“เศรษฐา” ปลื้ม สงกรานต์ 2567 สื่อยกเป็นเวิลด์คลาสอีเวนต์ สั่งดูแลต่อเนื่องวันไหล เผย “พีระพันธุ์” กำลังพิจารณาอยู่ หลังราคาน้ำมันดีดตัวสูงขึ้น ส่วนกรณีนายกเล็กภูเก็ต เตรียมเสนอเป็นเมืองพิเศษ ขอรับไว้พิจารณาและหารือทุกส่วนก่อน
เมื่อเวลา 12.25 น. วันที่ 18 เมษายน 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า การเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ปีนี้มีประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้น ทั้ง บขส. เครื่องบิน รถไฟ เนื่องจากระบบขนส่งมีความพร้อม สะดวก และรวดเร็ว พร้อมขอขอบคุณกระทรวงคมนาคม การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข ศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) และทุกหน่วยงานเกี่ยวข้อง ที่ช่วยดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ ทำให้เกิดความร่วมมือในการเดินทาง
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า การจัดงานมหาสงกรานต์ 2567 ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากกว่าหลายปีที่ผ่านมา หลายสื่อยกให้เป็นเวิลด์คลาสอีเวนต์ โดยขอให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดำเนินการต่อเนื่องช่วงครึ่งหลังของเดือนเมษายน ที่ยังคงมีช่วงเทศกาลวันไหลในอีกหลายพื้นที่ ซึ่งยังต้องทำงานกันอีกต่อไป
...
ส่วนการลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต วันที่ 19 เมษายน 2567 ของนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต เตรียมเสนอขอให้เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ หรือเมืองพิเศษ โดยนำร่องเฉพาะเขตเทศบาลนครภูเก็ตก่อนนั้น นายเศรษฐา ระบุว่า ยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องดังกล่าว ซึ่งเมื่อได้รับแล้วก็จะพิจารณาและดำเนินการต่อไป ก็ต้องรวบรวมทุกความเห็นจากทุกภาคส่วนด้วย เพราะปัจจุบันตนเชื่อว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับ จ.ภูเก็ต เยอะ เนื่องจากเป็นจังหวัดใหญ่ในเรื่องการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ
ทางด้านการดำเนินการแก้ปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอยู่ตลอดเวลาขณะนี้ นายกรัฐมนตรี เผยว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กำลังพิจารณาอยู่ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดมาตรการลงโทษที่ชัดเจน กรณีสินค้าเกษตรที่ยังมีการเผา ทั้งที่เกิดจากการเผาทั้งในประเทศ และประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อตอกย้ำที่กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการต่างประเทศ พูดคุยและย้ำในเรื่องนี้ เพราะเราควบคุมไฟป่าในประเทศได้บ้างพอสมควรแล้ว และระยะหลังยังมีของประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาตรงนี้ จึงเป็นเรื่องสำคัญ.