"ภูมิธรรม" รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ เผย ยังไม่ได้แบ่งผู้ช่วย มั่นใจ ทำงานราบรื่น แม้มาจาก 3 พรรค เชื่อ ทุกคนมีความสามารถ ด้าน "สุชาติ" รับลูกดีใจทำงานกับ "ภูมิธรรม" ย้ำ พาณิชย์ให้ความสำคัญแก้สินค้าแพง จ่อ ชง ครม.อุ้มราคามันสำปะหลัง วันนี้!

วันที่ 7 พ.ค. 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ พร้อมด้วยนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์หลังหมู่คณะรัฐมนตรี เศรษฐา 1/1 โดยกล่าวถึง กรณีเรื่องแบ่งงานในกระทรวงยังไม่ได้คุยกัน แต่ความสามารถของนายสุชาติ ที่เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานมาก่อน จะมีงานในกระทรวงพาณิชย์ไหนที่สอดรับกับแนวการทำงานเดิม เห็นว่า ความสามารถในการบริหารราชการแผ่นดินเป็นความสามารถกลาง ทุกคนที่มีศักยภาพเรื่องนี้สามารถทำได้ทุกกระทรวง ส่วนรายละเอียดนั้น ต้องพึ่งพาข้าราชการประจำ มาทำงานร่วมกันและปรึกษาหารือร่วมกัน เรื่องงานตนไม่อยากแบ่งอย่างเดียว แต่จะมีการหารือทั้ง 3 คน ที่ดูว่าใครมีศักยภาพตรงไหน แต่เชื้อว่าการทำงานเป็นทีม สามารถพัฒนางานในกระทรวงได้อย่างดี เราคือทีมกระทรวงพาณิชย์ ไม่ใช่พรรคใดพรรคหนึ่ง ยืนยันรัฐมนตรี 3 พรรคประสานงานได้ไม่มีปัญหา ซึ่งคุยกันได้ทุกคน ยืนยัน 3 คนทำงานร่วมกันได้แน่นอน

ในระหว่างสัมภาษณ์ นายสุชาติพูดเสริมว่าดีใจที่ได้ทำงานกับนายภูมิธรรม ขณะที่นายภูมิธรรมพูดต่อว่าตนเองดีใจที่ได้คนเก่งทั้ง 2 คน ทั้งนายสุชาติ ชมกลิ่น และนายนภินทร ศรีสรรพางค์

ต่อมา นายสุชาติกล่าวต่อว่า จะเริ่มทำงานตามนโยบายของนายภูมิธรรม และรัฐบาล

ส่วนกรณีราคาสินค้าเริ่มปรับขึ้นราคา หลังปรับคณะรัฐมนตรีแล้ว กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการ อย่างไร นายภูมิธรรม ระบุว่า คาสินค้าแพงเป็นไปตามกระบวนการ ซึ่งต้องยอมรับความจริง แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะละเลย ทุกสินค้ามีความจำเป็น ขึ้นอยู่กับต้นทุน ถ้าจัดการต้นทุนได้ ขายสิ่งที่เกินต้นทุนก็จะมีปัญหา ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ยึดหลัก สมดุลอยู่แล้ว และดูแลคนตัวเล็ก หากคนตัวเล็กได้รับผลกระทบไม่ว่าจะเป็นสินค้าใด กระทรวงพาณิชย์ต้องจัดการ การจัดการสินค้าแพงต้องเกิดจากความร่วมมือทุกฝ่าย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ประชุมกับทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องทั้งผู้ผลิต ผู้ค้า แต่บางสินค้าเป็นการปรับขึ้นตามฤดูกาล เมื่อปรับขึ้นตามฤดูกาลก็อย่าให้เกินต้นทุน ส่วนอะไรที่เกินต้นทุนกระทรวงจะเข้าไปดูแล เชื่อว่าเรื่องนี้ไม่น่ามีปัญหา ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูกาลที่กระทรวงรับมาทั้งหมด เช่น ราคามันสำปะหลังที่กระทรวงก็รับไป ตอนนี้เหลือ 15-20% หรือประมาณ 6,500 ครอบครัว ซึ่งกำลังดูว่าจะช่วยเหลืออย่างไรไม่ให้ราคาตก เพราะก่อนหน้านี้เผชิญกับภัยแล้งและโรคใบด่าง จึงทำให้มันสำปะหลังไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งรัฐบาลจะเข้าไปดูแลในช่วง 6 เดือนนี้ และวันนี้จะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม หากรัฐบาลช่วยเงินได้ดอกเบี้ยร้อยละ 3.5 หรือคนละครึ่ง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเกษตรกร ถ้าต้นทุนสินค้าดีขึ้น ทุกอย่างก็จะดี ส่วนสินค้าอื่น ต้องดูประเภทสินค้า อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ต้องดูแลต้นทุนสินค้า และจะแก้ราคาสินค้าแพงต่อไป

...