พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.ทส. ลุยภูเก็ต รับฟังปัญหาปะการังฟอกขาว กำชับ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หามาตรการรับมือทุกมิติ

วันที่ 9 พ.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) พร้อมด้วยร้อยเอก รชฏ พิสิฐบรรณกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน เมื่อ (8 พ.ค.) พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ปะการังฟอกขาว จากนายชิดชนก สุขมงคล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

โดยมีข้อสรุป คือ ปัจจุบันมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อนกำลังเผชิญกับปรากฏการณ์ El Niño-Southern Oscillation (ENSO) ทำให้อุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย (SST) และคาดการณ์ว่า จะเกิดปะการังฟอกขาวในประเทศไทยในช่วงระหว่างเดือนเมษายน-กรกฎาคม 2567 ระดับความรุนแรงอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ซึ่งสถานการณ์ปะการังฟอกขาวที่เกิดขึ้นในประเทศไทย พบว่า มีความรุนแรงในฝั่งอ่าวไทยมากกว่าฝั่งอันดามัน เกิดการฟอกขาวแล้วมากกว่า 50% ของพื้นที่แนวปะการังฝั่งอ่าวไทย เช่น พื้นที่เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกาะคราม จังหวัดชุมพร สำหรับในฝั่งอันดามันพบการฟอกขาว ไม่เกิน 20% ของพื้นที่ ส่วนใหญ่เกิดในบริเวณที่มีความลึกไม่เกิน 2 เมตร เช่น เกาะรอก จ.ตรัง ส่วนใหญ่จะพบว่า ปะการังมีสีซีด ซึ่งเป็นผลกระทบจากอุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่า 2 สัปดาห์ ดังนั้น กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) จึงได้หารือร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดมาตรการป้องกันและลดภัยคุกคามจากกิจกรรมการท่องเที่ยว ประมงชายฝั่ง การทิ้งขยะลงในทะเล รวมถึงการจัดทำแนวทางการป้องกันปะการังฟอกขาวให้หน่วยงานในพื้นที่ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อีกทั้งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และเข้าใจเกี่ยวกับปะการังฟอกขาวให้แก่เครือข่ายอนุรักษ์ปะการัง กลุ่มนักดำน้ำ นักท่องเที่ยว ประชาชนในพื้นที่

...

จากนั้น พล.ต.อ.พัชรวาท ได้กล่าวขอบคุณเจ้าที่ กรม ทช. ที่มีความทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจในการปฏิบัติหน้าที่ และขอเป็นกำลังใจในการทำงานของทุกๆ คน ให้ประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ พร้อมทั้งกำชับให้กรม ทช. ติดตามสถานการณ์ปะการังฟอกขาวอย่างใกล้ชิด ถ้าหากพบการเกิดปะการังฟอกขาวขั้นรุนแรง ให้ดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อบรรเทาความเครียดของปะการัง และจัดตั้งทีมประสานงานร่วมกับในพื้นที่ ให้การสนับสนุนในทุกๆ ด้าน นอกจากนี้ ตนได้มอบหมายให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พิจารณาปิดจุดดำน้ำบางแห่งที่พบปะการังฟอกขาวเป็นจำนวนมาก และให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พยายามช่วยชีวิตปะการังโดยดำเนินการตามหลักวิชาการ เช่น การลดปริมาณแสงโดยการใช้วัสดุปิดบังแสงในแนวปะการังน้ำตื้น และการย้ายปะการังบางชนิดลงไปในระดับน้ำที่ลึกมากขึ้น และที่มีอุณหภูมิน้ำต่ำกว่าปกติ เพื่อให้ปะการังได้พักฟื้นกลับคืนสู่สภาพสมบูรณ์ดังเดิมอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ตนขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หากพบเห็นการเกิดปะการังฟอกขาว สามารถแจ้งข่าวสารผ่านเว็บไซต์ https://thailandcoralbleaching.dmcr.go.th/th เพื่อทุกฝ่ายจะได้เตรียมพร้อมรับมือและลงพื้นที่ติดตาม เฝ้าระวังสถานการณ์ปะการังฟอกขาวอย่างใกล้ชิดต่อไป

ด้านร้อยเอก รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวเสริมว่า วันนี้ตนลงพื้นที่ไปยังเกาะไม้ท่อน เพื่อสำรวจสถานภาพปะการังฟอกขาว โดยพบปะการังในบริเวณน้ำตื้นมีสีซีดประมาณ 20% ในส่วนที่มีความลึกกว่า 5 เมตร พบปะการังสภาพปกติไม่มีการฟอกขาว พร้อมกันนี้ ยังได้ตรวจบริเวณแปลงปลูกฟื้นฟูปะการังที่ได้ดำเนินการระหว่างปี 2537 ถึงปัจจุบัน พบว่าปะการังแบบก้อนมีการเจริญเติบโตได้ดีใกล้เคียงกับแนวปะการังตามธรรมชาติ เมื่อผ่านไป 15 ปี และปะการังเขากวางซึ่งโตได้เร็วกว่า ใช้เวลาเพียง 3-5 ปี โดยข้อมูลที่ได้จากการลงพื้นที่สำรวจในครั้งนี้ จะนำไปใช้ในการกำหนดมาตรการบรรเทาปัญหาปะการังฟอกขาวต่อไป