บางครั้งความตั้งใจ...ก็สวนทางกับความเป็นจริง รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ประกาศ จะตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร เพื่อลดภาระรายจ่ายพี่น้องประชาชนผู้ใช้น้ำมันดีเซล

แต่ปัญหาคือราคาน้ำมันตลาดโลกอยู่นอกเหนือการควบคุมของรัฐบาลไทย

การจะตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร รัฐบาลต้องใช้กองทุนน้ำมันไปอุ้มส่วนต่างน้ำมันดีเซล

ที่ผ่านมารัฐบาลใช้กองทุนน้ำมันอุดหนุนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลสูงถึง 4.17 บาทต่อลิตร บวกลดภาษีสรรพสามิตอีกลิตรละ 1 บาท ก็ยังไม่พอ

เพราะราคาต้นทุนน้ำมันดีเซลล่าสุดอยู่ที่ลิตรละ 36 บาทขาดตัว

หากจะอุ้มราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อไป จะเป็นภาระหนักเกินกำลังรัฐบาล

เนื่องจากคนไทยบริโภคน้ำมันดีเซลสูงถึง 70 ล้านลิตรต่อวัน

เท่ากับรัฐบาลจะต้องจ่ายเงินอุดหนุนถึง 420 ล้านบาทต่อวัน หรือ 12,600 ล้านบาทต่อเดือน

ข้อสำคัญ เงินกองทุนน้ำมันที่กู้มา 1 แสนล้านบาท ก็เหี้ยนเต้ไปตั้งแต่สิ้นเดือนมีนาคม

รัฐบาลเศรษฐาจึงต้องกลืนน้ำลาย ยอมให้ราคาน้ำมันดีเซลขยับเกิน 30 บาท ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน

จนกว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกขาขึ้นจะกลับสู่ขาลง

(ซึ่งคงจะอีกนาน)!!

“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าในช่วงหยุดยาวฉลองเทศกาลสงกรานต์ไทย

รัฐบาลจะอดทนตรึงราคานํ้ามันดีเซลต่อไป เพื่อบรรเทาภาระรายจ่ายประชาชนที่กำลังจะเดินทางท่องเที่ยวกันระเบิดเถิดเทิง

แต่น่าเสียดาย...ความตั้งใจของนายกฯเศรษฐา มันตรงข้ามกับความเป็นจริง

เพราะ ปตท.และบางจาก ได้ประกาศปรับราคาขายปลีกนํ้ามันดีเซล จากลิตรละ 29.94 บาท เป็นลิตรละ 30.44 บาทไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานซืน

...

ปตท.และบางจาก ชิงสุกก่อนห่าม ขึ้นราคานํ้ามันดีเซลลิตรละ 50 สตางค์ โดยไม่รอสัญญาณไฟเขียว จากรัฐบาล

“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่า การบิดเบือนราคานํ้ามันเพื่อหวังผลการเมืองไม่สามารถทำได้ตลอดไป

รัฐบาลไม่สามารถควักกระเป๋าจ่ายอุดหนุนส่วนต่างราคานํ้ามันดีเซลไปได้ตลอดกาล

เนื่องจากรัฐบาลได้อุดหนุนราคานํ้ามันดีเซลจนริดสีดวงบานเป็นกลีบมะไฟมาแล้ว 6 เดือน!!

ถ้ามองแง่บวก...แม้ต้นทุนนํ้ามันดีเซลกระโดดไปถึงลิตรละ 36 บาท

รัฐบาลเศรษฐาจะยอมให้ขึ้นราคาดีเซลไม่เกินลิตรละ 32 บาท เพื่อบรรเทาผลกระทบผู้ใช้นํ้ามันดีเซล

ดังนั้น รัฐบาลยังต้องกระเสือก กระสนหาเงินไปอุดหนุนราคาขายปลีกนํ้ามันดีเซลอีกลิตรละ 4 บาท

เป็นเงินถึง 280 ล้านบาทต่อวัน หรือ 8,400 ล้านบาทต่อเดือน

อย่างไรก็ดี “แม่ลูกจันทร์” กระชุ่น นายกฯเศรษฐาให้กัดฟันตรึงราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ต่อไปจนกว่าจะสิ้นลมปราณ

เพราะราคาก๊าซหุงต้มเป็นสาร ตั้งต้นค่าครองชีพประชาชน

ขืนพรวดพราดขึ้นราคาก๊าซหุงต้มอีกตัว...ยุ่งตายชักเชียวนะโยม.

“แม่ลูกจันทร์”

คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม