"ชาญชัย" อดีต สส.นครนายก ปชป.เสียดาย "กฤษฎา" ไม่ได้ช่วยแก้วิกฤติหนี้ ปูด "สบน." ท้วงไม่มีเงินใช้ดอกเบี้ยหนี้ ต้องควักเงินคงคลังจ่าย เตือน "เศรษฐา" ส่อ ผิด พ.ร.บ.วินัยเงินการคลัง

เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2567 นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ลาออกจากตำแหน่ง รมช.คลัง ซึ่งมีผลโดยสมบูรณ์แล้วนั้นว่า เรื่องนี้สร้างความสงสัยและถือว่าเหนือความคาดหมายของประชาชน แต่สำหรับพวกตนที่อยู่ในวงการเมืองมองว่า ปกติและขอให้กำลังใจต่อ นายกฤษฎา อดีต รมช.คลัง เพราะในอดีตท่านเป็นอดีตปลัดกระทรวงการคลัง ถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงคลังผ่านงานเป็นอดีตอธิบดีมาหลายกรม และได้รับมอบหมายดูแลแค่กรมเดียวคือ สำนักงานหนี้สาธารณะที่กำลังมีปัญหาการกู้เงินมาให้รัฐบาลใช้แต่ไม่มีงบจ่ายค่าดอกเบี้ยเงินกู้เป็นการทำผิดกฎหมายวินัยการเงินการคลัง

"มันเป็นประเด็นเกี่ยวกับการไปกู้เงิน และประเด็นเกี่ยวกับงบฯ ชำระหนี้ของรัฐบาล ในหน้าที่ 24 ข้อที่ 61 ของเอกสารรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นการจัดทำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่ระบุว่า งบฯ ชำระดอกเบี้ยที่สำนักงานบริหารหนี้สินสาธารณะ (สบน.) ได้รับการจัดสรรไม่พอเพียงต่อภาระหนี้สาธารณะที่เกิดขึ้นจริง ทำให้ต้องไปเอาเงินคงคลังมาใช้เพื่อชำระดอกเบี้ยหนี้สาธารณะปี 2565-66 และในปี 2567 คือ ปีนี้ รัฐบาลปัจจุบันได้จัดสรรงบประมาณในส่วนงบฯ ที่ต้องไปจ่ายค่าดอกเบี้ยของหนี้ก็ไม่เพียงพออีก เป็นปัญหาใหญ่ที่สำนักงบประมาณพยายามที่จะจัดสรรงบฯ ให้กับ สบน.เพื่อนำไปจ่ายลดหนี้สาธารณะของประเทศก็ยังทำไม่ได้ มันจึงเป็นปัญหาในกรอบวินัย การเงิน การคลังของภาครัฐ สบน.จึงเรียกร้องขอให้สำนักงบประมาณจัดงบฯ กลางมาชดใช้เงินคงคลังที่ สบน.เอาไปใช้หนี้ดอกเบี้ย ซึ่งไม่รวมเงินต้น ไม่เช่นนั้นจะผิด พ.ร.บ.วินัยการเงิน การคลังของรัฐ ปี พ.ศ. 2561 ซึ่งจะมีกระทบต่อความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ผมพูดตามรายงานความเห็นหน่วยงานรัฐบาลแจ้งในเอกสารดังกล่าว" นายชาญชัย กล่าว

...

นายชาญชัย กล่าวอีกว่า หากเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆ คือ เปรียบประเทศไทยเป็นบริษัทหนึ่งที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ หรือ ตลาดหุ้น พอถึงเวลาที่จะต้องชำระหนี้สินในส่วนที่เป็นดอกเบี้ย ที่บริษัทนี้กู้มาใช้ ยังไม่คิดรวมเงินต้นที่กู้มา เอาแค่ส่วนที่เป็นดอกเบี้ย บริษัทนี้ ยังไม่มีเงินพอจ่ายตามที่ไปกู้เงินเขามา นี่คือปัญหาของประเทศไทย ฉะนั้น ถ้า นายกฤษฎา ยังอยู่เป็น รมช.คลัง ควรจะพูดเรื่องนี้กับนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลังให้รับทราบ และที่ว่าจะเป็นปัญหาใหญ่ คือที่นายกฯ และรมว.คลังกำลังขวนขวายหาเงินกู้และหางบฯ มาทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อแจกเงินอีก 5 แสนล้านบาท ท่านรู้ไหมว่า แค่เงินที่จะไปจ่ายดอกเบี้ยของหนี้เก่าค้างอยู่ เวลานี้ สบน.ยังไม่พอที่จะชดใช้เลย ถ้าเป็นตลาดหลักทรัพย์ เขาก็จับบริษัทของท่านขึ้นแขวนสั่งห้ามซื้อ ห้ามขายหุ้นของท่านแล้วเหมือนบริษัทนี้จะเจ๊งแล้ว จึงขอฝากเรื่องสำคัญนี้ให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบเรื่องนี้ไว้ด้วย ซึ่งข้อมูลนี้ เป็นรายงานของรัฐบาลที่ทำเสนอเอง ประชาชนไม่รู้เรื่อง แต่ตนนำมาบอกกล่าวให้ได้รับรู้ว่าข้อมูลที่รัฐต้องเปิดเผย สถานะการเงิน การคลังของประเทศไทยเรามีปัญหามาก และอันตราย แต่ผลสุดท้ายจะทำให้บ้านเมืองเราเสียหายอย่างร้ายแรง จึงขอฝากให้นายกรัฐมนตรี และรมว.คลังได้รับรู้ด้วยว่า ท่านกำลังทำอะไรอยู่ ไม่ใช่ท่านไม่รู้ ฝากไว้ด้วย อย่าให้บ้านเมืองเราเสียหายมากไปกว่านี้ หนี้รัฐก็สูงจนไม่มีงบพอจ่ายค่าดอกเบี้ย ผิด พ.ร.บ.วินัยเงินการคลัง รัฐบาลคิดแต่เพิ่มหนี้ ไม่คิดเพิ่มรายได้ประชาชนแบบยั่งยืน พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง มาตรา 9 วรรคท้ายบัญญัติไว้ว่า คณะรัฐมนตรีต้องไม่บริหารรายการแผ่นดินโดยมุ่งสร้างความนิยมทางการเมือง ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและประชาชนในระยะยาว