“เศรษฐา” ตรวจเยี่ยมสนามบินสมุย บอกข่าวดีเตรียมขยายรันเวย์ คาดเสร็จในต้นปีหน้า ย้ำ ไม่นิ่งนอนใจปัญหาฝุ่น PM 2.5 ขอทุกภาคส่วนร่วมมือ เน้นย้ำดูแลกลุ่มเปราะบาง วางมาตรการตรวจความเสี่ยงเป็นมะเร็งปอด

ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในการลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช ระหว่างวันที่ 6-8 เมษายน 2567 ซึ่งวันนี้ (8 เมษายน) เป็นวันสุดท้าย โดยหลังจากที่ นายกรัฐมนตรีพักค้างคืนที่เกาะสมุยเป็นวันที่ 2 นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ตรวจเยี่ยมท่าอากาศยานนานาชาติสมุย เพื่อหารือถึงแนวทางในการขยายรันเวย์ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว

นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น่าจะเป็นข่าวดีสำหรับพี่น้องชาวสมุย ที่สนามบินสมุยได้มีการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างส่วนต่อขยายรันเวย์ คาดว่าจะเสร็จในต้นปีหน้า ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาในเรื่องของที่ดินและการลงทุน หากแล้วเสร็จจะสามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ เช่น Airbus 320 และ Boeing 737 และพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้มากขึ้น

...

“ผมได้ขอให้ทางจังหวัดพิจารณาเตรียมความพร้อมทางด้านระบบสาธารณูปโภค ให้สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มมากขึ้นด้วยครับ” 

จากนั้น นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางมายังวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นครศรีธรรมราช เพื่อสักการะพระบรมธาตุเจดีย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นที่เคารพของชาวไทย ก่อนปฏบัติภารกิจที่จังหวัดนครศรีธรรมราชตลอดทั้งวัน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 10.28 น. นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กด้วยว่า รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจเรื่องฝุ่น พยายามอย่างเต็มที่ ทุกมิติ เพื่อแก้ไขปัญหาให้เร็วและยั่งยืนที่สุด ทราบดีถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน จากผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 และมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาอย่างรอบด้าน โดยได้ขอให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ไปช่วยบริหารสถานการณ์และสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ตามที่จังหวัดได้ออกมาตรการทางสาธารณสุข จังหวัดเชียงใหม่ ในภาวะ PM 2.5 มาตรการด้านสุขภาพ จังหวัดได้เตรียมการเรื่องห้องปลอดฝุ่น การจัดหาหน้ากากอนามัย และตนได้เน้นย้ำให้ดูแลกลุ่มเปราะบางเป็นพิเศษ รวมทั้งให้วางมาตรการเพื่อตรวจความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปอดด้วย

ส่วนเรื่องไฟป่า ทางจังหวัดเชียงใหม่ ได้ใช้ทุกมาตรการเพื่อป้องกันการเผาป่า และไฟป่า ใช้เครื่องบินฝนหลวงบรรเทาสถานการณ์ ใช้มาตรการด้านอาชีพและการตั้งรางวัลนำจับผู้เผาป่า แต่ก็ยังพบการเผา ซึ่งเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการในการดับไฟอย่างรวดเร็วที่สุด แต่ยังมีปัญหาการเผาจากประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้อำเภอชายแดนมีค่า PM 2.5 สูงมาก 

“นี่คือปัญหาระดับชาติที่รัฐบาลต้องขอความร่วมมือกับทุกภาคส่วน รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน ฝากพี่น้องประชาชนทุกท่านช่วยดูแลพื้นที่ของท่านเอง หากพบการเผา หรือพบไฟไหม้ป่า ช่วยแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรืออำเภอ เพื่อเข้าระงับสถานการณ์โดยเร็วครับ”