นายกฯ กำชับเร่งแก้ไขปัญหาเหตุเพลิงไหม้โรงงานเก็บกากสารเคมี อุตสาหกรรม พร้อมให้รีบหาสาเหตุ ระบุเป็นเรื่องซีเรียส เพราะส่งผลกระทบต่อประชาชน สั่งการฟื้นฟูเยียวยาโดยเร็วที่สุด


วันที่ 26 เมษายน 2567 เมื่อเวลา 14.00 น. ณ บริษัท วินโพรเสส จำกัด ตำบลบ้านค่าย อำเภอบ้านค่ายจังหวัดระยอง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพร้อมคณะตรวจติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาเหตุเพลิงไหม้โรงงานเก็บกากสารเคมี อุตสาหกรรม โดยมีน.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง หัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับ

นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯ ได้สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุการเกิดไฟไหม้ โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดรายงานว่าสาเหตุดังกล่าวยังไม่สามารถ สรุปสาเหตุได้ เพราะต้องรอให้เปลวไฟสงบจึงจะสามารถนำเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าไปตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งหนึ่ง โดยนายกฯ ได้สั่งการให้เร่งดำเนินการ เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ซีเรียส ส่งผลกระทบต่อประชาชน ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา พร้อมกับสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้

1. ขอให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลควบคุมสถานการณ์การปะทุ และเหตุเพลิงไหม้จนเข้าสู่สภาวะปกติ และจัดทำแผนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์

2. ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบมาลงทะเบียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบ้านค่าย องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัว องค์การบริหารส่วนตำบลบางบุตร เพื่อเป็นข้อมูลในการฟื้นฟูเยียวยาตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

...

3. ให้กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กำหนดจุดตรวจวัดคุณภาพอากาศตามชุมชน และรายงานผลให้ทราบ เพื่อเฝ้าระวังสุขภาพประชาชน

4. เร่งจัดการนำกากอันตรายในพื้นที่ไปกำจัดให้ถูกต้อง และเตรียมความพร้อมในการรับมือ และแก้ไขปัญหาในช่วงฤดูฝนซึ่งอาจทำให้วัตถุอันตรายรั่วไหลออกนอกพื้นที่ โดยให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมกำหนดแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน

5. ให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดบูรณาการตรวจสอบโรงงานประเภทนี้ทั่วประเทศ และจัดทำแนวทางมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในพื้นที่อื่นๆ อีก

“สำหรับสถานการณ์การแก้ไขปัญหาเหตุเพลิงไหม้โรงงานเก็บกากสารเคมี อุตสาหกรรม จากการติดตามสถานการณ์พบว่าเพลิงได้ถูกควบคุมให้อยู่ในวงจำกัดแล้ว มีการเผาไหม้เฉพาะบางจุดเท่านั้น ไม่เกินร้อยละ 3 ของพื้นที่ที่เกิดเพลิงไหม้ โดยมีหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนเข้าทำการควบคุมสถานการณ์และให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง พร้อมกับให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงจัดศูนย์พักพิงชั่วคราว ในด้านคุณภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานยังไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ โดยจังหวัดได้จัดเวรเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับประเด็นที่ประชาชนกังวลว่า หากฝนตกลงมาจะเป็นอย่างไร ทางจังหวัดได้ดำเนินแก้ไขปัญหาโดยการขุดสระน้ำพื้นที่บริเวณรอบโรงงาน จำนวน 2 ไร่ เพื่อกักเก็บและบำบัดน้ำสร้างความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน และนำดินจากการขุดสระน้ำมาสร้างแนวคันกันน้ำป้องกันน้ำไหลไปยังพื้นที่อื่นๆ” รองโฆษกฯ รัดเกล้า กล่าว