“พิชัย” แอ่นอกรับหน้าเสื่อนัดถกเคลียร์ใจ “เศรษฐพุฒิ” ลั่นจะให้ไปหาถึงตึกแบงก์ชาติเลยก็ได้ บอกคุ้นเคยเป็นบอร์ดแบงก์ชาติมาก่อนคุยกันได้ ยันไม่มีแนวคิดแก้ไข พ.ร.บ.ลดอิสระ ธปท. นายกฯเห็นด้วยช่วยคุยลดความขัดแย้ง อย่างน้อยพยายามหันหน้าเข้าหากัน ถก ครม.สั่งการรัวๆขันนอตสารพัดปัญหา แบ่งงานรองนายกฯ มอบ “ภูมิธรรม” เบอร์ 1 รักษาราชการแทนนายกฯ คุมกลาโหม กระทรวงเกษตรฯ ดีอี พาณิชย์ “พิชัย” กำกับ ก.คลัง-ก.ต่างประเทศ-สำนักงบฯ “พีระพันธุ์” ดู ก.ยุติธรรม ยกเว้นดีเอสไอ- กฤษฎีกา ขณะที่ “พิชิต” คุม สลน.-สปน.-สลค. “จิราพร” คุมสื่อเบ็ดเสร็จ ดูทั้งกรมประชาสัมพันธ์-อสมท-กองทุนหมู่บ้าน “อ้วน” ปัดนั่งกำกับกลาโหม ไม่เกี่ยวสกัดรัฐประหาร โต้โชว์ชิมข้าวเก่าเก็บ 10 ปี ไม่เกี่ยวฟอกผิดคดีจำนำข้าว “ราเมศ” ท้าเอามาหุงให้ ครม.กินพิสูจน์มีคุณภาพจริง
หลังได้เข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ ทั้งที่ทำเนียบรัฐบาลและกระทรวงการคลัง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ระบุพร้อมที่จะทำหน้าที่ไปพูดคุยประสานงานกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อให้การทำงานระหว่างรัฐบาลกับ ธปท.ราบรื่นยิ่งขึ้น และยืนยันยังไม่มีแนวคิดที่จะแก้ไขกฎหมาย ธปท.
...
“พิชัย” ได้ฤกษ์เข้าทำเนียบฯ
เมื่อเวลา 07.40 น. วันที่ 7 พ.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและ รมว.คลัง เดินทางเข้าสักการะพระพรหม บนตึกไทยคู่ฟ้า ศาลพระภูมิเจ้าที่ และศาลตายาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบฯ หลังรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ จากนั้นนายพิชัยให้สัมภาษณ์ว่า เป็นวันเข้าทำงานอย่างเป็นทางการ จะเข้าทำงานทั้งสองที่ทั้งทำเนียบฯและกระทรวงการคลัง จะหารือเป็นการภายใน ทราบอยู่แล้วว่าภารกิจเร่งด่วนคืออะไร จะใช้หน้าที่และความรับผิดชอบที่มีอยู่สะสางและจัดการปัญหาที่คิดว่าจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น และดีต่อผลประโยชน์ของประเทศ จะทำอย่างสุดความสามารถ เมื่อถามว่า สัปดาห์นี้จะประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต หรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า ประเด็นนี้จะเป็นงานประจำไปแล้ว ต้องพูดคุยรายงานความคืบหน้าอยู่ตลอด เมื่อถามถึงโปรเจกต์ของรัฐบาลด้านเศรษฐกิจจากนี้จะมีอะไรหรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า ทุกคนทราบผลลัพธ์ และเห็นปัญหาเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะอยู่ในสายอาชีพใด เพียงแต่ทุกคนมองปัญหาและมีวิธีแก้ปัญหาแตกต่างกัน เราคงต้องหาข้อยุติที่ตกผลึกแล้ว และพยายามทำให้ทุกคนเข้าใจร่วมกันมากที่สุด เพื่อนำมาซึ่งแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด
รับหน้าเสื่อทำหน้าที่คุย “เศรษฐพุฒิ”
