ควันเก่ายังไม่ทันจาง ควันใหม่คุ้งขึ้นมาอีก เข้ากับสถานการณ์ประเทศยามหน้าร้อนที่เกิดเพลิงไหม้โรงงานสารเคมีอย่างต่อเนื่อง

สรุปไม่ได้ด้วยว่าเหตุมันเป็นเพราะอะไร?

หลังจากที่ “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” รัฐมนตรีต่างประเทศ ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งด้วยเหตุที่ถูกถอดจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีที่ควบอยู่

จับความได้ว่าไม่ให้เกียรติกัน

จากนั้นก็ตามมาอีกลูกหนึ่งคือลักษณะไม่ต่างกันเท่าใดนัก “กฤษฎา จีนะวิจารณะ” ได้ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยคลัง

รายนี้แม้นายกรัฐมนตรีพยายามยับยั้ง แต่เมื่อเจ้าตัวประกาศเจตนารมณ์ไปแล้วถือว่ามีผลทางกฎหมายทันที

รายหลังนี้มาจากพรรคร่วมรัฐบาล “รวมไทยรักษาชาติ” เหตุผลก็เพราะ “พิชัย ชุณหวชิร” รัฐมนตรีคลังคนใหม่ แบ่งงานให้ไม่เป็นธรรม

กระทรวงการคลังในบริบทใหม่นี้มีรัฐมนตรี 4 คน ว่าการ 1 คน ช่วยว่าการ 3 คน มาจาก “เพื่อไทย” 3 คน ที่แปลกใหม่คือมีรัฐมนตรีช่วยถึง 3 คน

การแบ่งงานให้บรรดารัฐมนตรีนั้นเป็นหน้าที่ของ “ขุนคลังใหญ่” ปรากฏว่ารัฐมนตรีที่มาจาก “เพื่อไทย” ได้งานสำคัญๆไปทั้งหมด

เหลือให้รัฐมนตรีที่มาจากพรรคอื่นเพียงหน่วยงานเดียวและงานในความรับผิดชอบอีกส่วนหนึ่ง ทำให้เกิดปัญหาความไม่พอใจที่ลดบทบาทอย่างน่าเกลียดเกินรับได้

นายกรัฐมนตรีเห็นท่าไม่ดีเพราะจะทำให้ภาพลักษณ์รัฐบาลเสียหายจึงแจ้งไปยังรัฐมนตรีท่านนั้นว่าให้คิดดูให้ดีและจะเกลี่ยงานอื่นให้

แต่ไม่เป็นผล...

ว่ากันตามตรงหากใครที่โดนกระทำอย่างนี้ก็ต้องเกิดอารมณ์และความรู้สึกเพราะมันเกินไป ไหนนายกรัฐมนตรีบอกว่าไม่มีพรรคไม่มีพวกมีแต่การทำงานร่วมกันเป็นทีม

...

แล้วนี่มันคืออะไร?

เขาบอกว่าการที่ “เพื่อไทย” รวบงานไว้ทั้งหมดเพื่อกระชับอำนาจในกระทรวงนี้เพื่อให้เกิดบริหารงานมีประสิทธิภาพสู่เป้าหมายการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

แต่มองจากรูปการณ์แล้วมันไม่ต่างไปจากต้องการเขี่ยให้พ้นเส้นทางมากกว่า

อีกประเด็นก็คือระหว่างว่าการกับช่วยว่าการ 2 ท่านนี้เคยมีความไม่ลงรอยกันมาก่อน ฝ่ายหนึ่งเคยสอบอีกฝ่ายหนึ่งแม้เรื่องจะจบลงไปแล้ว

แต่ความเคืองแค้นยังดำรงอยู่

งานนี้ยังกระทบขึ้นไปไกลกว่านั้น โดยเฉพาะคู่ขัดแย้งที่ยังดำรงอยู่คือรัฐบาลกับแบงก์ชาติที่เกิดปัญหาเรื่อง “ดิจิทัลวอลเล็ต” และ “ดอกเบี้ย” ถึงขั้นประกาศว่า “ขวางทุกเรื่อง”

นี่เท่ากับจะบอกว่า...

รัฐมนตรีจากพรรคอื่นถ้าขวางทางสุดท้ายจะจบลงอย่างไร?

ที่แปลกอยู่อย่างก็คือกรณีอย่างนี้พรรครวมไทยสร้างชาติในฐานะต้นสังกัดของ “กฤษฎา” ไม่ได้รู้สึกแค้นเคืองแม้แต่น้อยทั้งๆ ที่คนของตัวเองถูกกระทำอย่างนี้

หัวหน้าพรรคบอกสั้นๆ ว่าไม่มีปัญหา ก็ตั้งคนอื่นเข้าไปทำหน้าที่แทน

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพรรคนี้มีความสัมพันธ์กันอย่างไรและ “กฤษฎา” เข้ามาร่วมแบบไหนผ่านใครเพราะก่อนปรับ ครม.ก็มีข่าวจะถูกปรับออก

ดูอาการแล้วคงจะไปได้อีกไม่กี่น้ำแน่!

“สายล่อฟ้า”