“นายกฯ เศรษฐา” ไหว้ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ ก่อนพบชาวเมืองคอน บอก เพชรอย่างไรก็คือเพชร เป็นจังหวัดใหญ่ มีศักยภาพสูง เดินหน้าพัฒนาสร้างรายได้หลายด้าน ยัน ไม่เกิน 6 เดือนกลับมาติดตามความคืบหน้า

เมื่อเวลา 14.35 น. วันที่ 8 เมษายน 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางมากราบนมัสการ พระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ (อภิชิต พุทฺธสโร น.ธ.เอก พธ.ม.) เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ รองรองเจ้าคณะอำเภอสิชล พร้อมสนทนาธรรมกับเจ้าอาวาส ที่วัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช 

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะมาดูแล จ.นครศรีธรรมราช ไม่ใช่เฉพาะการท่องเที่ยว แต่จะดูแลเรื่องการคมนาคมด้วย มาที่วัดเจดีย์ ไม่คิดว่าจะเจริญขนาดนี้ มีผลพวงทางเศรษฐกิจมากมาย ทำให้ความเป็นอยู่ประชาชนดีขึ้น การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ศาสนา ก็ยังมีช่องให้ทำอีกมาก การลงมาพื้นที่ครั้งนี้นอกจากมาดูแลในเรื่องเส้นทางคมนาคม การขยายเส้นทางการบิน และการท่องเที่ยวแล้ว ก็จะมาดูการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและศาสนาด้วย จากนั้น พระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ มอบเหรียญไอ้ไข่รุ่นกฐิน 59 ซึ่งเป็นรุ่นที่ไม่มีการจำหน่ายให้บูชา ให้แก่นายกรัฐมนตรีเพื่อเป็นสิริมงคล และได้ไหว้พร้อมปิดทองไอ้ไข่ เพื่อเป็นสิริมงคลในการเดินทางมาเยือน จ.นครศรีธรรมราช

...

จากนั้น นายกรัฐมนตรี พบปะประชาชน โดยเมื่อมาถึงมีประชาชนผูกผ้าขาวม้าและชูป้ายข้อความต่างๆ เช่น โหม๋เราต้อนรับนายกฯ, นายกฯ นิด ดูดีอย่างแรง, ขอราคายางตลอดไป, นายกฯ เศรษฐา ทำเพื่อประชาชน เป็นต้น ขณะที่ นายเศรษฐา กล่าวว่า สวัสดีพี่น้องเมืองคอนที่รักทุกคน ตั้งแต่เข้ามาเป็นรัฐบาลครบ 7 เดือนเต็มแล้ว ได้รู้จักกับ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่เป็นที่รักของพวกท่านทุกคน มีการพูดคุยกันตลอดเวลาเกี่ยวกับเรื่องการพัฒนาประเทศไทย แต่เหนือสิ่งอื่นใดคิดว่าวันนี้เรามาที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยมีการชวนให้มาดูและช่วยกันพัฒนายกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องทุกคนที่นี่ได้อย่างไร 

“เราทำงานกันมา 7 เดือนแล้ว วันนี้เป็นที่ประจักษ์ดีอยู่แล้วว่ารัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับ จ.นครศรีธรรมราช โดยที่มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ รัฐมนตรีหลากหลายกระทรวงมาในวันนี้ เรามาดูและยืนยันว่าจริงๆ แล้ว เพชรอย่างไรก็เป็นเพชรเสมอ ฉะนั้น ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะให้ความสำคัญและจะเดินหน้าต่อไปที่จะพัฒนาเมืองนครศรีธรรมราชให้เป็นเมืองหลัก สมกับที่มีวัฒนธรรม ประเพณี อาหาร สถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย”

นายเศรษฐา ระบุต่อไปว่า จริงๆ แล้วอยากมามากกว่า 1 วัน แต่ถ้าคอยเวลามายาวๆ คงใช้เวลาอีกนานกว่าจะมาได้ แต่เชื่อว่าที่มาแค่วันเดียวก็พอจะเห็นว่าปัญหาคืออะไร และเราต้องกลับไปทำการบ้านกันอย่างไรบ้าง อย่างแรกเลย คือเรื่องของสนามบิน เห็นด้วยว่ามีศักยภาพสูง ต้องเปิดให้มีการเดินทางระหว่างประเทศ และเข้าใจว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากสิงคโปร์ มาเลเซีย เข้ามาท่องเที่ยวเยอะมาก เรายังไม่ได้เตรียมความพร้อมในแง่ของสนามบิน แต่แน่นอน นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม จะกลับไปทำการบ้าน 