เมื่อถามว่าต้องพูดคุยปัญหากับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)หรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่ต้องพูดคุยกัน เป็นทั้งหน้าที่และความรับผิดชอบของตนร่วมกับ ธปท.ที่เราต้องทำงานร่วมกันเพื่อผลักดันให้เครื่องจักรสองเครื่องทั้งนโยบายการคลังและนโยบายการเงินสอดคล้อง เดินไปในทิศทางเดียวกัน แต่ต้องตกผลึกและทำความเข้าใจก่อนว่าปัญหาที่แท้จริงคืออะไร เมื่อถามว่าหากมีโอกาสจะพูดคุยกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท.หรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า แน่นอน เป็นหน้าที่ต้องพูดคุยอยู่แล้ว เชื่อว่าผู้ว่าการ ธปท.จะคุยด้วยข้อเท็จจริงและเหตุผล ประกอบกับในอดีตเคยสัมผัสกันอยู่แล้วบ้างในช่วงทำงานด้านการธนาคาร คิดว่าจะพูดคุยกัน และไปในทิศทางที่ใกล้เคียงกันได้ เมื่อถามถึงกระแสข่าวแก้ไขกฎหมายให้ ธปท.อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาล นายพิชัยตอบว่า เรื่องนี้มาดูกันอีกทีดีกว่าว่าใช่ปัญหาหรือไม่ กระแสต่อต้านเป็นธรรมชาติ และทุกคนต้องมีความเห็นต่าง แต่ถ้าคุยกันแล้วตกผลึกได้ เชื่อว่าความเห็นต่างจะค่อยๆแคบลงนำมาซึ่งข้อสรุปที่ดี จริงๆ ธปท.เป็นอิสระอยู่แล้วในเรื่องนโยบายการเงิน ความอิสระมีมาตลอด กำหนดและตัดสินได้ด้วยวิจารณญาณ รวมถึงคนที่เข้ามาร่วมกันตัดสินนโยบาย ทั้งหมดต้องเป็นไปเพื่อสนับสนุนนโยบายภาครัฐ เมื่อถามว่าเมื่อเข้ามาเป็น รมว.คลัง ปัญหาที่นายกฯ และพรรคเพื่อไทยพูดถึงจะหมดไปหรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า ยังไม่ขอตอบ ขอให้ได้หารือกับท่านก่อน
ควง “เผ่าภูมิ” เข้ากระทรวงคลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังร่วมประชุม ครม.เสร็จ เวลา 13.30 น. นายพิชัยและนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงการคลัง เริ่มจากศาลพระพรหม ศาลพระภูมิเจ้าที่ พระคลังในพระคลังสมบัติ อนุสาวรีย์ ร.5 และช้างคู่ ประจำกระทรวงการคลัง ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งเป็นทางการ โดยมีนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง และข้าราชการระดับสูงต้อนรับอย่างอบอุ่น
พร้อมไปจับเข่าคุยที่แบงก์ชาติ
นายพิชัยกล่าวอีกครั้งถึงกระแสความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับ ธปท.ว่า เหตุเกิดเพราะความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ดังนั้นต้องหาเวลาว่างให้ตรงกัน เพื่อพบปะพูดคุยกัน เชื่อเมื่อมีการพูดคุยว่าจะร่วมมือแก้ปัญหาประเทศร่วมกันได้ เพราะมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คืออยากเห็นประเทศชาติเจริญ ถ้าหากได้คุยกัน เชื่อว่าความเห็นต่างอาจจะค่อยๆหายไปได้ “ผมกับผู้ว่าการ ธปท.คุ้นเคยกัน เพราะเคยเป็นกรรมการ ธปท.จะให้ไปพบที่แบงก์ชาติก็ได้ เพราะตึกสวยดี ดังนั้นต้องรอนัดหมายวันว่างซึ่งกันและกัน ยังไม่ต้องรีบร้อนวันนี้ พรุ่งนี้ แต่ต้องมีการพูดคุยกัน ฟังเหตุผลของแต่ละฝ่าย”
ยันไม่มีแนวคิดแก้กฎหมาย ธปท.
นายพิชัยกล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องแนวคิดการแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขณะนี้ยังไม่มีแนวคิด เนื่องจากเป็นกฎหมายที่ดีอยู่แล้ว ประเด็นความเป็นอิสระของธนาคารกลางนั้น ความอิสระของธนาคารกลางทุกประเทศเป็นเหมือนกันหมด คือ มีอิสระในความคิด และมีอิสระในการวิเคราะห์ และมีอิสระเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ทางเลือกเหล่านั้น มีการตอบสนองความต้องการของประชาชน หรือพูดอีกอย่างว่า จะต้องตอบสนองความต้องการผู้ที่มาทำงานแทนประชาชน หรือภาครัฐ อย่างไรก็ตาม ในความอิสระ ต้องดูว่าทุกคนได้รับผลประโยชน์เท่าเทียมกันหรือไม่ ลักษณะ win-win
“อนุทิน” สะกิด ธปท.หนุนนโยบาย รบ.
