แกนนำกลุ่มเคลื่อนไหวการเมือง บุกทำเนียบฯ ยื่น ร้องนายกฯ ไขทุกข้อสงสัย “บุ้ง” เสียชีวิต จี้ ปล่อยตัวนักโทษคดีการเมือง- “รุ้ง ปนัสยา” บอก ผิดหวัง น่าละอาย หลังพรรคเพื่อไทย ได้เป็นรัฐบาล กลับไม่ออกตัวเลย
วันที่ 16 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง นำโดย นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล นางสาวภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล และ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน และนายธนพัฒน์ กาเพ็ง หรือ ปูน ทะลุฟ้า พร้อมด้วยมวลชนเดินทางมาที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เรียกร้อง ขอให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาคดีทางการเมือง
นายธนพัฒน์ กล่าวว่า การเสียชีวิตของนางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ทะลุวัง ได้ถูกถอนประกันและถูกคุมขัง ตั้งแต่ 26 มกราคม 2567 และได้เริ่มทำการอดอาหารประท้วงตั้งแต่ 27 มกราคม จนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา แต่การเสียชีวิตยังเป็นที่สงสัยและยังไม่ได้รับการอธิบายวันนี้ทางกลุ่มของตนเองจึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการเสียชีวิตของนางสาวเนติพร ให้เกิดความโปร่งใสและชัดเจนโดยเร็ว ดำเนินการใดๆ ให้ผู้ต้องขังซึ่งคดียังไม่ถึงที่สุดได้รับสิทธิในการประกันตัว ชะลอการดำเนินคดี การจับกุมคุมขังบุคคลในคดีการเมืองจนกว่า จะผ่านกฎหมายนิรโทษกรรมประชาชน สั่งไม่ฟ้อง ไม่ยื่นคำร้อง ไม่อุทธรณ์ ไม่ฎีกา ถอนฟ้อง ถอนคำร้อง ถอนอุทธรณ์และถอนฎีกา ในคดีที่ไม่เป็นประโยชน์สาธารณะ และเร่งรัดการออกกฎหมายนิรโทษกรรมประชาชนโดยรวมประชาชนทุกฝ่าย ทุกข้อหาที่มีมูลเหตุแห่งคดีทางการเมือง ซึ่งขณะนี้ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมประชาชน พ.ศ.... ได้เสนอต่อรัฐสภาและอยู่ระหว่างการรับฟังความเห็นเรียบร้อยแล้ว และเห็นว่าไม่ควรต้องมีบุคคลใดต้องเสียชีวิตหรือถูกคุมขังจากการแสดงออกทางการเมืองอีก ต่อไป และ หลังการยื่นหนังสือวันนี้แล้วจะมาติดตามการดำเนินการตามข้อเรียกร้องอีกครั้งในวันที่ 21 พฤษภาคม 2567 อีกครั้ง
...
นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนมารับหนังสือพร้อมบอกว่า ในฐานะที่เป็นตัวแทนรัฐบาล รู้สึกเสียใจและยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ไปก้าวล่วงฝ่ายตุลาการ ส่วนรายละเอียดทุกคนก็ทราบว่ากรณีที่ถูกถอนประกันตัวเป็นเพราะอะไร เหล่านี้ต้องบอกว่าผู้ใหญ่ในรัฐบาลก็คุยกันหลายคนอย่างไม่มีความสบายใจเรื่องนี้เลย ส่วนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่อยู่ในชั้นคณะกรรมาธิการ ขอยืนยันว่า คณะกรรมาธิการจะทำให้เสร็จก่อนเปิดสภาฯ แน่นอน และเรื่องนี้ตนเองได้พูดคุยกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ขอยืนยันว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ส่วนกระบวนการทางยุติธรรมไม่สามารถที่จะไปก้าวล่วงได้จึงขอให้ทางกลุ่มเคลื่อนไหวเข้าใจ
