ.ก่อนสรุปข้อเท็จจริง เพื่อหาคำตอบคาใจเรื่องการใส่ท่อช่วยหายใจผิดตำแหน่ง

ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เรือนจำกลางคลองเปรม ถนนงามวงศ์วาน วันที่ 20 พ.ค. เวลา 09.30 น. น.ส.วีรดา คงธนกุลโรจน์ หรือทนายเฟิร์น ทนายความจากศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน รับมอบอำนาจจากบิดามารดาของ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ทะลุวัง ที่เสียชีวิตระหว่างการคุมขังในโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ให้มาขอรับข้อมูลเอกสารรายงานผลการรักษาย้อนหลังบุ้งเป็นเวลา 5 วัน และภาพจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุตามที่ทนายและญาติได้ร้องขอไปตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. โดยมีเหล่าเพื่อนร่วมอุดมการณ์ของบุ้ง ทะลุวัง อาทิ นายธีรภัทร ประดับแก้ว และ น.ส.วิชญาพร ตุงคะเสน จากกลุ่มทะลุวัง นายคฑาธร ดาป้อม หรือต๊ะ และนายสิทธิชัย ปราศรัย หรือออย จากกลุ่มทะลุแก๊ส นางเงินตรา คำแสน หรือมานี สื่ออิสระผู้ใกล้ชิดบุ้งทะลุวัง เดินทางมาด้วย

...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงพยาบาลราชทัณฑ์อนุญาตให้เฉพาะทนายความเดินทางเข้าไปในพื้นที่พร้อมสื่อมวลชน 7 คน ส่วนเพื่อนบุ้งขอให้รออยู่ด้านนอก สร้างความไม่พอใจให้กลุ่มทะลุวัง มีการด่าทอทางโรงพยาบาลอย่างรุนแรง ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ปิดประตูทางเข้าโรงพยาบาลและจัดกำลังมาดูแล กลุ่มมวลชนทะลุวังจึงมีการนำภาพของบุ้ง ทะลุวัง ในอิริยาบถต่างๆ 12 รูป นำมาจัดวางเรียงไว้ที่ประตูทางเข้าโรงพยาบาลเพื่อเป็นสัญลักษณ์

จากนั้นเวลา 12.30 น. นายกฤษฎางค์ นุตจรัส หรือทนายด่าง น.ส.กุณฑิกา นุตจรัส หรือทนายทราย จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางมาสมทบกับทนายเฟิร์นที่เข้าไปรออยู่แล้ว ในเวลาไล่เลี่ยกัน น.ส.ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ หรือใบปอ ทะลุวัง เพื่อนสนิทบุ้ง ถือภาพบุ้งที่ใช้ตั้งประดับหน้างานสวดอภิธรรม เดินทางมาหน้าประตูทางเข้าโรงพยาบาล พร้อมให้นายธีรภัทร ประดับแก้ว ถือโกศบรรจุอัฐิบุ้ง ยืนรอผลการรักษาย้อนหลังของบุ้งด้วย

กระทั่งเวลา 13.00 น. ทีมทนายจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน นำโดยทนายด่าง ออกมาจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ พร้อมซองเอกสารสีน้ำตาลก่อนแถลงผลต่อสื่อมวลชนว่า ได้รับเอกสารตามที่ร้องขอแล้ว เป็นเอกสารรวม 27-28 แผ่น คงต้องขอกลับไปตรวจสอบเอกสารดูก่อน เพราะยังไม่ได้แกะซอง สำหรับภาพจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุนั้น โรงพยาบาลขอเวลารวบรวมและใช้เทคนิคเบลอหน้าผู้ไม่เกี่ยวข้องก่อนที่จะส่งให้ทนาย เห็นใจโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แต่มองว่าเป็นภาพที่มีความยาวไม่มาก จึงให้เวลาแค่ 4 วัน ในวันศุกร์ที่ 24 พ.ค.จะมารับ

“ส่วนตัวมองว่าไม่น่าจะนานเพราะเป็นกล้องที่จับภาพเฉพาะตรงเตียงที่บุ้งกับทานตะวันนอนอยู่ รวมทั้งภาพช่วงที่หิ้วบุ้งไปห้องฉุกเฉินเพื่อทำ CPR ภาพในรถระหว่างส่งบุ้งไปโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ว่ามีใครไปบ้าง ยืนยันเหตุผลที่ต้องการภาพเคลื่อนไหวประกอบ เพื่อไปตรวจสอบความสอดคล้องจากรายงานทางเอกสารที่ได้รับมาว่าตรงกันหรือไม่ ที่สำคัญก่อนหน้านี้โรงพยาบาลราชทัณฑ์เคยนำภาพในวันเกิดเหตุให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ดูแล้ว อีกทั้ง รมว.ยุติธรรม บอกว่าจัดเตรียมไว้ให้แล้วด้วย จึงไม่น่าใช้เวลานานมาก” ทนายด่างกล่าวและว่า วันนี้ยังไม่ได้คุยกับ รพ.ราชทัณฑ์ กรณีข้อสังเกตเรื่องการใส่ท่อช่วยหายใจผิด แต่ยืนยันว่าญาติติดใจกรณีนี้อยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้คุยเพราะต้องนำเอกสารที่ได้รับมา กลับไปตรวจสอบก่อน เชื่อว่าเขาน่าจะรู้คำถามของเรา เพราะออกทั้งหนังสือและแถลงการณ์และทราบว่ามีการนำสื่อเข้าไปดูถึงห้องที่บุ้งรักษาตัวอยู่ จึงรู้สึกผิดหวังว่าแล้วทำไมถึงไม่นำภาพวงจรปิดในวันเกิดเหตุมาให้เลย จากนี้จะเดินทางไปโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เพื่อขอกล้องวงจรปิดในวันที่ 14 พ.ค. รอผลแล็บตรวจของเหลวในตัวบุ้ง มาใช้เชื่อมต่อข้อมูลกันเพื่อประชุมหารือสรุปข้อเท็จจริงต่อไป

ทนายด่างยังกล่าวถึงข้อซักถามกรณีคดีนี้มีโอกาสกลายเป็นคดีวิสามัญฆาตกรรม ตาม ป.วิอาญา มาตรา 155/1 ที่ว่าหากความตายเกิดขึ้นเพราะการกระทำของเจ้าหน้าที่หรือตายในระหว่างควบคุมของเจ้าพนักงาน ซึ่งอ้างว่าปฏิบัติการตามหน้าที่ จะต้องมีการสอบสวนเป็นคดีวิสามัญหรือไม่ว่า หากรูปคดีฟังว่ามีการกระทำโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง อาจจะเป็นคดี ถือว่ามีความตายผิดธรรมชาติ เพราะตายในระหว่างการควบคุมของเจ้าพนักงาน ซึ่งอ้างว่าได้ปฏิบัติการตามหน้าที่ เป็นคดีที่ต้องชันสูตรพลิกศพและเป็นสำนวนวิสามัญฆาตกรรมที่อัยการสูงสุดเท่านั้นเป็นผู้ชี้ขาด อย่างไรก็ตามจะต้องรอเอกสารทางการแพทย์ทั้งหมด ที่จะต้องเอามาพิสูจน์ว่าความตายของบุ้งเกิดจากการประมาท หรือประมาทเลินเล่อร้ายแรง หรือไม่ประมาทเลยหรือไม่ โดยมีข้อสังเกตว่ามีการสอดท่อช่วยหายใจผิดตำแหน่งหรือไม่ ขณะนี้ขอรอเอกสารเพื่อพิสูจน์คดีอาญาให้ชัดเจนก่อน

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่