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีความเป็นอิสระของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต่อการดำเนินนโยบายของรัฐบาลว่า ทุกหน่วยงานต้องมีอิสระในการทำงาน ต้องทำตามสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองและทำตามนโยบายของรัฐบาลที่เป็นนโยบายที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ชอบด้วยกฎหมาย ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศและประชาชน เมื่อถามว่าในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลยังคงสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ถ้าหมายถึงดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นที่เป็นนโยบายของรัฐบาล หากทำให้เกิดผลสำเร็จ ถูกต้องตามกฎหมายไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ หลักสำคัญของเรื่องนี้ถูกพิสูจน์ได้ด้วยการได้รับการยืนยัน จากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หรือจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตรงนี้ต้องให้การสนับสนุน
“รุ่งเรือง” แนะจับมือคุยร่วมกระตุ้น ศก.
นายรุ่งเรือง พิทยศิริ อดีตที่ปรึกษา รมว.คลัง กล่าวถึงความขัดแย้งในหลักการทำงานของรัฐบาลพรรค พท.กับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบายและอัตราเงินเฟ้อว่า ทั้ง 2 ฝ่ายมีเจตนาดีทั้งคู่ ฝ่ายหนึ่งอยากเห็นประเทศเติบโตตามเป้าหมายที่หาเสียงไว้ อีกฝ่ายอยากรักษาเสถียรภาพการเงิน ไม่ควรมาเถียงกันผ่านสื่อ กระทรวง การคลังควรพิจารณาเป้าหมายเงินเฟ้อที่ ธปท.ส่งมาให้อย่างละเอียด โดยเฉพาะเงินเฟ้อเป้าหมาย ถ้ามาเถียงกัน ธปท.จะยกว่าตัวเลขที่ต่ำกว่ากรอบด้านล่างของเป้าหมาย เพราะรวมค่าพลังงานที่รัฐบาลพยุงราคาไว้ และราคาสินค้าที่ควบคุมราคาไว้ หากปล่อยเป็นธรรมชาติ เงินเฟ้อจริงจะสูงกว่ากรอบด้านล่าง ธปท.จึงยังลดดอกเบี้ยไม่ได้ ต้องตรึงดอกเบี้ยเพื่อควบคุมหนี้ครัวเรือน จึงเสนอให้เอาเงินเฟ้อหลัก Core Inflation มาคุยกัน กำหนดเป้าหมายระยะสั้นด้วย เพราะที่ผ่านมา ธปท.ใช้เป็นเป้าหมายระยะกลาง อยากให้สาธารณะเข้าใจว่า การถกเถียงกันระหว่างรัฐบาลกับธนาคารกลางเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่การเอาชนะกัน ที่สหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีวิจารณ์ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ อยู่เหมือนกันเป็นเรื่องปกติ อยากให้เข้าใจเจตนาที่ดีของรัฐบาล หากลดดอกเบี้ยไม่ได้ตอนนี้ คุยกันให้ร่วมมือกันกระตุ้นเศรษฐกิจดีกว่า เช่น ให้ ธปท.ออก Soft Loan ดอกเบี้ยต่ำเพิ่มช่วย SMEs เพราะเคยทำมาแล้วบ่อยๆในอดีต ถ้าต่อไปเงินเฟ้อหลักต่ำกว่ากรอบจริงเชื่อว่า ธปท.คงยอมลดดอกเบี้ยแน่นอน
นายกฯนำ ครม.ถ่ายภาพหมู่
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนการประชุม ครม.เมื่อเวลา 09.30 น. นายกฯนำครม.ทั้งหมดถ่ายภาพหมู่ที่ตึกสันติไมตรีแทนหน้าตึกไทยคู่ฟ้าเพราะฝนตก โดยนายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ว่าในการประชุม ครม.จะแบ่งงานรองนายกฯและรัฐมนตรีใหม่ รวมถึงให้ รมว.ที่มี รมช.เพิ่มเติมได้แบ่งงานภายในกระทรวงด้วย จะแบ่งตามความเหมาะสม ความสามารถ เน้นย้ำไปยังรัฐมนตรีเดิมว่าใครที่มีงานค้างเกี่ยวกับงานดูแลประชาชนต้องดำเนินการต่อ ได้เน้นย้ำทุกเรื่อง โดยเฉพาะนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา หลังปรับ ครม.จุดหมายหลักจะทำให้การทำงานขับเคลื่อนไปได้ดี แต่ไม่ได้หมายความว่าอันเก่าขับเคลื่อนไม่ได้
