“กฤษฎางค์ นุตจรัส” เปิดผลตรวจ 3 สาเหตุการเสียชีวิตของบุ้ง ยอมรับยังยืนยันไม่ได้ 100% เพราะต้องรอผลจากแล็บ แฉโรงพยาบาลราชทัณฑ์เบี้ยวไม่ยอมให้เอกสารผลการรักษาย้อนหลัง และกล้องวงจรปิด ขณะที่ “ทานตะวัน” ให้ข้อมูลใหม่ พบไม่ตรงกับกระทรวงยุติธรรมแถลง

 

วันที่ 16 พ.ค. 2567 เมื่อเวลา 15.45 น. ที่ศาลา 7 วัดสุทธาโภชน์ นายกฤษฎางค์ นุตจรัส หรือ ทนายด่าง ทนายศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน แถลงว่า ขณะนี้โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติได้ออกหนังสือรับรองการตายของ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง เพื่อให้ญาตินำเอกสารนี้ไปขอใบมรณบัตรนำร่างออกจากโรงพยาบาลมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่วัด ทั้งนี้โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติแจ้งเหตุการตายไว้ว่า 1.มีภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน 2.ภาวะสมดุลเกลือแร่ผิดปกติ 3.หัวใจโต นอกจากนี้โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติระบุในรายงานด้วยว่า จะต้องรอผลจากแล็บที่มีการส่งทั้งเลือดและสารคัดหลั่งของบุ้งไปตรวจว่ามีสารพิษ หรือมียาอะไรที่เคยให้ไว้เพื่อรักษาอาการบุ้งไว้ก่อนหน้านี้ มีการแทรกแซงอะไร หรือเกิดจากการรักษาพยาบาลที่ประมาทเลินเล่อของผู้ใดผู้หนึ่งหรือไม่

นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ในขณะที่ทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติออกเอกสารให้ แต่เราได้ขอเอกสารการรักษาบุ้งจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์มาตั้งแต่วันที่เสียชีวิต แต่ขณะนี้ก็ยังไม่ได้ จึงฝากสื่อมวลชนด้วยว่า กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ผิดคำพูด ที่บอกจะอำนวยความยุติธรรมให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความตายของเด็กคนนี้ ยิ่งถ้านายกฯ สั่งการไว้ตามที่เป็นข่าวจริง ก็แสดงว่าทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่ทำตามคำสั่งนายกฯ ในวันที่ 17 พ.ค.นี้ ทนายความจะไปขอเอกสารและกล้องวงจรปิดจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์อีกครั้ง ฝากไปถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่าลูกน้องท่านไม่ได้ทำตามสิ่งที่รับปากไว้ ดังนั้นญาติทนายและคนที่รักบุ้งยังคงสงสัยอยู่อย่าทำให้เรื่องเกินไปกว่านี้

...

“มีข้อสังเกตจากเอกสารของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ที่ระบุว่า ร่างบุ้งมาถึงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เวลา 09.00 น. วันที่ 14 พ.ค. ขณะนั้นบุ้งไม่มีสัญญาณชีพใดๆ หมายถึงเสียชีวิตมาก่อนถึงมือแพทย์แล้ว คือน้องเสียชีวิตแล้วเมื่อมาถึงโรงพยาบาล การช่วยชีวิต ขณะนั้นก็เพื่อให้มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นเท่านั้น”

นายกฤษฎางค์ กล่าวอีกว่า จากการที่ทนายได้ส่งรายงานไปให้แพทย์ภายนอกที่เป็นอิสระได้ตรวจสอบดู ได้รับข้อมูลมาว่า เป็นไปได้ว่าการรักษาจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์มาถึงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรตินั้นเป็นการรักษาที่ผิดพลาด ประเด็นที่ตั้งข้อสังเกตอีกคือมีหลักฐานที่น่าเชื่อว่าทางทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ทราบว่าบุ้งเสียชีวิตแล้ว และอาจไม่มีการเตรียมแก้ไขปัญหาภาวะอิเล็กโทรไลต์ในร่างกายไม่สมดุล 

เมื่อถามว่าตลอดระยะเวลาที่ทนายเข้าไปเยี่ยมทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้มีการแจ้งภาวะความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นหรือไม่ นายกฤษฎางค์ระบุว่า ไม่ได้แจ้ง มีแต่บุ้งแจ้งว่าขณะนี้ขาบวมมาก อย่างไรก็ตามจากหลักฐานการรักษาพยาบาล 5 วันสุดท้ายจึงจะสะท้อนให้เห็นว่าบุ้งเสียชีวิตเพราะอะไร อย่าลืมว่าคุกไทยมีผู้ต้องหาเสียชีวิตเพราะโลหิตเป็นพิษหลายคนไปตรวจสอบข้อมูลดูได้                

เมื่อถามถึงการย้าย น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ไปโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ นายกฤษฎางค์ ระบุว่า ถ้าเป็นเพราะเด็กมีความเครียดก็คงย้ายได้ แต่รู้สึกแปลกใจว่าหรือเป็นเพราะโรงพยาบาลกลัวมีคนตายอีกราย แล้วประชาชนจะต่อว่าเอา  

เมื่อถามอีกว่า กลัวผลตรวจของโรงพยาบาลราชทัณฑ์เปลี่ยนแปลงหรือไม่ นายกฤษฎางค์ ระบุว่า นั่นคือสิ่งที่เรากังวล เพราะขอไปแล้วยังไม่ได้ ขนาดขอกล้องวงจรปิดยังบอกว่าอัดเก็บไว้ได้แค่ 3 วัน อย่างไรก็ตามจากการที่ตนได้คุยกับทานตะวันได้ข้อมูลมาเยอะ ทั้งยังพบว่า สิ่งที่ทานตะวันพูดมานั้นบางอย่างไม่สอดคล้องกับที่ทางทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และกระทรวงยุติธรรมแถลงกับสื่อ ทานตะวันได้บอกว่า ได้คุยกับบุ้งเป็นปกติในวันที่เสียชีวิต ทั้งเล่าว่ามีคนกู้ชีวิตบุ้งในวันนั้นมีกี่คนเป็นใครบ้าง ตนขอไม่ลงรายละเอียดตอนนี้ เนื่องจากจะต้องมีการไต่สวนสาเหตุการตายในชั้นศาล.