ทั้งนี้ ไม่ใช่แค่เตรียมการเปิดสำหรับการเดินทางต่างประเทศอย่างเดียว แต่การขยายรันเวย์ให้ยาวขึ้นเพื่อรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ สามารถทำให้เครื่องบินขนาดความจุ 200 คน บินมาลงได้จากหลายประเทศในทวีปเอเชีย เรื่องนี้สำคัญ ไม่ใช่แค่เรื่องของการท่องเที่ยวอย่างเดียว เราให้ความสำคัญ วันนี้ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเที่ยว มาด้วย จะนำเรื่องการท่องเที่ยวที่เกี่ยวโยงกับทางศาสนา วัฒนธรรม ไปศึกษาและขยายผลต่อว่าจะทำอย่างไรให้พี่น้องคนไทยทุกคนรู้จัก จ.นครศรีธรรมราช ได้ดีขึ้น 

ขณะที่เรื่องของการเกษตรก็สำคัญ ทราบมาว่าที่นี่ปลูกยางเยอะ และบังเอิญเป็นจังหวะดีตอนนี้ ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาราคายางขึ้นอย่างต่อเนื่อง หวังว่าเราจะช่วยกันทำงานเพื่อที่จะรักษาระดับราคายางให้สูงอย่างนี้ต่อไป ส่วนปัญหาความยากจน ปัญหาความเหลื่อมล้ำต่างๆ เชื่อว่ามีหลากหลายมิติ วันนี้มีผู้แทนราษฎรที่เป็นผู้หญิงตัวเล็กใจใหญ่ได้มาดูแลกระทรวงสำคัญ คือกระทรวงอุตสาหกรรม ถือเป็นกระทรวงที่ใหญ่กระทรวงหนึ่ง และมีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักของประเทศ ฉะนั้นมั่นใจว่าจังหวัดนี้จะถูกพัฒนาไปสู่ศักยภาพที่สามารถจะไปถึงได้ 

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายมิติที่รัฐบาลพยายามทำ ไม่ว่าจะเป็นการแก้หนี้นอกระบบ จึงอยากขอความกรุณาหากท่านใดเป็นหนี้นอกระบบ เรามีระบบในการเข้ามาแจ้งและให้ทางเจ้าหนี้กับลูกหนี้พบกัน โดยมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการคลัง ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายการปกครอง เข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาหนี้สิน ขอวิงวอนหากมีปัญหาเหล่านี้อย่าได้นิ่งนอนหรือกลัวอิทธิพล บ้านเมืองมีขื่อมีแป รัฐบาลจะดูแล เพราะถ้าทำงานเหนื่อยมาจ่ายดอกเบี้ย เชื่อว่าพวกเราทุกคนรับไม่ได้ และอยากจะให้หมดไปจากสังคมไทย

“จริงๆ แล้วนครศรีธรรมราช เป็นจังหวัดใหญ่ มีศักยภาพสูง สส.เยอะ ไม่ควรเป็นเมืองรอง แต่เป็นเมืองหลักที่ต้องการดูแลเอาใจใส่จากรัฐบาลให้มากขึ้น ผมทำงานมาแล้ว 7 เดือน รวบรวมข้อมูลมาเยอะมาก วันนี้ได้มาพบปะกับพี่น้อง จากวันนี้เป็นต้นไปเราเริ่มนับหนึ่งดีกว่า จะขุดศักยภาพของ จ.นครศรีธรรมราช มาได้มากน้อยแค่ไหน การเยือนครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย ไม่เกินอีก 6 เดือนจะกลับมาอีก และมาดูความคืบหน้าการทำงานของทุกคน”

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ถ่ายภาพร่วมกัน และเดินทักทายประชาชน พร้อมเยี่ยมชมซุ้มกิจกรรมต่างๆ ก่อนเดินทางกลับ กทม.