ขอความเป็นธรรมบางนโยบายค่อยๆคืบ
“ช่วง 8-9 เดือนที่ผ่านมาความต้องการในภาคส่วนต่างๆ ที่ต่างกัน อย่างในรัฐสภามีการเสริมแกร่งให้ฝ่ายนิติบัญญัติ จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนเป็นธรรมดา อยากขอความยุติธรรมด้วยว่ามีหลายนโยบายที่ต้องค่อยเป็นค่อยไป เช่น การลงทุน ปากท้องประชาชน สิทธิเสรีภาพ การเลือกเพศสภาพ เหล่านี้ที่เริ่มต้นทำไปแล้ว เมื่อถามว่า จะกำหนด KPI รัฐมนตรีใหม่หรือไม่ว่าต้องเห็นผลงานภายในกี่เดือน นายเศรษฐากล่าวว่า ต้องพูดคุยกันว่าบางเรื่องต้องเสร็จเมื่อไหร่ บางเรื่องเราพูดถึงสิ่งที่อยากเห็นได้ แต่พอถึงเวลามีตัวแปรอื่นที่ไม่สามารถควบคุมได้ KPI เหล่านี้ปรับเปลี่ยนได้ มั่นใจ ครม.ชุดใหม่ให้ความสำคัญกับปัญหาประชาชน” นายกฯกล่าว
ลุยต่อหลังผลคะแนนยังไม่เต็มสิบ
เมื่อถามว่า 6-7 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลมีจุดอ่อนและต้องเติมเต็มตรงไหน นายเศรษฐากล่าวว่า ปัญหามันเยอะเหลือเกิน สะสมมาเยอะทุกด้าน เศรษฐกิจ ปากท้องประชาชน ยังมีเรื่องที่ต้องการความช่วยเหลืออยู่อีก เมื่อถามถึงผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนต่อผลงานรัฐบาลในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ยังให้คะแนนเพียง 6-7 คะแนน นายเศรษฐากล่าวว่า ถือเป็นเสียงสะท้อนอย่างหนึ่งจากประชาชน จะได้กี่ 6 7 5 4 หรือ 9 คะแนน ยังไม่เต็มสิบอยู่ดี การพยายามทำงานต่อไปถือเป็นเรื่องสำคัญ ส่วนระบบราชการคิดว่าไม่มีปัญหา ได้พูดคุยเอาเนื้องานเป็นหลัก เชื่อว่าทุกกระทรวง ทบวง กรม มีส่วนผลักดันนโยบายรัฐบาลอยู่แล้ว
เห็นด้วย “พิชัย” คุยเคลียร์ผู้ว่าการ ธปท.
เมื่อถามว่านายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและ รมว.คลัง ระบุจะพูดคุยกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท.สบายใจขึ้นหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ทุกการเคลื่อนไหวที่ทำให้มีการลดความขัดแย้ง เป็นเรื่องที่เหมาะสม เป็นเรื่องที่สมควรจะทำ ผู้สื่อข่าวถามว่า นายพิชัยจะทำให้ธปท.ตอบสนองนโยบายรัฐบาลได้หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า มั่นใจว่าอย่างน้อยทั้งสองฝ่ายมีความพยายามที่จะหันหน้าเข้าหากัน
อย่ามองให้พรรคร่วมยึดกระทรวง
จากนั้นเวลา 11.30 น. หลังการประชุม ครม.นายเศรษฐากล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าได้พบ ครม.กันก่อนถ่ายรูปหมู่ ได้ขอบคุณ ครม.ชุดเก่าที่ทำงานกันอย่างเคร่งครัด และรัฐมนตรีใหม่ขอให้ไปดูนโยบายและโครงการต่างๆที่รัฐมนตรีเก่าทำไว้ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และให้เริ่มดำเนินการต่อไปอย่างเคร่งครัด ไม่ได้พูดคุยอะไรไปมากกว่านี้ เมื่อถามว่าดูเหมือนครม.ชุดใหม่นี้ แบ่งงานให้พรรคร่วมรัฐบาลยึดกระทรวง เช่น กระทรวงเกษตรฯ นายเศรษฐาร้องโอ๊ยก่อนกล่าวว่า อย่าไปมองอย่างนั้นเลย ไม่ใช่แบบนั้น เรามองที่ผลงานเป็นหลักมากกว่า ไม่ได้เป็นการยึดกระทรวงหรืออะไร วันนี้เราทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน อย่าไปมองว่าเป็นการยึดกระทรวงหรือยึดอำนาจ ถือเป็นการบริหารจัดการการทำงานร่วมกัน เชื่อว่าอะไรที่เราบริหารจัดการได้ ลดภาระพี่น้องประชาชน หรือการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ถือเป็นจุดมุ่งหมายหลักและเป็นแนวทางการทำงานร่วมกัน
