นายกฯ สั่งยกระดับมาตรการเร่งด่วนแก้ไฟป่า หมอกควัน ฝุ่นละออง PM 2.5 ช่วงวิกฤติ ผ่าน 9 มาตรการ บังคับใช้กฎหมายเคร่งครัด ใครเผาป่าไม่มีละเว้น-ตัดสิทธิ์ช่วยเหลือเกษตรกรที่เผาพื้นที่ตัวเอง-ยกระดับเจรจาเพื่อนบ้าน ให้ สธ.จัดชุดเคลื่อนที่ดูแลประชาชนตามบ้าน

เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 9 เม.ย. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง แถลงการประชุม ครม.ว่า ได้กำชับให้ยกระดับมาตรการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน ฝุ่นละออง PM 2.5 ในช่วงสถานการณ์วิกฤติ โดยให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการทำงานผ่าน 9 มาตรการ ประกอบด้วย

1.ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานทหารระดมลาดตระเวนพื้นที่เสี่ยงรวมถึงบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้ลักลอบเผาป่าทุกกรณี ย้ำทุกกรณีไม่มีการละเว้น

2.ให้กระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำกับดูแลบังคับกฎหมายที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่อย่างเคร่งครัด 

3.ให้กระทรวงมหาดไทย สั่งการจังหวัด กำนันผู้ใหญ่บ้านร่วมกับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดชุดปฏิบัติการลาดตระเวนเฝ้าระวังเสี่ยงต่อการเผา

4.ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเขตความร่วมมือช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน  และให้ประกาศเวิร์กฟอร์มโฮมตามความจำเป็น เพื่อผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน  

5.ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาตัดสิทธิ์การรับความช่วยเหลือ การชดเชยต่างๆ จากรัฐ หากพบว่ามีการเผาในพื้นที่เกษตรกรเอง 

6.ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพิ่มความถี่ปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อป้องกันและบรรเทาสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน ฝุ่นละอองอย่างเร่งด่วน และร่วมกับรายงานความมั่นคงในจัดหาเฮลิคอปเตอร์ให้เพียงพอต่อการช่วยเหลือการดับไฟป่า 

...

7.ให้กระทรวงสาธารณสุขจัดชุดเคลื่อนที่ลงเยี่ยมบ้านดูแลสุขภาพประชาชนอย่างทั่วถึง ทันท่วงที และสนับสนุนอุปกรณ์ส่วนบุคคลสำหรับกลุ่มเสี่ยง

8.ให้สำนักงานงบประมาณพิจารณางบกลางให้จังหวัดเพื่อให้ทันต่อการแก้ไขปัญหาในช่วงสถานการณ์วิกฤติ ตามความเหมาะสมและจำเป็นเร่งด่วน

9.กรณีหมอกควันข้ามแดน ให้กระทรวงการต่างประเทศยกระดับการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านทั้ง เมียนมา และลาว ให้ลดการเผาป่าอย่างทันที และตั้ง KPI ให้ชัดเจน 

นอกจากนี้ นายกฯ ยังเปิดเผยอีกว่า ในช่วงบ่ายวันนี้จะมีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการทั้ง 9 ข้อนี้ โดยมี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธาน.