นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซฯ ถึงกกต.ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับ สว.5 ข้อ ย้ำ เจตนา รธน.ต้องการให้ สว.เป็นกลาง ไม่อยู่ภายใต้อาณัติของพรรคการเมือง และไม่ถูกแทรกแซงจากพรรคการเมือง 

วันที่ 3 พ.ค. นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซฯ วรงค์ เดชกิจวิกรม - Warong Dechgitvigrom ถึงกกต.ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับ สว.5 ข้อ ย้ำ เจตนา รธน.ต้องการให้ สว.เป็นกลาง ไม่อยู่ภายใต้อาณัติของพรรคการเมือง และไม่ถูกแทรกแซงจากพรรคการเมือง

#เสนอแนะกกตเกี่ยวกับสว

สิ่งที่กกต.ต้องตระหนักในการเลือกสว. เพราะเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ต้องการให้สว.เป็นกลางทางการเมือง ไม่อยู่ภายใต้อาณัติของพรรคการเมือง ที่สำคัญคือต้องไม่ถูกแทรกแซงจากนักการเมือง เพราะ สว.จะมีบทบาทสำคัญ ในการสร้างระบบตรวจสอบถ่วงดุล แก้รัฐธรรมนูญ กลั่นกรองกฎหมาย ตรวจสอบรัฐบาล เห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระ และศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของระบอบประชาธิปไตย


การที่นักการเมือง พากันออกมาโวยวาย ขอให้ท่านยึดหลักการ ขอให้เอาความผิดพลาด ตอนเลือกสส.มาเป็นบทเรียน โดยเฉพาะ

1. บางคนเป็นกลุ่มการเมือง แต่เคยขึ้นเวทีหาเสียงให้พรรคการเมือง แบบนี้ก็ไม่ต่างจากเป็นตัวแทนพรรคการเมือง การรณรงค์การเลือกสว.ต้องไม่ให้พรรคการเมือง หรือตัวแทนมาเกี่ยวข้อง

2. ท่านต้องไม่ลืมว่า ไอลอว์ คือ ngo ที่รับเงินจากต่างชาติ เราไม่ควรให้องค์กรเหล่านี้มายุ่งกับการเลือกสว. ซึ่งเป็นระบบการเมืองของประเทศ และผมก็เชื่อว่าไม่มีประเทศไหนในโลก ที่ปล่อยให้รับเงินต่างชาติ มารณรงค์ แทรกแซงการเลือกตั้งทั้งสส.และสว. ในประเทศตนเอง

...

3. กกต.ต้องทำงานเชิงรุก ในการสร้างระบบการเลือกสว.ที่สุจริต เที่ยงธรรม เท่าเทียม ท่านลองส่งคนไปคุยจะรู้ว่า พรรคการเมืองขยับกันแล้ว

4. ท่านต้องยอมรับว่า สื่อบางสำนักมีเจ้าของ เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่บางพรรค และผู้สมัครบางคน ดังนั้นการจัดกิจกรรมของสื่อ อย่าให้แฝงเอาเปรียบทางการเมือง เหมือนตอนเลือกสส.

5. การจัดทำเว็บ ดังเช่น senate67.com มีความเสี่ยงสูงมาก ที่จะนำไปสู่การฮั้ว ต้องขอบคุณ กกต.ที่จัดการเสียก่อน และต้องไม่ให้เกิดการรวบรวมข้อมูลบุคคล จุดยืนทางการเมือง มาเผยแพร่ เพราะสว.ทุกคนต้องเป็นกลางทางการเมือง และการรวบรวมข้อมูลดังกล่าว มีความเสี่ยงการฮั้วเกิดขึ้น