อู้อี้ยังไม่เห็นร่าง พ.ร.บ.สกัดรัฐประหาร
เมื่อถามถึงการเสนอแก้ร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงราชการกระทรวงกลาโหม สกัดกั้นการรัฐประหาร นายกฯกล่าวว่า ไม่ได้พูดคุยกับ รมว.กลาโหมเลย แต่หากเจอกันคงได้พูดคุย ยืนยันยังไม่เห็นร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เมื่อถามว่า จุดยืนนายกฯพร้อมสนับสนุนการแก้ไขร่างกฎหมายดังกล่าวเพื่อสกัดกั้นการรัฐประหารใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า อะไรที่ไม่ใช่เป็นการกระทำที่ไปสกัดกั้นการส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตย ตนสนับสนุนเต็มที่ แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดร่างกฎหมายดังกล่าวจากนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ที่มีข่าวจะให้อำนาจนายกฯขอความเห็นชอบจาก ครม.เพื่อสกัดกั้น เมื่อเสนอเข้ามาจะขอดูรายละเอียดก่อน เมื่อถามว่าจะไม่ไปกระตุกต่อมกองทัพใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่ทราบเลย ยังไม่เห็นรายละเอียด แต่เชื่อว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับกองทัพ กองทัพเองตั้งใจดีในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เมื่อถามย้ำว่า เท่าที่สัมผัส ผบ.เหล่าทัพ เป็นทหารที่มีแนวคิดรุ่นใหม่ เปิดกว้างยอมรับการร่างกฎหมายสกัดกั้นการรัฐประหารหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไม่แน่ใจรุ่นใหม่รุ่นเก่าคืออะไร แต่เชื่อว่า ผบ.เหล่าทัพทั้ง 4 เหล่าทัพและปลัดกระทรวงกลาโหมที่พูดคุยกันตลอดมา เชื่อทุกท่านฟังเสียงพี่น้องประชาชนเป็นหลัก
สั่งหน่วยงานขันนอตสารพัดปัญหา
นายเศรษฐากล่าวอีกว่า ได้ขอความร่วมมือหน่วยงานด้านความมั่นคง เตรียมช่วยเหลือประชาชนช่วงมีพายุฤดูร้อน ภัยแล้ง เร่งขุดลอกคูคลอง จัดสรรพื้นที่ทหารให้ประชาชนใช้ประโยชน์ และบำบัดผู้ติดยาเสพติด ให้ ผวจ.และตำรวจจัดการปัญหายาเสพติดเด็ดขาด เร่งรัดกระทรวง พม.พิจารณาข้อเสนอสมัชชาเด็กและเยาวชนแห่งชาติประจำปี 66 ที่ให้เฝ้าระวังป้องกันช่วยเหลือเด็กและเยาวชน ที่ถูกใช้ความรุนแรงในครอบครัว และในสถานศึกษา และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) บังคับกฎหมายอย่างเด็ดขาด ให้เร่งวางแผนจัดตั้งศูนย์บริการการค้าชายแดนเบ็ดเสร็จ หรือวันสต็อปเซอร์วิส บริการประชาชนและผู้ประกอบการ เพื่อเปิดบริการเต็มรูปแบบทุกด่านหลักวันที่ 1 ต.ค.ให้กระทรวงอุตสาห กรรมเร่งแก้ปัญหาออกใบอนุญาตโรงงาน (รง.4) ที่ล่าช้าค้างอยู่ในระบบกว่า 200 ใบ ให้แล้วเสร็จใน 30 วัน เพื่อที่เอกชนได้ไปสร้างโรงงาน สร้างงาน สร้างอาชีพ ทำให้เศรษฐกิจเจริญเติบโตและสั่งให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เร่งวางแผนการท่องเที่ยวไตรมาส 4 เต็มรูปแบบเพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจ อีกทั้ง ครม.ยังมีมติขยายเวลาการยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวให้ชาวอินเดียและไต้หวันออกไปถึงวันที่ 11 พ.ย.
