ปลัด มท.เผยคืบหน้าแก้ หนี้นอกระบบ เข้าไกล่เกลี่ยหนี้แล้ว 46,926 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 27,434 ราย มูลหนี้ลดลง 1,061 ล้าน เดินหน้าแก้หนี้นอกระบบต่อเนื่อง คู่กับส่งเสริม พัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับลูกหนี้ตามนโยบายรัฐบาล
วันที่ 13 เม.ย. 2567 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงมหาดไทยได้เปิดรับลงทะเบียนให้ประชาชนที่มีความประสงค์ให้ทางราชการช่วยแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตามนโยบายรัฐบาล โดยมีประชาชนมาลงทะเบียน รวมทั้งสิ้น 153,400 ราย ซึ่งกระทรวงมหาดไทย ได้แจ้งให้ทุกจังหวัด อำเภอ เดินหน้าแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเชิญเจ้าหนี้และลูกหนี้มาเข้าสู่กระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้
โดยเมื่อเวลา 15.00 น. สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ได้รายงานข้อมูลการไกล่เกลี่ยหนี้ทั่วประเทศ มีจำนวนลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว 46,926 ราย สามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จ 27,434 ราย มูลหนี้ลดลงรวม 1,061.574 ล้านบาท และมีกรณีที่เจ้าหนี้-ลูกหนี้มีความประสงค์ให้เจ้าหน้าที่ได้ส่งต่อเรื่องไปยังพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจในพื้นที่ดำเนินคดี 385 คดี
โดยมีจังหวัด ที่สามารถเชิญ เจ้าหนี้-ลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้ได้มากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ 1. จังหวัดสงขลา 4,380 ราย 2. จังหวัดนครศรีธรรมราช 4,340 ราย 3. จังหวัดศรีสะเกษ 3,283 ราย 4. จังหวัดนครสวรรค์ 2,669 ราย และ 5. จังหวัดชัยภูมิ 2,350 ราย ซึ่งเจ้าหนี้และลูกหนี้ได้มาพบปะพูดคุยกัน โดยมีเจ้าหน้าที่เป็นคนกลาง และหลังจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ติดตามผลภายหลังจากการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบประสบความสำเร็จครบทั้งกระบวนการต่อไป
“เรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบทั่วประเทศ วันนี้จังหวัดสงขลายังคงเป็นจังหวัดที่มีลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยมากที่สุด 4,380 ราย และมี 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ ศรีสะเกษ นราธิวาส และจังหวัดระนอง ดำเนินการเชิญเจ้าหนี้และลูกหนี้ เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้วครบ 100% แล้วจากยอดที่ลงทะเบียน จึงขอให้ทุกจังหวัดที่เหลือบูรณาการกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย เร่งรัดให้เจ้าหนี้และลูกหนี้มาเข้าสู่กระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยให้ครบทุกกรณี เพื่อให้ลูกหนี้นอกระบบที่ลงทะเบียนไว้ได้รับการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบได้รวดเร็วและเป็นธรรม และต้องคำนึงถึงความสำเร็จในการไกล่เกลี่ยของทุกกรณี หากไม่สามารถใช้การเจรจาไกล่เกลี่ยได้ ให้ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมายทันที เพราะหนี้นอกระบบถือว่าผิดกฎหมาย คือ มีการปล่อยกู้โดยไม่มีใบอนุญาต อีกทั้งยังเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติม
...
นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 นี้ ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ควบคู่กับการอำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว โดยเน้นย้ำให้นายอำเภอ มอบหมายสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ ในฐานะเลขานุการ กรรมการบริหารศูนย์อำนวยการปฏิบัติการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ระดับอำเภอ (ศจพ.อ.) ดำเนินการใช้แนวทางแก้ไขปัญหาและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน (เมนูแก้จน) เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ลูกหนี้ ซึ่งประสงค์จะได้รับความช่วยเหลือให้สามารถลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มต่อยอด ในการสร้างอาชีพ รวมถึงโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสถาบันการเงินของรัฐ เพื่อไม่ให้กลับไปสู่วงจรหนี้นอกระบบ ซึ่งภาครัฐมีหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้กลุ่มลูกหนี้สามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาชี้เเนะให้พี่น้องกลุ่มนี้สามารถดูแลตัวเองได้เพื่อเป็นกำลังสำคัญของประเทศต่อไป
“แม้ว่าการรับลงทะเบียนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบจะปิดรับไปแล้ว อย่างไรก็ตามกระบวนการดำเนินการไกล่เกลี่ยหนี้ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนยังไม่สิ้นสุด ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารให้แก่พี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรณรงค์สร้างการรับรู้ให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบ หรือปัญหาอื่นๆ ที่ไม่สามารถแก้ไขด้วยตนเองได้ อาทิ การขาดทุนทรัพย์ในการศึกษาของบุตรหลาน การไม่มีอยู่อาศัย การไม่สามารถประกอบสัมมาชีพได้เนื่องจากเป็นผู้ป่วยติดเตียง หรืออื่นๆ ที่ต้องการรับความช่วยเหลือจากภาครัฐ สามารถติดต่อผ่านช่องทางศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทยได้ ทั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ หรือโทรสายด่วน 1567 โดยจะมีเจ้าหน้าที่บริการตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นพันธกิจของกระทรวงมหาดไทยในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” และในโอกาสนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้มั่นใจว่ากระทรวงมหาดไทยจะอยู่ดูแลพี่น้องประชาชนไม่เฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่จะคอยดูแลพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่องเเละตลอดไป เพื่อทำให้สังคมไทยมีรอยยิ้มเเละไร้กังวลจากทุกข์-ภัยที่อาจเกิดขึ้นทุกรูปแบบ เพราะคนมหาดไทยเปรียบดั่ง ราชสีห์ผู้ภักดีต่อเเผ่นดิน ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว