นายกฯแถลงจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จัด 10 โครงการใหญ่ในนามรัฐบาล อาทิ พัฒนาสวนสาธารณะ บึงหนองบอน พร้อมขอพระราชทานชื่อ “สวนหลวง ร.10” จัดหาที่ดินจากเหล่าทัพ 7.2 หมื่นไร่ จัดสรรให้ประชาชนอยู่อาศัยทำกินและได้เอกสารสิทธิตามกฎหมาย จัดหาแหล่งน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ภัยแล้งซ้ำซาก 72 แห่ง จัดโครงการพลิกฟื้นผืนป่า โครงการยกระดับ รพ.สมเด็จพระยุพราช รพ.ชุมชนเฉลิมพระเกียรติ รพ.ชัยพัฒน์และหน่วยบริการปฐมภูมิ 72 แห่ง จัดหาน้ำสะอาดตามโรงเรียนสร้างสุขภาวะที่ดีแก่เด็กนักเรียน จัดหากายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ 72,000 ชุด พร้อมชวนคนไทยร่วมแสดงพลังความจงรักภักดี

รัฐบาลจัด 10 โครงการใหญ่ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 พ.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ครั้งที่ 2/2567 มีคณะรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะคณะกรรมการฝ่ายจัดพิธีการฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วม

หลังเสร็จสิ้นการประชุม นายกฯแถลงว่า ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 นับเป็นมหามงคลสมัยพิเศษยิ่ง ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้ รัฐบาลเห็นสมควรจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้เป็นไปอย่างสมพระเกียรติทุกประการ การจัดงานจะมีทั้งงานพระราชพิธี งานพิธีการ โครงการและกิจกรรมต่างๆ ของรัฐบาล หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เพื่อน้อมนำแนวพระราชดำริ พระราชปณิธาน พระบรมราโชบายเกี่ยวกับการพัฒนาสิ่งแวดล้อม พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้อยู่ดีมีสุข ขณะนี้มีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เสนอโครงการและกิจกรรมเข้าร่วมเฉลิมพระเกียรติจำนวนมาก รัฐบาลได้เลือกโครงการขนาดใหญ่จากที่เสนอในการประชุม ให้เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติในนามรัฐบาล จำนวน 10 โครงการ มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆรับไปดำเนินการ ดังนี้

...

โครงการที่ 1 โครงการยกระดับสวนสาธารณะบึงหนองบอน และ Pocket Parks 72 แห่ง เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว รวมทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติแบบครบวงจรให้ประชาชนในกรุงเทพ มหานครและปริมณฑล โดยจะพัฒนาสวนสาธารณะขนาดใหญ่ 2 แห่ง ได้แก่ สวนหลวง ร.9 ที่มีพื้นที่ประมาณ 500 ไร่ และสวนสาธารณะบึงหนองบอน ให้เป็นสวนสาธารณะระดับมหานคร ที่มีพื้นที่รวมกว่า 1,144 ไร่ จัดเป็นสถานที่เล่นกีฬา ออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจ ทำกิจกรรมต่างๆแบบครบวงจร ทั้งเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพเพื่อให้เป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติ ใช้ในการบริหารจัดการน้ำของเมืองแบบครบวงจร รัฐบาลจะขอ พระราชทานชื่อสวนสาธารณะแห่งนี้ว่า “สวนหลวง ร.10” รวมถึงการสร้างพื้นที่สาธารณะเปิดโล่งหรือ Pocket Parks 72 แห่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

โครงการที่ 2 โครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า เพื่อฟื้นฟูรักษาสภาพป่าต้นน้ำและคืนสภาพโครงสร้างของระบบนิเวศให้กับผืนป่าทั่วประเทศ รัฐบาลจึงจัดทำโครงการเพื่อให้ทุกภาคส่วนร่วมกันปลูกป่า บำรุงรักษาต้นไม้ คืนธรรมชาติให้อุดมสมบูรณ์ คืนอากาศสะอาดให้กับประชาชน ตั้งเป้าหมายปลูกป่าทั่วประเทศ 72 ล้านต้น มอบให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานหลักรับลงทะเบียน จัดหาพันธุ์กล้าไม้ รวบรวมข้อมูลการปลูกต้นไม้ของทุกหน่วยงาน องค์กร หรือกลุ่มบุคคล เพื่อใช้ประกอบการดูแลรักษาต่อไป

โครงการที่ 3 โครงการแหล่งน้ำบาดาลขนาดใหญ่ แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 72 แห่ง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรที่ประสบปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ รวมถึงเพื่อขยายผลต่อยอดจากโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จากเดิมที่ทรงรับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 47 โครงการ ครอบคลุมพื้นที่ 25 จังหวัด รัฐบาลโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงขยายขอบเขตการดำเนินโครงการเพิ่ม จำนวน 25 แห่ง รวมเป็น 72 แห่งครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ

โครงการที่ 4 โครงการ “10 คลองสวย น้ำใส คนไทยมีสุข” เพื่อสืบสานและขยายผลต่อยอดพระบรมราโชบายในการพัฒนาแม่น้ำ ลำคลองแหล่งน้ำต่างๆที่เสื่อมโทรม เพื่อสร้างความเจริญก้าวหน้าของบ้านเมือง เช่น โครงการพัฒนาคลองเปรมประชากรและพัฒนาคลองแม่ข่า ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยจัดทำโครงการพัฒนาแม่น้ำ คู คลองทั่วประเทศ เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ตั้งแต่ขุดลอกคู คลอง ปรับภูมิทัศน์และทัศนียภาพ พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนตลอดสองฝั่งคลอง ได้แก่ การจัดระเบียบที่อยู่อาศัยใหม่ ความสะอาดของทางเดิน ถนน การกำจัดขยะ การพัฒนาระบบสาธารณูปโภค การเพิ่มพื้นที่สีเขียว ระบบการระบายน้ำ นำร่องในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดอื่นๆ รวม 10 แห่ง

โครงการที่ 5 โครงการพัฒนา 72 สายน้ำอย่างยั่งยืน ด้วยรัฐบาลเล็งเห็นว่า น้ำเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับการอุปโภคและบริโภคของประชาชน ได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขุดลอกคลองและอ่างเก็บน้ำ 72 แห่ง เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการเก็บกักน้ำช่วงฤดูฝนและบริหารจัดการน้ำ แก้ปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน

โครงการที่ 6 โครงการยกระดับ รพ.สมเด็จพระยุพราช รพ.ชุมชนเฉลิมพระเกียรติ รพ.ชัยพัฒน์และหน่วยบริการปฐมภูมิ 72 แห่ง เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการและการเข้าถึงการบริการด้านสาธารณสุข ลดความแออัด ลดระยะในการรอคอยเข้ารับการบริการของประชาชน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ให้กระทรวงสาธารณสุขยกระดับการขยายบริการทางการแพทย์ ขยายศักยภาพการรักษาผู้ป่วยเฉพาะทางที่มีความซ้ำซ้อน ลดการส่งต่อผู้ป่วย ดำเนินการทั้งสิ้น 72 แห่ง แบ่งเป็น 1.การยกระดับคุณภาพการบริการของ รพ. 36 แห่ง ได้แก่ รพ.สมเด็จ พระยุพราชฯ 21 แห่ง รพ.ชุมชนเฉลิมพระเกียรติ 11 แห่ง รพ.ชัยพัฒน์ 4 แห่ง และ 2.การยกระดับการเข้าถึงบริการของประชาชน โดยจัดสร้างชุดอาคารศูนย์สุขภาพชุมชน 36 แห่งทั่วประเทศ