ยก “อ้วน” เบอร์ 1 รักษาราชการแทน
น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุม ครม.รับทราบคำสั่งสำนักนายกฯ เรื่องมอบหมายให้รองนายกฯรักษาราชการแทนนายกฯและมอบหมาย และมอบอำนาจให้รองนายกฯ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ปฏิบัติราชการแทนนายกฯ กรณีรองนายกฯและรมต.ประจำสำนักนายกฯไม่อยู่ หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้หรือไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง โดยกรณีนายกฯไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ครม.มอบหมายให้รองนายกฯเป็นผู้รักษาราชการแทน ตามลำดับ ดังนี้ 1.นายภูมิธรรม เวชยชัย 2.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ 3.นายพิชัย ชุณหวชิร 4.นายอนุทิน ชาญวีรกูล 5.พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ 6.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค โดยมอบหมายและมอบอำนาจให้นายภูมิธรรม ดูแลกระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานปลัดสำนักนายกฯ สำนักเลขาธิการครม.กรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กำกับบริหารราชการสั่งปฏิบัติราชการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ
“สุริยะ” คุมงานใหญ่จับทุจริตภาครัฐ
น.ส.เกณิกากล่าวอีกว่า นายสุริยะ ดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานราชบัณฑิตยสภา กำกับบริหารราชการสั่งปฏิบัติราชการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ส่วนนายพิชัย ดูแลกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงบประมาณ
“น้ำ” คุมกรมประชาสัมพันธ์-อสมท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รองนายกฯคนอื่นทั้ง นายอนุทิน ดูแลกระทรวงในโควตา รมต.ของพรรคภูมิใจไทยที่ได้เป็นรัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาท ดูแลกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ รวมถึงกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โควตาของพรรคชาติไทยพัฒนา ส่วนนายพีระพันธุ์ ดูแลกระทรวงโควตาของพรรครวมไทยสร้างชาติแล้ว ยังดูแลสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและกระทรวงยุติธรรม ยกเว้นกรมสอบสวนคดีพิเศษที่มี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ดูแลเอง ส่วนนายพิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนายกฯ ดูสำนักงานปลัดสำนักนายกฯ สำนักเลขาธิการ ครม. สำนักงานเลขาธิการนายกฯ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานราชบัณฑิตยสภา และสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกฯ ดูกรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค บมจ.อสมท และสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ นายจักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกฯ ถูกมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ เช่น เป็นรองประธานกรรมการในคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ กรรมการในคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ
“กิตติกร โล่ห์สุนทร” นั่งเลขาฯ รมว.สธ.
น.ส.เกณิกากล่าวต่อว่า ที่ประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งข้าราชการการเมืองในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ดังนี้ 1.นายวิชัย ไชยมงคล เป็นที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข 2.พล.ร.ท.นิกร เพชรวีระกุล เป็นที่ปรึกษา รมช.สาธารณสุข 3.นายกิตติกร โล่ห์สุนทร เป็นเลขานุการ รมว.สาธารณสุข และ4.นางจินตรา หมีทอง ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.สาธารณสุข และ ครม.ยังมีมติอนุมัติตามที่ รมว.มหาดไทยเสนอแต่งตั้ง 1.นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ ผวจ.สกลนคร มาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง 2.นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงเป็น ผวจ.สกลนคร ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นต้นไป
