"รัดเกล้า-เกณิกา" แท็กทีมนำสื่อล่องใต้ "สุราษฎร์-เมืองคอน" ติดตามสถานการณ์ ปาล์ม-ยางพารา ด้านผู้ประกอบการไบโอดีเซลวอนรัฐ ให้ความรู้เกษตรกร ปลูกปาล์มดีมีคุณภาพ-ชาวสวนยางฯ ขอบคุณ "นายกฯ-ธรรมนัส" ทำราคาพุ่งถึง 95 บาทใน 6 เดือน
วันที่ 6 เม.ย. ที่ จ.สุราษฎร์ธานี สำนักโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี นำโดย นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และน.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จัดกิจกรรม Press Tour ได้นำคณะสื่อมวลชนกว่า 20 สำนักข่าว ทั้งสื่อหลักและสื่อดิจิทัล ลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเยี่ยมชมกิจกรรม-โครงการตามนโยบายรัฐบาล
...
โดยจุดแรก นำเยี่ยมชมบริษัท นิวไบโอดีเซล จำกัด อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ น้ำมันไบโอดีเซล น้ำมันปาล์มโอเลอิน ก๊าซชีวภาพการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ และการนำไปเป็นส่วนผสมในอุตสาหกรรมด้านอาหาร เช่น น้ำมันพืชประกอบอาหาร เนยขาว นมข้นหวาน ไอศกรีม ครีมเทียม นมเทียม และสบู่ สำหรับการนำไปผลิตเป็นไบโอดีเซลนั้น น้ำมันปาล์มเป็นเชื้อเพลิงที่สะอาดสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล จึงสามารถผสมกับน้ำมันดีเซลได้สูงถึง 20% (เรียกว่า B20) โดยไม่ก่อปัญหากับเครื่องยนต์
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการต้องการให้ภาครัฐสนับสนุนในด้านต่างๆ ดังนี้ 1. การจัดมาตรฐานของคุณภาพปาล์ม ขณะที่คุณภาพของปาล์มยังมีคุณภาพไม่เพียงพอ จึงอยากให้รัฐบาลเข้ามามีส่วนในการจัดมาตรฐานว่าปาล์มชนิดไหนนับเป็นปาล์มที่มีคุณภาพสำหรับการให้ราคาก็จะทำให้ได้ราคาที่ดีตามคุณภาพของปาล์ม 2. กระตุ้นให้มีการปลูกปาล์มเพิ่มมากขึ้น แต่ต้องมีการสำรวจว่าพื้นที่ไหนมีความเหมาะสมในการปลูกปาล์ม ปลูกแล้วได้ปาล์มที่มีคุณภาพ 3. การส่งเสริมไบโอดีเซล ตามเป้าหมายที่ประเทศไทยจะเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) 4. เพิ่มช่องทางการขายซึ่งในขณะนี้กำลังการผลิตปาล์มมีสูง แต่แหล่งหรือตลาดที่จะขายปาล์มนั้นมีจำกัดจึงอยากให้รัฐบาลเพิ่มช่องทางการขายให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรและเป็นตัวเลือกการแก้ไขปัญหาเมื่อเจอวิกฤติราคาปาล์มต่ำได้ รวมไปถึงการให้ความรู้กับเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มตั้งแต่การคัดเลือกพันธุ์ที่ถูกต้องและมีคุณภาพไปจนถึงกระบวนการปลูกและผลิตเพื่อให้ได้ผลปาล์มที่มีคุณภาพ ซึ่งจะทำให้ได้ราคาดีและในการส่งให้โรงงานนำไปผลิตน้ำมันที่ได้คุณภาพด้วย
ต่อมา สำนักโฆษก นำคณะสื่อมวลชน ไปยังสำนักงานตลาดกลางยางพารา จ.สุราษฎร์ธานี ติดตามสถานการณ์ผลผลิตและราคายางพารา โอกาสนี้คณะเกษตรกรชาวสวนยางและสถาบันเกษตรชาวสวนยาง ได้ขอบคุณรัฐบาลสำหรับมาตรการต่างๆ และการปราบยางพาราเถื่อน ที่ทำให้ราคายางพาราสูงขึ้น
โดยน.ส.เกณิกา กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลได้นำคณะสื่อมวลชนมารับฟังปัญหาความเดือดร้อนและข้อเสนอแนะของเกษตรกรชาวสวนยาง พร้อมขอเป็นกำลังใจให้เกษตรกรชาวสวนยางทุกคน และหวังว่าราคายางพาราจะถึงหลักร้อยภายในเร็ววันนี้
จากนั้น ทีมโฆษกประจำสำนักนายกฯ และคณะสื่อมวลชน รับฟังภารกิจสำนักงานตลาดกลางยางพารา จ.สุราษฎร์ธานี การยางแห่งประเทศไทย และสถานการณ์ราคายางในตลาด ขณะที่ นายญาณกิตติ์ ฮารุดีน ผอ.สำนักงานตลาดกลางยางพารา จ.สุราษฎร์ธานี ในฐานะตัวแทนเกษตรกรชาวสวนยาง ขอบคุณรัฐบาล นายกฯ และรมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่ดูแลให้ราคายางมีราคาสูงขึ้นจากราคา 48 บาท/กก. เป็น 95/กก. แล้วในปัจจุบัน รวมทั้ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เตรียม Kick Off ยางพารา มาตรฐาน EUDR หรือตลาดยุโรปในวันที่ 20 เม.ย. พร้อมเชิญชวนรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ สื่อมวลชนไปชมสวนยางและร่วมทดลองกรีดยาง
ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง จะเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.สุราษฎร์ธานี (อำเภอเกาะสมุย) และ จ.นครศรีธรรมราช ระหว่างวันที่ 6-8 เม.ย. เพื่อติดตามงานสำคัญตามนโยบายรัฐบาลนั้น