"พัชรวาท" รองนายกฯ และรมว.ทส.ส่งมอบความสุขวันสงกรานต์ 13-15 เม.ย. สั่ง "กรมป่าไม้" ยกเว้นค่าบริการท่องเที่ยวป่านันทนาการ 3 แห่ง ส่งเสริมท่องเที่ยว ช่วยการศึกษาเรียนรู้ทางธรรมชาติแก่ประชาชน
เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 67 พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ได้ให้ความสำคัญกับนโยบายขับเคลื่อนด้านการจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศในรูปแบบป่านันทนาการ ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติที่จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนทุกคนได้ตระหนักถึงคุณค่า คุณประโยชน์นานัปการของทรัพยากรธรรมชาติ และความสำคัญของป่าไม้ไทย และเล็งเห็นถึงความสำคัญของสถาบันครอบครัว โดยต้องการที่จะสร้างความผูกพัน ความอบอุ่น และสร้างความสุขของคนในครอบครัว และยังช่วยให้พี่น้องคนไทยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ด้าน นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า พล.ต.อ.พัชรวาท ได้มอบหมายให้กรมป่าไม้ ส่งมอบความสุขให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวเนื่องในวันสงกรานต์ วันที่ 13-15 เมษายน 2567 โดยยกเว้นค่าบริการในการเข้าไปท่องเที่ยวสำหรับบุคคลชาวไทยพร้อมยานพาหนะที่เข้าไปใช้บริการในป่านันทนาการ 3 แห่ง ได้แก่ ป่านันทนาการหินสามวาฬ จังหวัดบึงกาฬ ป่านันทนาการน้ำตกเขาอีโต้ จังหวัดปราจีนบุรี และป่านันทนาการทะเลหมอกอัยเยอร์เวง จังหวัดยะลา
...
โดยพื้นที่ป่านันทนาการทั้ง 3 แห่ง จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมจากประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการยกเว้นค่าบริการในพื้นที่ป่านันทนาการทั้ง 3 แห่งนี้ จึงถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ให้ขยายตัวเพิ่มยิ่งขึ้น และนับเป็นอีกหนึ่งการบริการที่ช่วยส่งเสริมการศึกษาเรียนรู้ทางธรรมชาติให้แก่ประชาชนควบคู่ไปกับการพักผ่อนหย่อนใจในพื้นที่ป่านันทนาการได้อย่างเต็มที่
ทั้งนี้ กรมป่าไม้ โดยสำนักจัดการป่านันทนาการ ได้เปิดพื้นที่ป่าไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติที่อยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้ และขึ้นทะเบียนเป็นป่านันทนาการรวม 30 แห่งทั่วประเทศ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีทัศนียภาพโดดเด่น สวยงาม มีจุดเด่นเฉพาะตัว มีกิจกรรมที่น่าสนใจพร้อมดึงดูดนักท่องเที่ยว สามารถช่วยให้การท่องเที่ยวภายในประเทศขยายตัวได้มากขึ้น นอกจากนี้ป่านันทนาการจะเป็นอีกจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่สามารถส่งเสริมให้เยาวชนไทยได้เข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถใช้เวลาร่วมกันของคนในครอบครัว เพื่อร่วมทำกิจกรรมในพื้นที่ป่านันทนาการ อีกทั้งยังเป็นการช่วยส่งเสริมให้ชุมชนท้องถิ่นมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยสำนักจัดการป่านันทนาการจะดูแลพื้นที่ให้มีความสะอาดและจะพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างประโยชน์ สร้างโอกาสให้กับประชาชนและชุมชนในพื้นที่ ทำให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการปกป้อง ดูแลรักษา และฟื้นฟูป่าไม้ พร้อมร่วมมือร่วมใจกันดูแลพื้นที่ป่านันทนาการให้คงความอุดมสมบูรณ์ และช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรของประเทศ ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญที่จะทำให้พื้นที่ป่าไม้ไทยได้คงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าว