"นายกฯ" ถึงกรุงโรม จ่อหารือนักธุรกิจ-เข้าพบนายกฯ อิตาลี ร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ เชื่อ ไม่กี่เดือน มีข่าวดีจัดแข่ง F1 มั่นใจเกิดได้แน่ เผย ธนาคารอิตาลีหนุนเมกะโปรเจกต์

เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 19 พ.ค. ที่ท่าอากาศยานมิลาน มาลเปนซา เมืองมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ นายกฯ เดินทางออกจากท่าอากาศยานเมืองมิลานฯ โดยเที่ยวบินพิเศษของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เที่ยวบินที่ TG 8846 โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.20 ชั่วโมง และถึงท่าอากาศยานลีโอนาร์โด ดาวินชี่ ฟิอูมิชิโน เมื่อเวลา 18.20 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงโรม สาธารณรัฐอิตาลี ช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) โดยมีเอกอัครราชทูต ณ กรุงโรม และนายเก-ราโด อมาดุชซี รองอธิบดีกรมพิธีการทูตณสาธารณรัฐอิตาลี ต้อนรับ ก่อนเดินทางเข้าโรงแรมที่พัก (Six Senses) เพื่อปฏิบัติภารกิจต่อเนื่อง โดยนายกฯ เปิดเผยว่า มีภารกิจเข้าหารือกับนักธุรกิจจากหลายบริษัทไม่ว่าจะเป็น กลุ่มบริษัทการบิน และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ, การประกันกันภัย และประกันชีวิต, สินค้าอุปโภคบริโภค, พลังงาน และบริษัทยานยนต์ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และนำกลับไปศึกษาต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ รวมไปถึงการเชื้อเชิญให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และยังมีภารกิจเยี่ยมชมห้องจัดแสดงเครื่องประดับ และพบหารือกับนาย Manuro di Roberto (มานูโร่ ดิ โรแบร์โต้) รองประธานธุรกิจบริษัท Bulgari (บุลการี) ที่ Bulgari high Jewelry Workshop จากนั้นจะเดินทางไปยังทำเนียบนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐอิตาลี เพื่อเข้าร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของ น.ส.จอร์จา เมโลนี นายกรัฐมนตรีประเทศอิตาลี รวมทั้งจะมีการหารือในระดับทวิภาคีด้วย

...

เมื่อเวลา 18.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงโรม สาธารณรัฐอิตาลี ซึ่งช้ากว่ากรุงเทพมหานคร 5 ชม. นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์หลังการเยี่ยมชมสนามแข่งรถ Autodromo Enzo e Dino Ferrari (ออโตโดรโม่ เอ็นโซ่ อีดีโน่ เฟอร์รารี่) ที่เมืองโบโลญญา และพบกับผู้บริหารสนาม ว่า รัฐบาลไทยต้องการสนับสนุนการท่องเที่ยวให้มีการแข่งขันกีฬาระดับโลก ฟอร์มูลา 1 (F1) 1 ปี จะแข่งขันกว่า 20 สนามทั่วโลก แต่ไม่เคยจัดที่ไทย รัฐบาลต้องการให้มีการแข่งขันที่ประเทศไทย วันนี้ได้เชิญ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานกรรมการบริหารบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และ นายกวิณ กาจนพาสน์ กรรมการและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ปโฮลดิ้ง จำกัด ที่เป็นผู้ได้รับการทำสัมปทานสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งมีที่ดินอยู่บริเวณดังกล่าวจำนวนมาก หากได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสนามแข่งขัน ก็จะใช้ที่ดินบริเวณอู่ตะเภา รัฐบาลจึงให้ความมั่นใจว่าไทยมีความพร้อมในการสร้างสนามแข่งขันอย่างเร็วที่สุด ในปี 2027 หรืออย่างช้าที่สุดปี 2028 มีผู้สนับสนุนรายใหญ่คือ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) มาเลเซียเป็นเจ้าภาพเขามีบริษัทปิโตรนาสเป็นผู้สนับสนุน เชื่อว่าทั้งผู้จัดและเราก็มีความต้องการให้จัดการแข่งขัน มั่นใจว่าภายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้จะมีข่าวดี

นายเศรษฐา กล่าวว่า มั่นใจว่าจะมีการจัดการแข่งขันขึ้นที่ประเทศไทยอย่างแน่นอน เพราะได้รับการตอบรับจากผู้จัดเป็นอย่างดี และมีทีม RedBull และนักแข่งที่เป็นคนไทย ก็อยากจะเห็นสนามการแข่งขันในประเทศไทย และนอกจาก F1 แล้วจะได้จัด F2 ซึ่งเป็นลีกรองอีกด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ แม้ยังไม่ได้ประเมินรายได้ แต่จากที่สังเกตเห็นในสนามตั๋วเข้าชมระดับวีไอพีต่อคนราคาประมาณ 5,000-8,000 เหรียญสหรัฐ และยังมีรายได้จากช่องทางอื่น ทั้งผู้สนับสนุนหรือการเปิดบูธขายอาหารอีก และในมุมของเศรษฐกิจ ยังมีเรื่องของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศ ทำให้เกิดการใช้จ่ายทั้งค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ซึ่งรัฐบาลสามารถจัดกิจกรรมเสริมในช่วงเวลานั้นได้อีก รวมถึงการเดินทางไปท่องเที่ยวได้หลายจังหวัด และเชื่อว่าจะสร้างผลกระทบเชิงบวกในทางเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาล แต่ขณะนี้ยังมีรายละเอียดเชิงลึกที่จะต้องหารือกันอีก

นายเศรษฐา ยังกล่าวกับสื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นภารกิจที่เมืองมิลาน โดยกล่าวว่า ได้พบกับบริษัททางการเงิน ธนาคาร Intesa Sanpaolo (อินเตซา ซามเปาโล) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความชำนาญเรื่องการให้สินเชื่อในประเทศต่างๆ ซึ่งมีการพูดคุยถึงความเป็นไปได้ในการสนับสนุนด้านการเงินในโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งทราบดีว่ารัฐบาลมีความต้องการขยายสนามบิน ทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ สนามภูเก็ต และสนามเชียงใหม่ โดยธนาคาร Intesa Sanpaolo ก็ให้ความสนใจหากมีรายละเอียดมากขึ้นอาจติดต่อกลับมา และจะให้กระทรวงคมนาคมไปชี้แจงรายละเอียด ธนาคาร Intesa Sanpaolo ยังให้ความสนใจเรื่องการออกหุ้นกู้สีเขียว (Green Bond) ซึ่งตรงกับนโยบายของรัฐบาลที่จะออกหุ้นในเดือน ก.ค. ราว 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งส่วนมากมีความต้องการประมาณ 25% หรือราว 250 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยธนาคาร Intesa Sanpaolo ก็ให้ความสนใจ และจากนี้รัฐบาลจะมีโรดโชว์ในช่วงต้นเดือน หรือกลางเดือน ก.ค. นอกจากนั้นตนยังได้พบกับประธานสมาคมการออกแบบอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นสถานที่จัดนิทรรศการขนาดใหญ่ และเดินสายจัดนิทรรศการในต่างประเทศนั้น รัฐบาลต้องการให้สมาคมนี้ไปจัดนิทรรศการที่ประเทศไทยด้วยเช่นกัน จากนี้ต้องไปทำการบ้านเรื่องการสร้างแรงบันดาลใจการออกแบบ การแปรรูปเกษตรใช้นวัตกรรมเข้ามาเพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรไทย 3 เท่า ภายใน 4 ปี ตามนโยบายของรัฐบาล.