มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศทหารและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ รวม 10 ราย ทำผิดวินัยทหารฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง หนีราชการ ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2567 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศทหารและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ มีเนื้อหาว่า มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดนายทหารสัญญาบัตร สังกัดกองทัพบก จำนวน 8 ราย ออกจากยศทหาร ตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติยศทหาร พุทธศักราช 2479 และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติยศทหาร
(ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2501 ประกอบระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยผู้ซึ่งไม่สมควรจะดำรงอยู่ในยศทหารและบรรดาศักดิ์ พ.ศ. 2507 ข้อ 2 และข้อ 4 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่นายทหารสัญญาบัตรทั้ง 8 ราย ได้รับพระราชทานทุกชั้นตราตามข้อ 6 และข้อ 7 (2) (4) และ (8) ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ. 2548 ดังนี้
1. พันโท คงศักดิ์ หรือนิทธันต์ สุดสวัสดิ์ ออกจากยศทหาร ตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2567 เนื่องจากกระทำผิดวินัยทหารฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญจักรมาลา
2. พันโท สมพงษ์ ทับทอง ออกจากยศทหาร ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2567 เนื่องจากกระทำผิดวินัยทหารฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญราชการชายแดน
...
3. พันโท วิสัย สมบูรณ์ทรัพย์ ออกจากยศทหาร ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2567 เนื่องจากกระทำผิดวินัยทหารฐานขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาซึ่งสั่งโดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นเหตุให้ราชการเสียหายอย่างร้ายแรง และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญจักรมาลา
4. พันตรี จักรพันธ์ วาสนโกมุท ออกจากยศทหาร ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2561 เนื่องจากต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก ในความผิดต่อพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ความผิดต่อพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ ความผิดต่อพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน ความผิดตามประกาศหรือคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ลหุโทษ คดีถึงที่สุดเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2561 และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก และเหรียญจักรมาลา
5. ร้อยโท เริงศักดิ์ สระกัน ออกจากยศทหาร ตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2566 เนื่องจากกระทำความผิดฐานหนีราชการทหารในเวลาประจำการ และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย และเรียญจักรมาลา
6. ร้อยโท สุฉันท์ สุวรรณราช ออกจากยศทหาร ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2567 เนื่องจากกระทำผิดวินัยทหารฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นเหรียญทองช้างเผือก และเหรียญจักรมาลา
7. ร้อยโท สุรชัย คุ้มหน่อแนว ออกจากยศทหาร ตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 เนื่องจากกระทำผิดวินัยทหารฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย เหรียญทองช้างเผือก และเหรียญจักรมาลา
8. ร้อยโท ภาณุ ชูจีน ออกจากยศทหาร ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2567 เนื่องจากกระทำผิดวินัยทหารฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย เหรียญราชการชายแดน เหรียญทองช้างเผือก และเหรียญจักรมาลา
ประกาศ ณ วันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
และในวันเดียวกันยังมีประกาศอีกฉบับ คือ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศทหาร มีเนื้อหาระบุว่า มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดนายทหารสัญญาบัตร สังกัดกองทัพบก จำนวน 2 ราย ออกจากยศทหาร ตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติยศทหาร พุทธศักราช 2479 และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติยศทหาร (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2501 ประกอบระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยผู้ซึ่งไม่สมควรจะดำรงอยู่ในยศทหารและบรรดาศักดิ์ พ.ศ. 2507 ข้อ 2 ดังนี้
1. ร้อยตรี ณัฐปพน ไชยศร หรือภูชิตสายมงคล ออกจากยศทหาร ตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2565 เนื่องจากกระทำความผิดฐานหนีราชการทหารในเวลาประจำการ
2. ร้อยตรี อภินันท์ จันทร์ทอง ออกจากยศทหาร ตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน 2566 เนื่องจากกระทำความผิดฐานหนีราชการทหารในเวลาประจำการ
ประกาศ ณ วันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี