นายกฯ ลงพื้นที่ติดตามปัญหาน้ำท่วมขังซ้ำซากพื้นที่เทศบาลกาญจนบุรี กำชับเร่งขุดลอกแก้มลิงลึกขึ้นอีก 1 เมตร ก่อนเข้าฤดูฝน สั่งใช้งบฯ อย่างเหมาะสม จัดลำดับความสำคัญแผนงาน
วันที่ 11 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับภารกิจวันที่ 2 ของการลงพื้นที่ 4 จังหวัดลงท้ายบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี และ จ.เพชรบุรี ของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 10-14 พฤษภาคม หลังเสร็จสิ้นภารกิจที่แรก จ.สุพรรณบุรี และพักค้างคืนที่ จ.กาญจนบุรี นั้น เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ จ.กาญจนบุรี นายกฯ ได้รับฟังประเด็นปัญหาน้ำท่วมขังซ้ำซากในพื้นที่เทศบาลแก้มลิง ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี
โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ร่วมลงพื้นที่ โดยมี ร.ท.ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ข้าราชการท้องถิ่น สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย(พท.) นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ เขต 1 นายชูศักดิ์ แม้นทิม สส.เขต 2 นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ เขต 4 และนายพนม โพธิ์แก้ว เขต 5 มาต้อนรับ
โดยทันทีที่นายกฯ เดินทางมาถึง ชาวบ้านได้ผูกผ้าขาวม้าหนองขาว ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อ จ.กาญจนบุรี ต้อนรับ
จากนั้น นายกฯ รับฟังบรรยายสรุปปัญหาน้ำท่วมขังซ้ำซากในพื้นที่ และแผนการพัฒนาพื้นที่บริเวณย่านสถานีกาญจนบุรี ที่แบ่งเป็น 3 โซน คือพื้นที่ตลาดกลางค้าปลีก-ค้าส่ง พื้นที่ที่อยู่อาศัยระยะยาว และพื้นที่สวนสาธารณะ โดยนายกฯ กล่าวว่า ขอให้เร่งบริหารจัดการโครงการ เนื่องจากที่ผ่านมาทราบว่าน้ำท่วมทุกปี พร้อมย้ำขอให้จัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนในการดำเนินการให้เป็นไปตามแผนที่กำหนด เร่งทำให้แล้วเสร็จ พร้อมกับดูเรื่องงบประมาณให้เหมาะสม รวมถึงเร่งดำเนินการแผนการพัฒนาพื้นที่บริเวณย่านสถานีกาญจนบุรี
...
จากนั้น นายกฯ กล่าวกับประชาชนว่า วันนี้มาดูเรื่องปัญหาน้ำท่วมที่เป็นปัญหาเรื้อรังในเขตนี้ เรื่องการพัฒนาชุมชนทราบมาว่าน้ำท่วมเดือดร้อนทุกปี บางปีท่วมถึงอก และท่วมนานมาก วันนี้โครงการจากทางรัฐบาล ซึ่งได้มีการจัดสรรงบอย่างเรียบร้อยแล้ว ขอให้กรมโยธาธิการและผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งดำเนินการทำงานให้เป็นไปตามแผน เพราะอีก 3-4 เดือนก็ถึงฤดูฝนแล้ว เช่น เรื่องการขุดลอกแก้มลิงให้ลึกขึ้นอีก 1 เมตร เพื่อบรรเทาและแก้ไขปัญหาได้ ส่วนเรื่องของการรถไฟซึ่งมีโครงการอยู่แล้วขอให้เร่งพัฒนาตรงนี้ให้ได้โดยเร็ว เพื่อบรรเทาความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชน