"สมศักดิ์ เทพสุทิน" รองนายกรัฐมนตรี แนะ จับตาดู ปรับ ครม. รับหากเป็นพรรคไทยรักไทย มีปรับบ่อย แก้ปัญหาในขณะนั้น เชื่อ "ทักษิณ" เคลื่อนไหวบ่อย จะทำให้การเมืองเดินหน้าเกิดแนวทาง สามัคคี-สมานฉันท์

เมื่อเวลา 09.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประเมินสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงสงกรานต์จะชุ่มฉ่ำ หรือร้อนแรงว่า ช่วงนี้ฝนตกลงมา นอกจากลดฝุ่น PM 2.5 ยังลดสถานการณ์ความร้อนแรงทางการเมืองลงมาด้วย และสภาฯ ปิดสมัยประชุม จึงเป็นช่วงเวลาการทำงานของฝ่ายบริหาร ที่ทำงานอย่างมีคุณภาพ และเกิดประโยชน์ต่อประชาชน

เมื่อถามถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ส่วนจะปรับหรือไม่ปรับนั้น ตนเองไม่ทราบ แต่ได้ยินจากสื่อมวลชน และวันนี้ ดูแล้วว่า กระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีรุนแรงขึ้น ดังนั้น จะต้องจับตาดูอะไรเป็นอะไร และใครจะไปอยู่ที่ไหน อย่างไร แต่ส่วนตัวยังไม่ทราบ เมื่อถามว่า จากประสบการณ์ส่วนตัวในช่วงนี้ควรปรับคณะรัฐมนตรีแล้วหรือไม่นั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า หากเป็นพรรคไทยรักไทย จะมีการปรับบ่อย เพื่อแก้ปัญหาในขณะนั้น และอาจจะเป็นไปตามที่มีข่าวออกมา รวมถึงอีกกระแสหนึ่ง มีการโหมมาในลักษณะนี้ จะมีข้อเท็จจริงหรือไม่ก็ต้องติดตามดู

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีความเคลื่อนไหวบ่อยขึ้นจะทำให้การเมืองกลับไปเป็นเหมือนเก่าหรือไม่ ว่า นายทักษิณ เป็นคนทำงาน และการหยุดไป 17 ปี ในสมองท่าน คงมีแต่เรื่องการพัฒนา สิ่งที่ท่านเห็นรอบโลก เห็นอะไรเยอะ และอยากให้ประเทศไทย เหมือนต่างประเทศที่มีอะไรดีๆ และเชื่อว่า จะเป็นการเสริมกัน เมื่อถามว่า ประชาชนบางส่วนยังกังวลระบอบทักษิณจะกลับมา นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ และระบอบทักษิณเป็นอย่างไร ตนก็ยังไม่เข้าใจ แต่ในเรื่องของการเมือง และสิ่งที่จะเดินไปถึงความแตกแยก คงไม่ใช่แน่นอน และเป็นเรื่องตรงกันข้าม แต่การกลับมาของนายทักษิณ จะทำให้แนวของความสมานฉันท์เป็นประเด็นสำคัญ

...

เมื่อถามว่า การกลับมาของนายทักษิณ จะทำให้สมานฉันท์ได้อย่างไร นายสมศักดิ์ ตอบว่า เมื่อก่อนไม่ได้สมานฉันท์ เป็นขั้ว เป็นอะไรต่างๆ แต่หลังจากนั้น ตนคิดว่า แนวทางของการเมืองออกแนวสามัคคี และเดินหน้า เมื่อถามว่า ทิ้งพรรคก้าวไกลอยู่พรรคเดียวใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ บอกว่า คงเป็นขั้วการเมือง ที่ต้องแก้ปัญหาของพรรคตัวเองมากกว่า เราคงไม่นำมาฉุกคิดเป็นเรื่องของขั้วการเมือง เพื่อให้เสียเวลาแก่การพัฒนาประเทศ