"ณัฐชา" สส.ก้าวไกล ฉะ "ทักษิณ" ชิลภูเก็ตเกินงาม กระตุก พักโทษอยู่ ไม่ใช่พักผ่อน อย่าทำให้ประชาชนสับสน-กรมราชทัณฑ์ หนักใจ แซว มีนายกฯ กี่คน ครม.สัญจรกี่ที่ โอกาสสูง “ปู” กลับไทย จี้ สอบเชิงลึกไฟไหม้โกดังสารเคมีซ้ำซาก

เมื่อเวลา 10.35 น. วันที่ 2 เม.ย. ที่รัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม.พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เดินชิล พบนักท่องเที่ยวที่ถนนบางลา ป่าตอง และไปเยี่ยมผู้ประกอบการท่องเที่ยว ที่สวนน้ำอันดามันดา ว่า เห็นอดีตนายกฯ ทักษิณ เยือนภูเก็ตก็เข้าใจได้ว่าคงไปพักผ่อน พักเหนื่อย หลังจากข่าวการปรับ ครม. ที่ชุลมุนวุ่นวาย ดำเนินการเสร็จสิ้นลงเรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากนี้คงน่าจะเป็นหน้าที่นายกฯ ในทำเนียบ ทำงานรับสถานการณ์กันต่อไป ทั้งนี้ การเดินทางของนายทักษิณ พร้อมคณะผู้ติดตามมากมาย ออกตรวจเยี่ยมโครงการหรือสถานที่ต่างๆ ดูจะชิล และเอิกเกริกเกินงาม จะไม่มีใครว่าเลยหากท่านเดินทางไปพักผ่อนแบบส่วนตัว เงียบๆ ไม่กระทบประชาชน และความรู้สึกของคนที่เคยต่อสู้เพื่อความยุติธรรมมาโดยตลอด อยากแนะนำให้ท่านตระหนักถึงสถานะว่า การพักโทษ และ การพ้นโทษ ถึงแม้จะเขียนใกล้เคียงกัน แต่ความหมายต่างกันมาก ขณะนี้ท่านอยู่ระหว่างการพักโทษ การกระทำหลายๆ อย่างของท่านทำให้ประชาชนสับสน ตั้งคำถามจำนวนมาก อย่าสร้างความหนักใจให้กรมราชทัณฑ์ไปมากกว่านี้เลย

นายณัฐชา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร เดินสายไป จ.ภูเก็ต และเตรียมลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา ต่อจากนี้ ว่า ยิ่งลงพื้นที่เยอะ เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ประชาชนสามารถคิดไปได้ว่าเป็นการเดินสายแข่งกับ ครม.สัญจร แต่อันนี้เป็นอะไรสัญจร ก็ให้ประชาชนได้ตั้งคำถาม ถึงข่าวสารมีการนำเสนอ อดีตนายกฯ มากกว่า นายกฯ ปัจจุบันเสียอีก และเป็นการแสดงสัญลักษณ์อย่างหนึ่งว่า วันนี้เมื่ออยู่ข้างผู้มีอำนาจแล้ว สามารถดำเนินการ หรือสามารถทำได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งการที่ทำให้สังคมตั้งคำถามว่า วันนี้เรามีนายกฯ กี่คน และเรามี ครม.สัญจรกี่ที่ แล้วแนวทางการแก้ปัญหาหากตรงกัน สอดรับกัน ไม่มีปัญหา แต่ถ้ามันขัดกัน ค้านกันเมื่อไหร่ อันนี้จะส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาล

เมื่อถามถึงกระบวนการยุติธรรมหลังจากนี้ และถามถึงข่าวการเดินทางกลับไทยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า การกลับมาแล้ว จะมีรูปแบบการดำเนินงานแบบเดิม จะมีพฤติกรรมแบบเดิม อย่างไร อันนี้ ตนคิดว่า คนที่น่าหนักใจที่สุดคือ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ คนปัจจุบัน ตนคิดว่าแย่งกันทำงานไม่ผิด แต่ถ้าแย่งกันทำงานไปคนละทิศละทางอันนี้ผิด จะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลไม่มีเสถียรภาพเลย และจะสร้างความอึดอัดให้พรรคร่วมรัฐบาลด้วย

เมื่อถามว่า โอกาสเป็นไปได้หรือไม่ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะกลับมา นายณัฐชา ตอบว่า จากสัญญาณต่างๆ ที่ทางผู้มีอำนาจดำเนินการและเกมรุกคืบของพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ตนว่าการกลับมาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นไปได้สูง

เมื่อถามถึงเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีที่ อ.ภาชี จ.อยุธยา และเชื่อมโยงเหตุการณ์ไฟไหม้ที่อื่นๆ แบบซ้ำซาก ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมโรงงานอุตสาหกรรม อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ควรจะลงรายละเอียดเชิงลึก ไปถึงขนาดว่า วันนี้เจ้าของเดียวกัน บริษัทในเครือบริษัทเดียวกันที่อยู่ในหลายจังหวัด มีพฤติกรรมในการแก้ปัญหาแบบเดียวกันทั้งหมดหรือไม่ ถ้ามีการแก้ปัญหาในทิศทางเดียวกัน หรือจุดจบอยู่ที่เพลิงไหม้ตลอดทุกครั้ง อันนี้ตนว่าต้องหาความจริงให้ประชาชนให้ได้ ไม่อย่างนั้น กลุ่มทุนนายทุน ก็จะแก้ปัญหาแบบเอารัดเอาเปรียบสังคมอย่างนี้ทุกครั้ง

นายณัฐชา กล่าวถึงกรณี อธิบดีกรมโรงงานลาออก ว่า ถ้าต่างชาติเกิดเหตุอะไรขึ้น ก่อนจะรับผิดชอบโดยการลาออก จะมีการแก้ไขปัญหาให้เรียบร้อยก่อนจนสุดความสามารถ วันนี้พอเกิดเหตุปุ๊บออกปั๊บ มันเหมือนลอยแพลูกน้อง โดยทิศทางการแก้ปัญหายังไม่รู้เลยว่าจะไปทางไหน ซึ่งคนระดับอธิบดีไม่น่าลาออกง่ายๆ แต่การลาออกครั้งนี้คิดว่า น่าจะมีแรงกดดันภายในสูงพอสมควร ตนคิดว่ามีแรงกดดันทั้งทาง รมว.อุตสาหกรรม เอง หรือภายในองค์กรเอง ทำให้เกิดการลาออก

...

เมื่อถามย้ำว่า การลาออกครั้งนี้เพื่อไม่ให้ความผิดถึงตัว นายณัฐชา ตอบว่า ถ้าการกระทำผิดเกิดในห้วงเวลามีตำแหน่งหน้าที่ และเข้าไปมีส่วนรู้เห็นการกระทำ ไม่ว่าจะลาออกหรือหนีไปที่ไหนก็สามารถกลับไปดำเนินคดีได้ เราเห็นข้าราชการหลายคนที่ลาออกไปแล้ว สุดท้ายเป็นคดีความกัน หลังจากนั้น 4-5 ปี ก็ต้องกลับมารับโทษอยู่ดี เพราะฉะนั้นการลาออกไม่ใช่คำตอบ