“ภูมิธรรม” ปัดดู กห.ป้องกันยึดอำนาจ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงการได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลกระทรวงกลาโหมว่า นายกฯดูภาพรวมใหญ่อยู่แล้ว ตนดูคณะกรรมการต่างๆที่เกี่ยวพันอยู่แล้ว ไม่ได้หนักใจอะไร เพราะผู้นำเหล่าทัพมีศักยภาพดูแลอยู่แล้ว เราเป็นนักบริหารทำหน้าที่ประสานงานและสนับสนุนให้เกิดการแก้ปัญหาที่ดีขึ้น ตนเป็นคนทำงานกับทุกคนได้ การเป็นนักการเมือง รัฐมนตรี คือนักบริหารต้องดูแลได้ทุกกระทรวง เมื่อถามว่ามีข้อสังเกตที่ให้ดูกระทรวงกลาโหม เพื่อสกัดการรัฐประหาร นายภูมิธรรมหัวเราะก่อนตอบว่า “ผมโดนจี้ โดนอะไรไป แต่ตอนนี้คงไม่ต้องพูดเรื่องรัฐประหารแล้ว เราเป็นรัฐบาลพลเรือนที่ทำงานกับทุกฝ่าย เชื่อว่าทำงานกับฝ่ายทหารได้ ท่านก็รักประเทศชาติเหมือนกัน เราทำงานร่วมกันไม่น่ามีปัญหาอะไร”
ขายข้าวรัฐไม่เกี่ยวฟอกคดีรับจำนำ
นายภูมิธรรมยังกล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ได้พาสื่อมวลชนและผู้ส่งออกลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ ตรวจสอบข้าวจากโครงการจำนำในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลังทดลองทานข้าวไม่ได้เสียชิมแล้วไม่มีกลิ่นหืน ความหอมอาจลดลงไม่เหมือนข้าวใหม่ แต่ความนุ่นนวลไม่มีปัญหาอะไร ไม่ได้บังคับใครจะทาน จะซื้อหรือไม่ก็ได้ หลังตรวจสอบผู้ประมูลไปหาโรงสีหรือปรับปรุงคุณภาพข้าวให้ดี เราพยายามทำให้เรื่องราวต่างๆของประเทศจบลงด้วยดี และนำเงินกลับเข้าประเทศได้ อย่างน้อยถ้าประมูลได้ราคามาตรฐาน 17-18 บาท จะมีรายได้เข้ามาถึง 200-400 ล้านบาท เมื่อถามว่าจะส่งผลต่อการรื้อฟื้นคดีโครงการจำนำข้าวมาพิจารณาใหม่หรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า เรื่องนั้นไม่ใช่เป้าหมายของตน มีหน้าที่ขนข้าวในคลังออกไปขาย ดีกว่าปล่อยให้เน่าเสียกว่า 150,000 กระสอบ ถ้าปล่อยไปเรื่อยๆจะขายไม่ได้ อยากให้เรื่องนี้ปิดตำนานไปเสีย ส่วนทางคดีจะเป็นอย่างไรไม่ใช่ภารกิจตน ใครมีส่วนเกี่ยวข้องว่ากันไป โรงเก็บข้าวเมื่อเคลียร์เรียบร้อยจะได้เงินประกันคืนสมเหตุสมผล หากที่ประชุม ครม.หารือกันจนสิ้นสงสัยจะเร่งประมูลภายในเดือน พ.ค.หรืออย่างช้าไม่เกินเดือน มิ.ย. อยากให้มันจบ จะได้ไปทำเรื่องอื่นต่อ ไม่อยากให้เกิดดราม่า เอาจินตนาการมาชี้นำความจริง
เด็ก พท.เชียร์เร่งระบายข้าวค้างสต๊อก
นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.กล่าวว่า ในฐานะคนสุรินทร์ สนับสนุนให้รัฐบาลเร่งระบายข้าวคุณภาพดี ที่มีการจัดเก็บไว้ที่โกดังข้าว จ.สุรินทร์ ทั้ง 2 แห่ง รวม 1.5 แสนกระสอบ จะเกิดประโยชน์แก่ทุกกลุ่ม ทั้งเจ้าของคลังสินค้าที่เก็บรักษาแทนรัฐให้ได้รับค่าตอบแทนกลับไปขับเคลื่อนธุรกิจต่อ รัฐบาลมีรายได้จากการประมูลขาย และความคลางแคลงใจในโครงการจำนำข้าวจะได้รับการคลี่คลายชัดเจน โครงการจำนำข้าว เป็นนโยบายที่เกษตรกรระลึกถึงมาตลอดช่วยรักษาระดับราคาตลาด รัฐช่วยเก็บไว้แล้วระบายออกในช่วงนอกฤดูทำให้มีราคา เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา เกิดการถกเถียงในสังคมว่า ข้าวดีถูกตีเป็นข้าวเน่าแต่ข้าวยังกินได้ แม้จะไม่สมบูรณ์ 100% เหมือนวันแรก แต่ยังสามารถสร้างมูลค่าหาเงินเข้าประเทศได้ หากข้าวถูกขายไปในตอนนั้น ราคาคงดีกว่านี้สร้างรายได้ให้ประเทศมากกว่านี้
“ราเมศ” ท้าให้เอามาหุงให้ ครม.กิน