โครงการที่ 7 โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย เพื่อช่วยเหลือให้โอกาสแก่ประชาชนผู้ด้อยโอกาส รวมถึงผู้พิการหรือทุพพลภาพในการที่จะได้รับสิทธิขั้นพื้นฐาน ได้แก่ ที่พักอาศัย ที่ดินทำกิน สำหรับประกอบอาชีพเพื่อให้พึ่งพาตนเองได้ กระทรวงกลาโหมเสนอ 2 กิจกรรม ได้แก่ การจัดหาที่ดินในพื้นที่ของเหล่าทัพทั่วประเทศ 72,000 ไร่ จัดสรรให้ประชาชนใช้เป็นที่ทำกินหรืออยู่อาศัย โดยได้รับเอกสารสิทธิตามกฎหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างยั่งยืน การปรับปรุงซ่อมแซมบ้านพักอาศัยสำหรับคนพิการ 720 หลังและผู้ด้อยโอกาส 720 หลัง

โครงการที่ 8 โครงการบริจาคโลหิต 10,000,000 CC เพื่อเปิดโอกาสให้ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความจงรักภักดี ทำประโยชน์ในการช่วยเหลือต่อชีวิตและลมหายใจให้กับผู้อื่น เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล รัฐบาลจัดทำโครงการเพื่อรวมพลังจิตอาสาทั่วประเทศในการบริจาคโลหิต จำนวน 10 ล้าน CC มอบให้สภา กาชาดไทยใช้เป็นโลหิตสำรองแก่ผู้ป่วยใน รพ.ต่างๆ ทั่วประเทศ

โครงการที่ 9 โครงการจัดหากายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ 72,000 ชุด เพื่อช่วยเหลือผู้พิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย หรือผู้มีแนวโน้มจะเป็นคนพิการที่มีรายได้น้อยที่ประสบความเดือดร้อนเข้าไม่ถึงสิทธิและสวัสดิการ ให้กลับมาใช้ชีวิตประจำวันเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมได้อย่างเท่าเทียม ดำรงชีวิตด้วยตนเองได้อย่างอิสระ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดหากายอุปกรณ์และเครื่องช่วยความพิการ สำหรับช่วยเหลือคนพิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย ที่จำเป็นต้องได้รับอุปกรณ์สำหรับช่วยความพิการ ตามความเหมาะสมต่อสภาพความพิการของแต่ละบุคคลทั่วประเทศจำนวน 72,000 ชุด

โครงการที่ 10 โครงการ “หลอมรวมใจ มอบน้ำใสสะอาดให้โรงเรียน” เพื่อให้เด็กนักเรียนมีน้ำสะอาดในการอุปโภคบริโภค เป็นการส่งเสริมสุขภาวะที่ดี รัฐบาลจึงได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงาน เป็นการบูรณาการการดำเนินงานร่วมกันของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการปรับปรุงคุณภาพน้ำประปาในโรงเรียนทุกแห่งทั่วประเทศ ต้องมีการตรวจสอบและวิเคราะห์คุณภาพน้ำตามวิธีการมาตรฐานที่ได้รับการรับรองเพื่อให้เหมาะกับการอุปโภคและบริโภคต่อไป

นายเศรษฐากล่าวว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะลงพื้นที่ติดตามการดำเนินโครงการในนามรัฐบาลทั้ง 10 โครงการ รวมทั้งโครงการอื่นๆ ที่เข้าร่วมเฉลิมพระเกียรติ และจะร่วมทำกิจกรรมกับประชาชนให้มากที่สุด ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน องค์กร มูลนิธิ ภาคเอกชนต่างๆ ร่วมกันแสดงถึงพลังแห่งความจงรักภักดี ความสามัคคีของปวงชนชาวไทย เนื่องในโอกาสอันเป็นมหามงคลยิ่งนี้ เพราะโครงการต่างๆ จะสำเร็จลงได้ ด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน อีกทั้งภาคเอกชนที่มีส่วนช่วยสนับสนุนเพื่อการดำเนินโครงการต่างๆ บรรลุสมดังวัตถุประสงค์ เพื่อให้ประชาชนมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของพวกเราชาวไทย

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่