นางสาวปนัสยา ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกับผู้สื่อข่าวของไทยรัฐทีวี ว่า การมายื่นข้อเรียกร้องวันนี้ หวังเสียงของพวกตนจะต้องถึงรัฐบาลเพราะไม่ใช่มีแค่เสียงของพวกตนเพียงกลุ่มเดียวแต่ตั้งแต่วันแรกที่เกิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พูดชัดเจนว่า ได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบถึงการเสียชีวิตของนางสาวเนติพร แล้ว เรื่องนี้จะไม่ถึงไม่ได้ และบุ้งก็ไม่ใช่คนแรกที่ต้องมาเสียชีวิตจากความเห็นต่าง และยังมีข้อสงสัยหลายอย่าง ทั้งที่บุ้ง ในโรงพยาบาลไม่ได้อยู่ในห้องขัง จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ได้รับการช่วยเหลือ และที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์ก็พูดเองว่า "บุ้ง" ปกติแข็งแรงมาตลอด และ 3 ชั่วโมงแรกก่อนที่จะนำตัวบุ้งไปโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เกิดอะไรขึ้น ได้มีการปั๊มหัวใจทันทีหรือไม่ และใครเป็นคนทำ CPR มีความรู้หรือไม่หรือเป็นนักโทษด้วยกัน เรื่องเหล่านี้กรมราชทัณฑ์ยังตอบไม่ได้รวมถึงกล้องวงจรปิดที่อ้างว่า เก็บข้อมูลได้เพียงสามวัน จึงมีแต่เรื่องที่น่าสงสัยเต็มไปหมด ทั้งนี้ตนเองก็ไม่อยากกล่าวหาใครแต่คิดว่าเรื่องนี้คงไม่อยากมีใครให้เกิดอยู่แล้ว แต่หากไม่พูดความจริงความน่าเชื่อถือของกรมราชทัณฑ์ที่แทบจะไม่เหลือแล้วก็จะไม่เหลือเลย และที่ใหญ่ไปกว่านั้นคือภาพลักษณ์ของประเทศที่ไม่เหลือแล้ว
ส่วนพรรคเพื่อไทย ก่อนหาเสียงเลือกตั้งเคยออกตัวและให้ความสำคัญกับกลุ่มเคลื่อนไหวที่ถูกดำเนินคดีทางการเมือง แต่หลังจากได้เป็นรัฐบาลกลับไม่มีการออกออกตัวหรือการแสดงความเห็นใดๆ ซึ่งก็น่าผิดหวังหากพูดตามตรงเราเป็นหนึ่งคนที่เคยเชื่อใจพรรคเพื่อไทยอยู่บ้างแต่วันนี้ไม่มีเหลือแล้ว และคิดว่าไม่ใช่แค่ตนเองเพียงคนเดียวแต่อีกหลายคนในประเทศนี้ที่ดูข่าวกันอยู่ทุกวันทุกคนกินข้าว และก็รู้สึกว่าน่าละอายเป็นอย่างยิ่งต่อการกระทำของคนในรัฐบาลที่ออกมาพูดว่าจะทำอย่างโน้นอย่างนี้จะแก้ไข ม.112 แม้แต่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ก็เคยบอกว่าถ้าได้เป็นรัฐบาลจะไปขอศาลให้ปล่อยตัวนักโทษทางการเมือง แต่วันนี้ กลับไม่พูดอะไรเลย จึงน่าละอายน่ารังเกียจและน่าโกรธแค้นเป็นอย่างยิ่ง
พร้อมยืนยันว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มตนเองแม้หลายคนจะออกมาได้ไม่เต็มที่แต่ไม่มีใครหยุดจะทำทุกทางเท่าที่ทำได้ทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังใครที่อยู่เบื้องหน้าไม่ได้ก็กลับไปอยู่เบื้องหลังและจะร่วมกันทำงานเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม และยืนยันว่าตั้งแต่ปี 2020 พวกตนไม่ได้หายไปไหน
ทั้งนี้ก่อนการยื่นหนังสือทางกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองได้นำป้ายข้อความที่แกนนำของพรรคเพื่อไทยเคยใช้หาเสียงเลือกตั้งเกี่ยวกับนักโทษทางการเมือง ที่ถูกคุมขังและดำเนินคดี พร้อมทั้งนำเอาคลิปวิดีโอของนางสาวแพทองธาร และแกนนำพรรคเพื่อไทยอีกหลายคนที่เคยขึ้นปราศรัยมาเปิดให้สื่อมวลชนดู ขณะที่การรักษาความปลอดภัยได้มีการนำกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนรวมถึงตำรวจนอกเครื่องแบบมาประจำ. ที่ทางกลุ่มมายื่นหนังสือจำนวน 50 นาย
หลังจากยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาลเสร็จแล้วทางแกนนำของกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองได้เดินทางต่อไปที่รัฐสภา เพื่อยื่นหนังสือให้กับนายชูศักดิ์ ศิรินิล