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ยืนยันข้าวในโครงการรับจำนำข้าวที่เก็บนาน 10 ปียังทานได้ว่า คงไม่มีใครขัดข้องถ้าข้าวที่เก็บไว้ในโกดังยังมีคุณภาพดี หุงได้ กินได้ แต่ดูจากข้อเท็จจริงแล้ว เจ้าหน้าที่นำข้าวไปซาว 13-15 น้ำก่อนหุง มีมอดลอยน้ำอยู่จำนวนมาก แสดงว่าข้าวไม่ได้คุณภาพ นายภูมิธรรมควรเอาข้าวดังกล่าวไปหุงให้ ครม.กินกันในที่ประชุม ครม.ทุกวันอังคาร แต่ต้องแนะนำแม่บ้านที่หุงข้าวอย่าล้างน้ำซาวข้าวหลายครั้ง ถ้ามากกว่า 3 ครั้ง อาจสูญเสียสารอาหารและกลิ่นหอมได้ จะสร้างความเชื่อมั่นและประหยัดค่าใช้จ่ายได้ กระบวนการตรวจคุณภาพข้าวมีหลายหน่วยงานช่วยกันได้ เพื่อให้มั่นใจว่าบริโภคได้แน่ การตักข้าวใส่ปากกินโชว์ ไม่ใช่มาตรฐานการตรวจวัดคุณภาพข้าว กินข้าวโชว์ไม่สามารถลบล้างเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวได้แม้แต่บรรทัดเดียว
แซะไม่เลิกนายกฯเน้นแต่อีเวนต์
นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ รองโฆษกและ สส.พัทลุง พรรค ปชป.กล่าวถึงการบริหารงานของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ว่า เน้นใช้ปากทำงานมากกว่าบริหารงาน ชอบตำหนิลูกน้องในที่สาธารณะโชว์สื่อปกปิดปมด้อยทางอำนาจของตัวเอง นานวันเข้าจะยิ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และการทำงานคงไม่มีใครอยากร่วมงานด้วย น่าสังเกตว่านายกฯเคยมีการสั่งการข้อราชการต่อหน้ากล้องทีวีมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่ตำหนิอธิบดีดีเอสไอ แม้แต่การเซ็นรับรอง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ช่วงลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ หลายครั้งเป็นลักษณะออกอีเวนต์ แต่ไม่มีการสั่งราชการจึงไม่เกิดมรรคผลในการแก้ปัญหา
“เพชร” ยุให้ไปตามจับพวกกุเรื่องใส่ร้าย
นายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรค ก.ก.โพสต์ผ่าน X ระบุว่า ข้าวเน่าไม่เน่าพิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ รัฐมนตรีทานให้ดูไปแล้วส่วนหนึ่ง ต่อจากนี้อยากเห็นรัฐบาลที่เคยถูกรังแกถูกใส่ร้ายเรื่องข้าวเน่าจนเสียหายมาเป็น 10 ปีไปตามจับคนที่มีส่วนในการโกหกเรื่องข้าวเน่ามารับโทษตามกระบวนการยุติธรรม แม้ว่าอาจมีผู้ต้องสงสัยหลายคนเป็นรัฐมนตรี และ สส.พรรคร่วมรัฐบาลในตอนนี้ เพื่อยืนยันว่าเราไม่อาจยอมให้เกิดการทำลายทางการเมืองด้วยการใส่ร้ายและยัดคดีที่ไม่มีมูลความจริงอีกต่อไป หวังว่านายกฯ และพรรค พท.จะมีความกล้าขุดคุ้ยอย่างจริงจัง เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ตามที่เคยพยายามบอกสังคม และเพื่อเป็นประโยชน์แก่ประชาชนที่ถูกดำเนินคดีโดยมิชอบ และบุคคลทั่วไปในการตีแผ่กลุ่มผู้มีอำนาจที่ทำตัวอยู่เหนือกฎหมายตลอดมา ให้สังคมไทยได้กลับเข้าสู่เส้นทางประชาธิปไตยอย่างแท้จริงเสียที
ฝ่ายค้านขอ 3 วันถกงบฯ 68 วาระแรก
ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า อยู่ระหว่างประสานงานวิปรัฐบาลนัดประชุมเตรียมความพร้อมเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ ทราบว่าจะเปิดประชุมช่วงสัปดาห์ที่ 3 เดือน มิ.ย. พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 68 กรอบเวลาที่เหมาะสมกับการพิจารณาวาระแรกคือ 3 วัน เหมือนที่เคยพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2567 การจัดทำงบฯ ของรัฐบาลครั้งนี้ ทำงบฯด้วยตนเอง 100% เนื้อหาจะเข้มข้นมากขึ้น ส่วนการพิจารณาแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ฝ่ายค้านยื่นร่างแก้ไขต่อสภาฯแล้ว รอการตอบสนองจากฝั่งรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร หากรัฐบาลต้องการมีกฎหมายประชามติเพื่อบังคับใช้การทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ คงต้องพิจารณาช่วงสมัยประชุมวิสามัญ ส่วนที่รัฐบาลเตรียมส่งร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ประกบฉบับที่ฝ่ายค้านเสนอ เป็นบทพิสูจน์ความจริงใจรัฐบาล หลัง ครม.เสนอให้ดำเนินการประชามติแล้ว ถ้าคิดว่ากฎหมายประชามติปัจจุบันเป็นอุปสรรค รัฐบาลควรเร่งดำเนินการ
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่